In News

แม่ค้าบำเหน็จฯผวา!ปิดร้านหนีแก๊งเงินกู้



ชัยภูมิ-แก๊งทวงหนี้เหิมเหิมหนักไม่เกรงกลัวกฎหมาย ยึดร้านค้าเป็นสมรภูมิรีดดอกเบี้ย นานกว่า1ปี จนเจ้าของร้านหวาดกลัว ต้องปิดร้าน ซุกในบ้านไม่กล้าพบปะผู้คน

นางสาวธันว์ ธันธารา อายุ34 อยู่บ้านชวน หมู่12 ตำบลบ้านชวน อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ ออกมายืนยันว่ามารดาของตน พร้อมด้วยเพื่อนบ้านทั้งตำบล ตกเป็นลูกหนี้ ของนายทุนเงินกู้นอกระบบ โดยนายทุนที่ปล่อยเงินกู้ คิดดอกเบี้ยร้อยละ20จริงโดยเป็นหนี้รวมต้นและดอกเบี้ยประมาณ8หมื่นบาท ผ่อนจ่ายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด มีบ้างที่ล่าช้า แต่ก็ไม่เคยคิดหนี ส่วนชาวบ้านต่างเป็นหนี้รายละประมาณเริ่มตั้งแต่ หลักพัน ถึงหลักหมื่น ซึ่งบรรดาลูกหนี้ต้อง จ่ายคืนทั้งต้นทั้งดอกภายใน24วัน ค่าดำเนินการเอกสารรายละ500บาท ต่อสัญญากู้1สัญญา หากเลยกำหนด ขำระ นายทุนก็จะนำดอกเบี้ยและเงินต้น มาคิดเป็นดอกเบี้ยเพิ่ม ทบค้นทบดอก ส่วนนายทุนที่นำเงินมาปล่อยกู้นั้นมีหลายเจ้า เดินทางมาจากต่างจังหวัด มาปักหลักเช่าบ้านอยู่ในอำเภอบำเหน็จณรงค์ แต่ละเจ้าก็จะมีแผนกทวงหนี้ ที่ใช้รถยนต์ และรถจักยานยนต์ ตะเวนออกทวงหนี้ทุกวัน วันละ3รอบ คือรอบเช้า รอบเที่ยง และรอบเย็น ล่าสุดจากการที่ไปตะเวรเคาะประตูบ้านทวงหนี้ ก็ปรับแผนมาใช้สถานที่ร้านค้าของตน เป็นจุดนัดแนะทวงหนี้ ซึ่งบรรดาลูกหนี้ทั้งตำบล ก็จะเดินทางมาจ่ายที่ร้านตน นานวันเข้าก็ถือโอกาสยึดร้านของตนเป็น สถานที่ทวงหนี้โดยอัตโนมัติ หากลูกหนี้รายใด ไม่ยอมจ่าย หรือจ่ายไม่ครบ กลุ่มแก็งทวงหนี้ก็จะใช้วิธีกดดันโดยใช้วาจาข่มขู่ เดินกร่างไปทั่วร้าน จนลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการที่ร้านหวาดกลัวไม่ยอมเข้ามาใช้บริการที่ร้าน ส่งผลให้ขาดรายได้ ยอมรับว่ามารดาของตนก็เป็นลูกหนี้ เช่นกัน จนในที่สุดตนต้องทำการติดกล้องวงจรปิด เพื่อความปลอดภัยของมารดาที่อยู่เพียงคนเดียวโดยลำพัง ส่วนตนนั้นทำงานที่ต่างจังหวัด ล่าสุดตนต้องเดินทางกลับมามาอยู่เป็นเพื่อนมารดา และปิดร้านมานานกว่า10วันแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้แก็งทวงหนี้ เข้ามาก่อกวน ซึ่งแก็งทวงหนี้ก็ยังไม่วายที่จะเข้ามาวนเวียนหน้าร้านรวมทั้งเขียนจดหมายเสียบไว้หน้าประตูบ้าน ส่วนชาวบ้านที่เป็นลูกหนี้หลายรายต้องหนีออกจากบ้านไปอยู่ตามหัวไร่ปลายนา แต่แก็งทวงหนี้ก็ยังติดตามไปทวงเช่นเดิม

จากการติดตั้งกล้องวงจรปิดในร้าน พบว่ามีแก็งทวงหนี้วนเวียนเข้ามาในร้านทุกวัน และที่สำคัญยังสามารถบันทึกภาพคนในร้านการแอบขโมยเงินในกระเป๋าสตังค์ ของมารดาตนเองเพื่อจ่ายให้แก็งทวงหนี้ อีกด้วย ตนอยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาเจรจากับนายทุนขอให้ลดดอกเบี้ย หรือชะลอการจ่ายต้นและดอกเบี้ย พร้อมทั้งลดพฤติกรรมข่มขู่ เนื่องจากสภาวะขณะนี้เกิดปัญหาโรคระบาดไม่สามารถทำมาค้าขายได้เลย

