In News

ผู้ต้องขังป่วยตายในคุกแปดริ้วญาติข้องใจไร้จนท.แจงสาเหตุ



ฉะเชิงเทรา-ผู้ต้องขัง ติดเชื้อโควิด 19 ถูกนำส่งเข้าสถานพยาบาลเพื่อทำการรักษาจนหาย แต่หลังถูกนำตัวกลับคืนสู่เรือนจำได้เพียง 5 วันกลับพบติดเชื้อซ้ำ ก่อนถูกนำกลับมาทำการรักษาใหม่จนเสียชีวิตลงในที่สุด ท่ามกลางความงุนงงจากทางญาติ หลังทราบถูกตัดขาทิ้งทั้ง 2 ข้างก่อนตาย รพ.อ้างเหตุลิ่มเลือดอุดตันเจ้าตัวยินยอม แต่หลังการผ่าตัดได้เพียงไม่กี่ ชม. กลับสิ้นใจลง พร้อมยันเดิมผู้เสียชีวิตเป็นผู้มีสุขภาพที่แข็งแรง

วันที่ 22 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูล การเปิดเผยจากนางยุพา นาคโถม อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/10 ม.3 ต.โสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ว่า น้องชายตนเอง คือ นายประสาท (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 227/3 ถ.ริมคลองท่าไข่ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เดิมมีอาชีพเป็น รปภ. ได้ถูกต้องโทษคุมขังอยู่ภายในเรือนจำกลางฉะชิงเทรา ต่อมาได้ทราบว่า นายประสาท ได้เป็นผู้ติดเชื้อโควิด 19 จากการแพร่ระบาดของโรค ที่กำลังลุกลามรุนแรงภายในเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา

และได้ถูกส่งตัวออกมาทำการรักษายัง รพ.ภายนอก ในโรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่งใน จ.ฉะเชิงเทรา โดยไม่ทราบแน่ชัดว่าถูกนำออกมาทำการรักษาในวันใด แต่ทราบภายหลังว่าถูกนำออกมาเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.64 ที่ผ่านมาและญาติเพิ่งทราบข่าวในวันที่ 14 มิ.ย.64  และทราบอีกครั้งว่าในวันที่ 16 มิ.ย.64 ได้ถูกนำตัวกลับไปยังภายในเรือนจำเพื่อรับโทษต่อหลังจากถูกทำการรักษาจนหายจากโรคแล้ว 

แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.64 น้องชายได้ถูกนำตัวออกมาทำการรักษาใหม่อีกครั้ง โดยที่ญาติทราบเพียงว่าได้มีอาการติดเชื้อซ้ำ จึงได้ถูกนำออกมาทำการรักษาอีกรอบ จนมาทราบข่าวในเวลาต่อมาว่า น้องชายได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อช่วงเช้าวานนี้ 21 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา และยังทราบว่าน้องชายยังถูกตัดขาออกทั้ง 2 ข้างระดับเหนือเข่าลงไป โดยที่ญาติได้รับคำตอบจากทาง รพ.ว่า สาเหตุที่ต้องตัดขาทั้ง 2 ข้างทิ้งนั้น

เนื่องมาจากขาทั้ง 2 ข้างมีภาวะลิ่มเลือดอุดตันเส้นเลือดใหญ่ จนเลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงที่ปลายขาได้จนทำให้ขามีอาการเขียวคล้ำจนมีอาการปวดรุนแรง จึงจำเป็นต้องตัดขาทิ้งเพื่อรักษาชีวิตไว้ และทางผู้ป่วยเองยังได้เป็นผู้ที่เซ็นชื่อยินยอมให้ตัดขาด้วยตนเอง และหลังจากผ่านการผ่าตัดออกมาได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง น้องชายได้เสียชีวิตลงโดยที่ทางญาติไม่ทราบสาเหตุ 

