In News
ชวนปักหมุดเที่ยว!หนาวนี้เที่ยวอุทยานฯ ท่องเส้นทางธรรมชาติสัมผัสอากาศเย็น
กรุงเทพฯ-ปักหมุด !! หนาวนี้เที่ยวอุทยานแห่งชาติ รัฐบาลเชิญชวนนักท่องเที่ยว เที่ยวเส้นทางธรรมชาติ สัมผัสอากาศเย็น และธรรมชาติช่วงฤดูหนาว
วันที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00 น. นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เชิญชวนนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวเส้นทางศึกษาธรรมชาติทั่วประเทศในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การเดินป่าและกิจกรรมเดินป่า รัฐบาลโดยกรมอุทยานแห่งชาติ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน กว่า 300 เส้นทาง มีระยะทางทั้งระยะทางสั้น ตั้งแต่ 100 เมตร ไปจนถึงไกลสุด 64 กิโลเมตร โดยเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะไกล คือ เส้นทางที่มีระยะทาง 2 กิโลเมตรขึ้นไปเน้นเรื่องของการออกกำลังกายกลางแจ้ง จำนวน 80 เส้นทาง ซึ่งในแต่ละปีจะมีปริมาณนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
นายคารม แนะพิกัดอุทยานแห่งชาติแต่ละแห่งในพื้นที่ประเทศไทย เช่น ภาคกลางและภาคตะวันออก มีอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ นครนายก สระบุรี นครราชสีมา และปราจีนบุรี มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจ ภาคตะวันตกและภาคใต้ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่ายางนาในอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติแห่งใหม่ “สันพญานาค” อุทยานแห่งชาติภูแลนคา จังหวัดชัยภูมิ ที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติและระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ พร้อมชมทัศนียภาพที่สวยงามตลอดเส้นทาง และเส้นทางศึกษาธรรมชาติต้นพระเจ้า 5 พระองค์ ในอุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน จังหวัดน่านและพะเยา รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหลายแห่ง ที่โดดเด่นด้วยความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศภูเขาสูง เส้นทางศึกษาธรรมชาติเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ระบบนิเวศป่าดิบเขา และดอยม่อนจองในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย ที่มีจุดชมวิวทิวทัศน์อันงดงาม
“รัฐบาลเชิญชวนนักท่องเที่ยวสัมผัสอากาศเย็นสบาย และสัมผัสธรรมชาติของเมืองไทย ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมอุทยานแห่งชาติ ช่วยกันรักษาความสะอาดเพื่อให้เป็นการท่องเที่ยวควบคู่กับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติอย่างเหมาะสม และที่สำคัญต้องไม่สร้างความเดือดร้อน ทำลายทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวด้วย” นายคารม กล่าว