In Bangkok
กทม.แจงเทศกิจกวดขันจัดระเบียบผู้ค้า ตามหลักเกณฑ์ฯปฏิบัติหน้าที่โปร่งใส
กรุงเทพฯ-นายอิทธิพล อิงประสาร ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม. กล่าวกรณีมีข้อสังเกตเจ้าหน้าที่เทศกิจเรียกรับเงินจากผู้ค้าบริเวณซอยหลังสวนว่า สำนักงานเขตฯ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า เจ้าหน้าที่เทศกิจคนดังกล่าว ไม่ได้อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่วงเดินทางกลับ เป็นเพียงการจอดรถพูดคุยสอบถามเรื่องทั่วไปและไม่มีการเรียกรับเงินตามที่ได้ระบุ โดยได้ว่ากล่าวตักเตือนเจ้าหน้าที่เรื่องความประพฤติที่ไม่เหมาะสมและได้กำชับให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้อง ตามขั้นตอนของกฎหมาย มีความโปร่งใส และตรวจสอบได้
นอกจากนี้ สำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขันตรวจตราผู้ค้าที่ฝ่าฝืนทำการค้าในบริเวณดังกล่าวไม่ให้จำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะ ซึ่งมีความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 อย่างต่อเนื่องต่อไป
นายธวัชชัย แพงไทย ผู้อำนวยการเขตสาทร กทม. กล่าวกรณีมีข้อวิจารณ์การเรียกรับเงินของเจ้าหน้าที่เทศกิจและไม่ออกใบเสร็จเปรียบเทียบปรับผู้ค้าว่า ผู้ค้าซอยสาทร 11 มีผู้ค้า 15 ราย ซึ่งสำนักงานเขตฯ ได้ประชาสัมพันธ์และกวดขันให้ผู้ค้าเข้ามาชำระค่าปรับตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการปรับเป็นพินัยด้วยตนเองที่สำนักงานเขตฯ แต่มีผู้ค้าบางรายที่ได้ฝากผู้ค้าด้วยกันเข้ามาปรับเป็นพินัยแทน โดยสำนักงานเขตฯ ได้ออกใบเสร็จให้ผู้ค้าทั้ง 15 ราย ส่วนกรณีผู้ค้าซอยสาทร 9 สำนักงานเขตฯ ได้ยกเลิกจุดผ่อนผันแล้ว ขณะนี้อยู่่ระหว่างประชาสัมพันธ์และผลักดันห้ามทำการค้าบริเวณดังกล่าว โดยได้กำหนดเวลาหลังจากวันที่ 31 ธ.ค. 67 จะต้องไม่เข้าทำการค้าในพื้นที่ หากฝ่าฝืนจะดำเนินการจับกุมและเปรียบเทียบปรับเป็นพินัยต่อไป
ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้ประชุมสั่งการและมอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นไปตามระเบียบแบบแผนและแนวทางปฏิบัติที่ กทม. กำหนดตามกฎหมายที่ให้อำนาจหน้าที่ไว้และไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องการกระทำความผิดในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด
นายอนุชิต พิพิธกุล ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) กทม. กล่าวว่า สนท. เป็นหน่วยงานระดับสำนักของ กทม. มีหน้าที่ประสานนำนโยบายของผู้บริหาร กทม. สู่การปฏิบัติของหน่วยปฏิบัติ เช่น สำนักงานเขต และสนับสนุนการดำเนินการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์และตามความจำเป็นในภารกิจสำคัญต่าง ๆ ในลักษณะที่เป็นภาพรวมของกรุงเทพมหานคร และได้สั่งการหัวหน้าฝ่ายเทศกิจให้กวดขันควบคุมดูแลเจ้าหน้าที่เทศกิจที่อยู่ในการบังคับบัญชาให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นไปตามระเบียบแบบแผนและแนวทางปฏิบัติที่ กทม. กำหนดตามกฎหมายที่ได้ให้อำนาจและหน้าที่ไว้ และไม่ให้เกี่ยวข้องการกระทำความผิดในการปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้งที่ประชุมคณะผู้บริหาร กทม. ผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ 50 สำนักงานเขต ซึ่งประชุมเป็นประจำทุกเดือน นอกจากนี้ ได้มีหนังสือสั่งการและกำหนดมาตรการลงโทษในการละเลย หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จากปลัดกรุงเทพมหานครให้ทุกสำนักงานเขตได้ถือปฏิบัติอีกด้วย ซึ่งเป็นมาตรการเสริมจากระเบียบแบบแผนและแนวทางที่กฎหมายกำหนดให้ข้าราชการต้องปฏิบัติ