ที่ผ่านมาไม่เคยได้รับคำชี้แจงใดๆ ถึงสาเหตุและอาการในการทำการรักษา มาตั้งแต่เริ่มมีอาการติดเชื้อจนมีการหนัก ต้องนำตัวออกมาทำการรักษายังภายนอกก็ยังไม่ทราบ กระทั่งมาเสียชีวิตลงก็ยังไม่ทราบอีก แต่ที่พอทราบข้อมูลมาบ้างแต่ยังไม่ชัดเจนมากนัก เนื่องจากมีคนรู้จักทำงานอยู่ภายใน รพ.แห่งดังกล่าว และทราบว่าหลังการผ่าตัดแล้วหัวใจมีอาการขาดเลือดหายใจไม่ออกแน่นหน้าอก จนทำให้เสียชีวิตลงในที่สุด

 ทางญาติไม่ได้ต้องการที่จะเอาเรื่องอะไร แต่อยากได้รับข้อมูลรายละเอียดที่ชัดเจนถึงอาการ และวิธีการรักษา ตลอดรวมถึงสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตลงด้วย ทั้งจากทางเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา และจากทางโรงพยาบาลที่ทำการรักษา เนื่องจากญาติยังไม่เคยได้รับทราบถึงรายละเอียดที่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น จากทางฝ่ายของเจ้าหน้าที่บ้างเลย จนกระทั่งถูกนำศพออกมาเผายังที่วัดบางปรงธรรมโชติการาม ใน ต.บางพระ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงบ่ายวานนี้แล้ว และแม้กระทั่งศพก็ยังไม่มีโอกาสได้รู้เห็นว่าถูกกระทำไว้อย่างไรบ้าง จนถูกเผาทิ้งไปโดยที่ทางญาติแทบไม่รู้อะไรเลย นางยุพา พร้อมด้วยญาติๆ กล่าว

ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันนี้ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ยังคงมีการระบาดของโรคอย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลสายด่วนโควิด 19 จ.ฉะเชิงเทรา ที่มีการเผยแพร่รายงานผ่านมาทางสำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.ฉะเชิงเทรา นั้นระบุว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวน 28 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ยังรักษาตัวอยู่อีกจำนวน 1,499 ราย มีผู้ติดเชื้อจากการระบาดระลอกใหม่ทั้งหมด 4,384 ราย เสียชีวิตสะสมระลอกใหม่ 18 ราย

ขณะที่ข้อมูลด้านหน้า รพ.สนามเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา มีการรายงานยอดจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นภายในเรือนจำในวันนี้ 14 ราย ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 2,554 ราย จากจำนวนผู้ต้องขัง 2,632 ราย หรือมีผู้ติดเชื้อคิดเป็นร้อยละ 97 ของผู้ต้องขังทั้งเรือนจำ โดยยังมีผู้ที่ไม่ติดเชื้อเหลืออยู่เพียง 150 รายเท่านั้น ส่วนข้อมูลการระบาดสะสมของโรคโควิด 19 ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ตั้งแต่การระบาดระลอกแรกรวม 3 ครั้งมีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 4,433 ราย เสียชีวิต 19 ราย

สำหรับข้อมูลผู้เสียชีวิตล่าสุดอีกรายนั้น เป็นชายวัย 48 ปี ชาว ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมืองฉะเชิงเทรา ถูกนำไปฌาปนกิจ ในวันเดียวกันเมื่อวานนี้เวลา 16.00 น. ยังที่เมรุวัดถวิลศิลามงคล ใน ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ส่วนผู้เสียชีวิตเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวน 2 ราย เป็นผู้พิการติดเตียงชาว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ที่เสียชีวิตลงโดยที่ญาติไม่ทราบว่าป่วยด้วยโรคโควิด 19 

จึงได้ประกอบพิธีตั้งสวดพระอภิธรรมศพขึ้นภายในบ้านพักเป็นเวลา 1 คืน ก่อนที่จะเร่งทำการเคลื่อนย้ายไปทำการฌาปนกิจในวันถัดมา เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.64 หลังผลการตรวจหลังการเสียชีวิตพบมีเชื้อโควิด 19 ส่วนอีกรายเป็นหญิงสูงวัย อายุ 78 ปี ชาว ต.วังตะเคียน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.64 ถูกเร่งนำไปทำการฌาปนกิจศพ ยังที่วัดถวิลศิลามงคลในวันเดียวกันที่เสียชีวิต 



สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา