In News
อีกศพโควิดลูกสาวฟูมฟายพาโรคติดพ่อ
นครปฐม-ลูกสาวร่ำไห้หนักโทษตัวเองเป็นต้นเหตุนำเชื้อไวรัสโควิด-19 มาแพร่เชื้อทำพ่อป่วยสุดท้ายดับ หลวงพี่น้ำฝนเข้าให้กำลังใจพร้อมให้หลักสัจธรรม ทุกชีวิต ย่อมมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย อย่าโทษใคร แต่การป้องกันตัวและปฏิบัติตามกฎคือสิ่งที่ต้องทำ ซึ่งวัดไผ่ล้อมยังรับสวด เผาฟรี เพื่อให้กำลังใจกับญาติโยมเสมอ
วันนี้ 18 มิ.ย. 64 ที่ ฌาปนสถาน วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม นำคณะสงฆ์และเจ้าหน้าที่วัด ได้รับการประสานงานจาก โรงพยาบาลนครปฐม เพื่อขอให้ดำเนินการจัดพิธีฌาปนกิจศพให้นายสมหมาย เกตุพันธ์ อายุ 71 ปี ชาวอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายที่ 49 ที่วัดไผ่ล้อมได้มีการจัดพิธีการให้ นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในประเทศไทย
ซึ่งพิธีการหลวงพี่น้ำฝน ได้มีการลงมาดำเนินการในการจัดสถานที่ซึ่งพบว่ามี ลูกหลานและญาติของผู้เสียชีวิตมาร่วมงานหลายคน โดยทุกคนอยู่ในความเศร้าโศกไม่ต่างจากศพรายก่อนหน้าที่วัดไผ่ล้อมได้มีการดำเนินการมา เมื่อรถที่บรรทุกโลงศพของผู้ตายมาถึงได้เร่งนำขึ้นไปยังเมรุเผาทันที เป็นจังหวะที่นางนงนุช เกตุพันธ์ ลูกสาวคนเล็กของนายสมหมาย ซึ่งเริ่มร่ำไห้คร่ำครวญพร้อมกับกอดรูปภาพของบิดาไว้แน่น จนญาติหลายคนต้องเข้ามาช่วยกันประคองเอาไว้ ซึ่งเมื่อถึงช่วงจังหวะที่หลวงพี่น้ำฝย จะมกดปุ่มสัญญาณที่เสียงกริ่งที่จะทำการปิดเมรุระบบไฟฟ้า เพื่อจะทำการเผาร่างของนายสมหมายอย่างเป็นทางการ นางนงนุช ถึงกับเก็บกลั้นความเสียใจไว้ไม่ไหวได้ส่งเสียงร่ำไห้ออกมาอย่างหนัก ยิ่งทำให้บรรยากาศที่มีผู้มาร่วมงานนั้นหดหู่ตามไปด้วย
ซึ่งเมื่อหลวงพี่น้ำฝน จัดได้พิธีการจนเสร็จกระบวนการทั้งหมด ได้เข้ามาช่วยดูแลและเข้ามาให้กำลังใจกับลูกหลานจึงได้ทราบว่าครอบครัวของนายสมหมาย ผู้เสียชีวิตมีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งหมด ซึ่งมีนางนงนุช บุตรสาวคนเล็กก็ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยและทุกคนรักษาอาการจนหายหมดเหลือแต่นายสมหมายผู้เป็นพ่อเนื่องจากอายุเยอะและมีอาการป่วยเป็นความดัน จึงทำให้อาการทรุดหนักลงเรื่อย ๆและเสียชีวิตใจที่สุด ซึ่งก่อนหน้าที่นายสมหมายจะเสียชีวิต นางนงนุชก็ได้แต่แสดงความวิตกและเสียใจมาตลอดว่าตนเองเป็นต้นเหตุที่เอาเชื้อมาติดผู้เป็นพ่อและทำให้เสียชีวิตกระทั่งถึงกับรับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ในวันนี้
จากนั้นหลวงพี่น้ำฝน ได้อธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า ภาพแบบนี้อาตมาเห็นมาเยอะแล้ว มีหลายครอบครัว ที่บุตรหลานติดเชื้อโควิด-19 และเชื้อได้แพร่ไปถึงบิดามารดาจนทำให้เสียชีวิตหลายคนได้แต่โทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุซึ่งจริงๆแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นในยุคนี้และไม่มีใครจงใจหรือตั้งใจจะให้เกิดขึ้น และเชื้อไวรัสนั้นก็ลอยอยู่ในอากาศและสถานที่ต่างๆได้นอน โอกาสของติดเชื้อก็ย่อมมีมาก ซึ่งวันนี้เราต้องรู้จักป้องกันตัวเองและปกป้องคนที่รัก ด้วยการปฏิบัติตามกฎ คือการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และควรเข้าสู่การรับการฉีดวัคซีนซึ่งจะสร้างภูมิให้เราได้ดีที่สุด
“เรื่องที่อาตมานั้นได้บอกกับศิษย์เสมอ คือ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่การอยู่นั้นต้องอยู่ในศีลในธรรม เมื่อถึงเวลาที่ต้องจากไปจะได้ไม่ติดค้างอะไรว่าเรายังไม่ได้ทำความดี ซึ่งสัจธรรมเหล่านี้เราหนีไม่พ้นสักราย ซึ่งพระสงฆ์ก็มีหน้าที่ที่จะสงเคราะห์ให้กำลังใจให้แสงสว่างใจชีวิตกับผู้คนนี่คือสิ่งที่พระสงฆ์มีกิจในเรื่องนี้ เช่นกันสำหรับการจัดพิธีการนี้วัดไผ่ล้อม ก็ได้นำเข้าโครงการกองทุนสวด เผาฟรี ซึ่งวัดไผ่ล้อมก็ได้เผาให้ฟรีและจัดพิธีการฟรีทุกอย่างจนครบกกระบวนการด้วย” หลวงพี่น้ำฝน กล่าวปิดท้าย