Biz news

เจาะวิธีเลี่ยงความล่าช้าพิธีการศุลกากร นำเข้าสินค้าของผู้ประกอบการชาวไทย



กรุงเทพฯ-ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกาภิวัฒน์ที่เติบโตขึ้นในปัจจุบัน พิธีการศุลกากรที่มีประสิทธิภาพถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่ต้องพึ่งพาการค้าระหว่างประเทศ ความเฟื่องฟูของตลาดผู้บริโภคและธุรกิจท้องถิ่นในประเทศไทยส่งผลให้การนำเข้าสินค้ากลายเป็นรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งสร้างโอกาสมากมายในการก้าวขึ้นสู่เวทีการค้าระดับสากล อย่างไรก็ตาม รายงานการวิจัยล่าสุดของ เฟดเอ็กซ์ ซึ่งร่วมมือกับ Forbes Insights ชี้ให้เห็นว่า เงื่อนไขและการเดินเอกสารศุลกากรที่ซับซ้อนได้ก่อให้เกิดความท้าทายต่อธุรกิจที่กำลังมองหาลูกค้าใหม่ในตลาดต่างประเทศ ดังนั้น บทความนี้จะพาทุกท่านเจาะลึกขั้นตอนการนำเข้าสินค้า รวมถึงวิธีการที่ เฟดเอ็กซ์ ช่วยอำนวยความสะดวกในขั้นตอนพิธีการศุลกากรให้ดำเนินไปได้อย่างง่ายดายและไร้อุปสรรค ช่วยผู้ประกอบการชาวไทยหลีกเลี่ยงความล่าช้าและความเสียหายที่ไม่จำเป็นในพิธีศุลกากร เพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน และรับรองการขนส่งสินค้าที่ตรงเวลา

การเข้าใจในประเภทของพิธีการศุลกากร

เมื่อมีการนำเข้าสินค้ามายังประเทศไทย ไม่ว่าจะในฐานะบุคคลหรือธุรกิจ ขั้นตอนแรกคือการกำหนดประเภทของการดำเนินพิธีศุลกากรสำหรับการขนส่ง

การดำเนินพิธีการศุลกากร ประกอบด้วย 2 ประเภท คือ พิธีการแบบเร่งด่วน (Express Clearance) และพิธีการเต็มรูปแบบ (Formal Clearance) โดยการแบ่งประเภทของพิธีการ 2 รูปแบบนี้ จำเป็นต้องคำนึงถึงประเภท มูลค่า และปัจจัยอื่น ๆ ของสินค้าที่ต้องการนำเข้า การเลือกประเภทของพิธีการฯ ที่ถูกต้องสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการขาดทุน ความล่าช้า รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ทางด้านภาษีและใบอนุญาต ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทั้งกระบวนการนำเข้าและการดำเนินธุรกิจโดยรวม

พิธีการแบบเร่งด่วน (Express Clearance)

พิธีการแบบเร่งด่วน หรือ Express Clearance จะดำเนินการโดยบริษัทผู้ให้บริการด้านการขนส่ง เช่น เฟดเอ็กซ์ พิธีการประเภทนี้เหมาะสำหรับการขนส่งที่ต้องการความไวต่อเวลา มักเสร็จสิ้นภายในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องเสียค่าดำเนินพิธีการศุลกากรและค่าธรรมเนียมคลังสินค้า พิธีการแบบเร่งด่วนไม่จำเป็นต้องมีการลงทะเบียนก่อนการนำเข้า คล้ายกับการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซที่ต้องมีการจัดส่งระหว่างประเทศ ซึ่งหมวดหมู่ของสินค้าในพิธีการแบบเร่งด่วนโดยทั่วไปแล้วจะเป็นจำพวก เอกสาร สินค้าตัวอย่าง สินค้าที่มีมูลค่า CIF (Cost, Insurance, Freight) น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1,500 บาท หรือสินค้าที่มีมูลค่า FOB (Free On Board)ต่ำกว่า 40,000 บาท ไม่รวมสินค้าต้องห้ามหรือสินค้าต้องกำกัด

พิธีการเต็มรูปแบบ (Formal Clearance)

พิธีการเต็มรูปแบบ หรือ Formal Clearance คือพิธีการที่ผู้นำเข้าจำเป็นต้องลงทะเบียนโปรไฟล์ผู้นำเข้ากับกรมศุลกากร และมักจะดำเนินการร่วมกับบริษัทผู้ให้บริการด้านการขนส่ง เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านเอกสารที่ละเอียดและซับซ้อน รวมถึงการประสานงานกับเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรให้การดำเนินการเป็นไปได้อย่างถูกต้องตามข้อกำหนด พิธีการเต็มรูปแบบเหมาะสำหรับผู้นำเข้าที่ต้องการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI), เขตอุตสาหกรรมส่งออก (EPZs) และเขตปลอดอากร หรือแม้แต่ผู้ที่ต้องการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามปัจจัยส่วนบุคคล

พิธีการประเภทนี้มักจะใช้ระยะเวลาการจัดส่งนานกว่าพิธีการแบบเร่งด่วน เนื่องจากมีเอกสารและขั้นตอนเพิ่มเติม รวมถึงมีการตรวจสอบคุณสมบัติสำหรับสิทธิประโยชน์ของผู้นำเข้า โดยสำหรับลูกค้าที่เคยลงทะเบียนนำเข้ากับกรมศุลกากรแล้ว จะใช้ระยะเวลาการจัดส่งมากกว่าพิธีการแบบเร่งด่วน 1-2 วันทำการ และสำหรับกรณีที่ไม่เคยลงทะเบียนผู้นำเข้ากับกรมศุลกากร จะมีความจำเป็นต้องใช้เวลาในการลงทะเบียนและดำเนินพิธีการขั้นต่ำ 7-10 วันทำการ

หมวดหมู่ของสินค้าที่จัดส่งในพิธีการเต็มรูปแบบจะถูกจัดเก็บภาษีตามประเภทสินค้า ซึ่งอาจรวมสินค้าที่มีมูลค่า FOB มากกว่าหรือเท่ากับ 40,000 บาท หรือสินค้าต้องกำกัดที่จำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.), สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

วิธีการนำเข้าสินค้าผ่านศุลกากรอย่างราบรื่น

แม้ว่าการดำเนินพิธีการศุลกากรจะมีความซับซ้อน แต่เคล็ดลับที่มีประโยชน์ดังต่อไปนี้ จะช่วยลดปัญหาและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการนำเข้าสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการชาวไทย

  1. ลงทะเบียนล่วงหน้า: สำหรับผู้นำเข้าสินค้าเป็นครั้งแรก ซึ่งประเภทของสินค้าที่ต้องการนำเข้าเหมาะกับการดำเนินพิธีการเต็มรูปแบบ ผู้นำเข้าจำเป็นต้องลงทะเบียนกับกรมศุลกากร และตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน โดยในขั้นตอนนี้ เฟดเอ็กซ์ พร้อมสนับสนุนลูกค้าด้วยการส่งมอบบริการช่วยเหลือที่ครอบคลุมให้แก่ผู้นำเข้า ตลอดการลงทะเบียนกับกรมศุลกากร บริการต่าง ๆ ประกอบด้วย การกรอกข้อมูลลงทะเบียนกับกรมศุลกากร การตรวจสอบ และการยืนยันข้อมูลในเอกสารศุลกากรให้ครบถ้วนและสอดคล้องกัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม บริการนี้จะช่วยป้องกันปัญหาข้อมูลที่ไม่ตรงกัน และปัญหาอื่น ๆ ที่อาจทำให้กระบวนการนำเข้าสินค้าล่าช้าไปได้อย่างน้อย 1 วันทำการ
  2. เตรียมเอกสารให้ถูกต้องและครบถ้วน: แม้ว่าการกรอกเอกสารต่าง ๆ อาจใช้เวลานานและยุ่งยาก เช่น การกรอกใบกำกับสินค้าพาณิชย์ ใบกำกับหีบห่อ ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า และใบอนุญาตนำเข้า แต่การตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดของการจัดส่งให้มั่นใจว่าข้อมูลถูกสำแดงอย่างถูกต้อง นับเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การเดินพิธีศุลกากรเป็นไปได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น แม้กระทั่งรายละเอียดเล็กน้อยเองก็อาจจะส่งผลให้กระบวนการล่าช้า เช่น การสำแดงราคาผิด หรือการระบุสินค้าว่า ‘ไม่มียี่ห้อ’ ขณะที่อันที่จริงแล้วเป็นสินค้าที่มียี่ห้อ ปัจจัยเหล่านี้อาจก่อให้เกิดการสำแดงเท็จ ซึ่งจะนำไปสู่ความล่าช้าและการถูกชำระค่าปรับ
  3. จัดเตรียมและยืนยันใบอนุญาต: สินค้าบางประเภท เช่น สินค้าควบคุม สินค้าอันตราย  หรือสินค้าหรูหรา จำเป็นต้องใช้ใบอนุญาตเฉพาะก่อนการนำเข้า โดยในขั้นตอนนี้ ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านพิธีศุลกากรของ เฟดเอ็กซ์ สามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับพิกัดภาษีและใบอนุญาตนำเข้าสินค้า นอกจากนี้ สำหรับผู้นำเข้าที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม เฟดเอ็กซ์ ยังมีบริการตรวจสอบใบอนุญาตให้กับสินค้าที่ต้องการจัดส่ง และจัดการการลงทะเบียนผู้นำเข้ากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  4. รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง: เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมและหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต ผู้นำเข้าสินค้าควรเก็บรวบรวมเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ใบเสร็จ ใบแจ้งหนี้ ใบอนุญาต และเอกสารอื่นๆ การรวบรวมเอกสารเหล่านี้สามารถใช้เป็นหลักฐานการสำแดงให้แก่ผู้นำเข้า และช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับคำถาม หรือรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

คู่มือการนำเข้าสินค้าของ เฟดเอ็กซ์: คู่มือที่จะช่วยให้คุณนำเข้าสินค้าได้อย่างมั่นใจ

สำหรับลูกค้าที่กำลังมองหาวิธีการช่วยเหลือเพื่อให้การนำเข้าเป็นไปอย่างง่ายดายมากขึ้น คู่มือการนำเข้าสินค้าของ เฟดเอ็กซ์ จะนำเสนอขั้นตอนสำคัญต่าง ๆ พร้อมข้อมูลด้านพิธีการศุลกากรให้แก่ผู้ที่นำเข้าสินค้าเป็นครั้งแรก โดยการปฏิบัติตามขั้นตอนต่าง ๆ ภายในคู่มือนี้ จะช่วยลดปัญหาและความล่าช้าที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

“การรับมือกับความยุ่งยากของพิธีการศุลกากรเป็นสิ่งที่ท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มธุรกิจ SMEs” นายศศธร ภาสภิญโญ กรรมการผู้จัดการ เฟดเอ็กซ์ ประเทศไทย กล่าว “ที่ เฟดเอ็กซ์ เรามุ่งมั่นผลักดันการค้าระหว่างประเทศให้ราบรื่นและง่ายดายมากขึ้นสำหรับผู้นำเข้า ไม่ว่าจะเป็น ผู้ที่นำเข้าสินค้าครั้งแรก หรือผู้ที่มีประสบการณ์นำเข้ามาก่อนหน้านี้ ด้วยเครือข่ายทั่วโลกของเรา รวมถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในกฏระเบียบภายในประเทศและความต้องการของผู้บริโภค พวกเราพร้อมที่จะสนับสนุนข้อมูลและเครื่องมือที่จำเป็นให้ผู้ประกอบการชาวไทยสามารถทำการค้าขายระหว่างพรมแดนได้อย่างราบรื่นมากขึ้น ส่งเสริมการเติบโตของประเทศและการขยายตัวสู่พรมแดนทั่วโลกไปพร้อม ๆ กันอย่างมั่นคง”

ลูกค้าที่นำเข้าสินค้ากับ เฟดเอ็กซ์ สามารถรับประสบการณ์ที่ราบรื่นตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการขนส่ง ไปจนถึงเมื่อสินค้ามาถึง เฟดเอ็กซ์ พร้อมดูแลทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการจัดประเภทสินค้า การลงทะเบียน ไปสู่การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับพิกัดภาษี ใบอนุญาตนำเข้าสินค้า และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ครบจบด้วยการประสานงานกับทาง เฟดเอ็กซ์ ที่เดียว นอกจากนี้ยังมีบริการเสริมอีกมากมาย ได้แก่ การคำนวณภาษีสำหรับการจัดส่งแบบเร่งด่วน และการจัดการค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สำหรับผู้ที่นำเข้าสินค้าเป็นประจำจะได้รับสิทธิพิเศษจากตัวแทนออกของ (Clearance Broker) ซึ่งจะให้คำแนะนำและช่วยให้กระบวนการนำเข้าเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้น

เฟดเอ็กซ์ ยังนำเสนอบริการที่หลากหลาย ตั้งแต่บริการขนส่งไปจนถึงโซลูชันเฉพาะด้าน และบริการอัตราค่าจัดส่งนาทีสุดท้ายสำหรับการจัดส่งที่มีน้ำหนักมาก ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อความสะดวกสบายและรวดเร็วของขั้นตอนการจัดส่ง FedEx Ship Manager (FSM) จะช่วยประหยัดเวลาของลูกค้าด้วยการเตรียมความพร้อมการจัดส่งพัสดุและเอกสารทางออนไลน์ พร้อมรับอัตราราคาและระยะเวลาขนส่งที่แม่นยำ รวมถึงสามารถกำหนดเวลาเข้ารับพัสดุจากทางไกลได้ด้วยเช่นกัน

การหลีกเลี่ยงความล่าช้าจากกระบวนการศุลกากรเป็นข้อกังวลสำหรับธุรกิจหรือผู้ประกอบการชาวไทยที่มีการค้าขายระหว่างประเทศ ดังนั้น การเข้าใจในกฏระเบียบของกรมศุลกากร การตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร ตลอดจนการร่วมมือกับผู้ให้บริการขนส่งที่เชื่อถือได้ จะส่งผลให้การนำเข้าสินค้าเป็นไปได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งด้วยสภาพแวดล้อมการค้าโลกที่ยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์เชิงรุกเหล่านี้จึงเป็นส่วนสำคัญในการรักษาความสามารถในการแข่งขัน และรับประกันการจัดส่งสินค้าที่ตรงต่อเวลา