นายชัยวัฒน์ ชัยทิพย์ เพื่อนบ้านยืนยันว่า ภรรยาตนเป็นคนกู้เงินมาใช้จ่ายในครอบครัวจริง และมีแก็งทวงหนี้มาทวงทุกวัน และนอกจากนี้ยังได้ติดตามไปทวงถึงหัวไร่ปลายนาด้วย ตนรู้สึกหวาดกลัว แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะการเป็นหนี้ตนก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่รายได้ไม่มีเข้ามาในครอบครัว ก็ต้องขอผ่อนผันกันไป ยอมให้ถูกบ่นถูกด่า ดังนั้นชาวบ้านส่วนใหญ่จึงต้องรีบออกเดินทางออกจากบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ และกลับเข้าบ้านในช่วงมืดค่ำทุกวัน

 ในเรื่องนี้ได้ทราบไปถึงนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.ชย.นายอำเภอ และผกก.ศูนย์ดำรงธรรม กอ.รมน.เร่งหาทางแก้ปัญหาแก็งทวงหนี้นอกระบบ

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.ชัยภูมิ นางสาวอ้อยใจ คำบุญเรือง นายอำเภอบำเหน็จณรงค์ พร้อมด้วยพันตำรวจเอกชัยยุทธ ศักดิ์ระพีผกก.สภ.บำเหน็จณรงค์ณรงค์ ลงพื้นทีเพื่อพยกับชาวบ้าน กรณีแก็งทวงหนี้ยึดร้านอาหารยายบู้ ตำบลบ้านชวน อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ รีดเงินกู้และ ใช้วาจากริยา ในเชิงข่มขู่คุกครามจากลูกหนี้ จนเกิดความหวาดกลัว โดยได้สอบถามนาง นางวรรณา เทียวประสงค์ อายุ62ปี  ซึ่งเป็นตัวแทนผู้เดือดร้อนในฐานะลูกหนี้ ถึงปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น เพื่อหาทางแก้ไข  จากการสอบถามนางวรรณา ยังยืนยันว่ามีแก๊งเงินกู้ เข้ามาสร้างความเดือดร้อน ให้กับและลูกหนี้รายอื่นๆจริง และยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในแต่ละวันจะมีแก๊งเงินกู้มากกว่า9แก็งที่สลับกันเข้ามา ในร้านตน โดยแต่ละแก็ง ก็สังกัดนายทุนคนละคนกัน  นายวิเชียร จันทรโณทัย ได้เชิญลูกหนี้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน เข้ามาพูดคุยอย่างตรงไปตรงมา โดยใช้พื้นที่ร้านอาหารยายบู้ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ในการพูดคุย ใช้เวลาในการพูดคุยนานกว่า2ชั่วโมง จนลูกหนี้พึงพอใจในการแก้ปัญหาของผวจ.

นางวรรณา เทียวประสงค์ ตัวแทนลูกหนี้ ออกมาแสดงความพอว่าต่อการแก้ไขปัญหาว่า ตนรู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าผู้ว่าจะลงมาดำเนินการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านด้วยตัวของท่านเอง และที่สำคัญปัญหาความเดือดร้อนที่ชาวบ้านได้รับมาเป็นเวลานาน ได้ถูกแก้ไข จากผวจ.เอง ทำให้ชาวบ้านมีกำลังใจและ หายจากความหวาดกลัว พร้อมกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติต่อไป

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.ชัยภูมิ ยอมรับว่าเห็นใจและเข้าใจทั้งเจ้าหนี้ และลูกหนี้ แต่กติกาของบ้านเมืองทุกคนก็ต้องตระหนัก และรับผิดชอบ เช่นเมื่อเป็นหนี้ ก็ต้องใช้หนี้ ส่วนเจ้าหนี้ก็ต้องปฎิบัติตามกฎหมาย ส่วนข้อสรุปของการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ตนได้สั่งการให้ตำรวจเข้ามาดูแลด้านข้อกฎหมายโดยลูกหนี้คนใดที่ถูกเจ้าหนี้ ระเมิดสิทธิเช่นถูกคุกคามข่มขู่ ให้รับแจ้งความเพื่อดำเนินคดี ในส่วนของการเป็นหนี้ซึ่งขณะนี้มีผลกระทบมาจากโควิด จนขาดสภาพคล่อง ทางจังหวัดก็จะหาแหล่งเงินกู้ที่คิดดอกเบี้ยต่ำ เพื่อมาให้กู้ยืม และกรณีที่ลูกหนี้กู้ยืมซึ่งกัและกัน ก็ให้ทำข้อตกลงผ่อนชำระโดยมีกำนันทำหน้าที่ในการเป็นตัวกลางเจรจา 

การที่ผวจ.ลงพื้นที่แก้ปัญหาด้วยตนเองอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ชาวเกิดความพึงพอใจ แลคลายกังวลอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นได้แยกย้ายกับบ้านด้วยความสบายใจ////////จบข่าว///////ชาติชาย สงวนรัมย์ โทร.08-1547-2497