In News

อุตฯเผยสั่งปิดโรงงานในนิคมบ่อทองแล้ว ย้ำอุตฯยุคใหม่ต้องปลอดภัยกว่านี้



กรุงเทพฯ-นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์เหตุถังผสมสารเคมีระเบิด บริษัท เซียง เพียว นัน ฟอเรส เมทัล จำกัด นิคมอุตสาหกรรมบ่อทอง เลขที่ 888/888 หมู่ที่ 8 ตำบลบ่อทอง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตสังกะสี ตะกั่ว ดีบุก เกิดระเบิดขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ของวันนี้ (26 ตุลาคม 2567) เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นคนงานชาวพม่า ตกลงไปในถังผสมสารเคมี เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 1 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย เป็นคนงานชาวพม่าทั้งหมด มีอาการสาหัส 3 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 4 ราย เร่งนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลกบินทร์บุรีเรียบร้อยแล้ว


โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า หลังเกิดเหตุช่วงสายวันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์) ได้เร่งหารือโดยด่วน เบื้องต้นรัฐมนตรีฯ ได้สั่งการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ให้สั่งปิดโรงงาน เพื่อตรวจสอบทันที พร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ได้เน้นย้ำมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในการนิคมฯ ต้องเข้มงวด ทั้งการกำกับตามระเบียบ ทั้งระบบสาธารณูปโภคภายใน โดยเฉพาะโรงงานส่วนที่ประกอบกิจการที่มีวัตถุอันตราย ไว้ครอบครอง ต้องปฏิบัติตาม พรบ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 อย่างเคร่งครัด พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ อก. ที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลอย่างเข้มงวดโรงงานลักษณะนี้เพื่อไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมเช่นนี้อีก

ด้านนพ.มนู ศุกลสกุล สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 6 กล่าวถึงเหตุการณ์ถังผสมสารเคมีระเบิดภายในโรงงานเคมีภัณฑ์ จ.ปราจีนบุรี ว่า โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้รับแจ้งเกิดเหตุ เมื่อเวลา 09.22 น.วันนี้ ที่บริษัทแห่งหนึ่งในโรงงานนิคมอุตสาหกรรมบ่อทอง ตำบลบ่อทอง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตสังกะสี ตะกั่ว ดีบุก มีคนงาน จำนวน 232 คน เป็นชาย 205 คน หญิง 27 คน สาเหตุเบื้องต้นทราบว่าเกิดการระเบิดในกระบวนการผสมสารเคมี ส่งผลให้คนงานที่ยืนอยู่บนฝาถัง ตกลงไปในหม้อผสมสารเคมีสำหรับหลอมเหล็กและอลูมิเนียม มีสารตะกั่วและกรดซัลฟูริก (1830) ซึ่งวิศวกรชาวจีนให้ข้อมูลว่าบ่อไม่มีป้ายระบุว่าเป็นบ่ออะไร

นพ.มนูกล่าวต่อว่า ขณะเกิดเหตุมีคนงานทำงานประมาณ 70 คน มีผู้ได้รับผลกระทบ 28 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย นำส่งโรงพยาบาลกบินทร์บุรีรวม 13 ราย อาการปานกลางสีเหลือง 2 ราย อาการเล็กน้อยสีเขียว 10 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย รวมมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ทั้งหมดเป็นแรงงานต่างชาติชาวเมียนมา เบื้องต้นได้ส่งทีมแพทย์ฉุกเฉิน (EMS) ลงปฏิบัติงานในพื้นที่บริเวณหน้าโรงงาน เพื่อคัดแยกคนงานนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลและให้การดูแลเบื้องต้น ส่วนภายนอกโรงงาน ได้จัดทีมอนามัยสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุขอำเภอ ร่วมกันเฝ้าระวังผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรอบ รวมถึงประสานโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งเป็นโรงพยาบาลศูนย์ในพื้นที่เตรียมแพทย์อาชีวเวชศาสตร์ให้พร้อมดูแลช่วยเหลือด้วย ซึ่งขณะนี้ ทาง อบต.บ่อทอง ได้แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังสุขภาพ หลีกเลี่ยงไม่เข้าใกล้สถานที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งการให้โรงงานหยุดประกอบการทั้งหมดแล้ว