Authority & Harm
รถดับเพลิงเกือบ10คันระดมฉีดน้ำดับไฟ บ่อขยะเนื้อที่เกือบร้อยไร่ที่กาญจน์
กาญจนบุรี-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น.ของวันที่ 4 ก.พ.2568 ร.ต.อ.สกุล เอี่ยมบุญลือ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากตำรวจประจำจุดบริการประชาชนตำบลบ้านเก่า อ.เมืองฯ ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้กองขยะในพื้นที่โรงงานร้างซึ่งอดีตเป็นโรงทำหินอ่อนในพื้นที่หมู่ 1 ต.บ้านเก่า อ.เมืองฯ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.สุรยุทธ เมฆมังกร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรีทราบเรื่อง จากนั้นจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงและรถดับเพลิงของ อบต.บ้านเก่าอบต.หนองบัว และอบต.ใกล้เคียงนับ 10 คัน
เดินทางมาทำการระดมฉีดน้ำเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้อย่างเร่งด่วนเนื่องจาก เพลิงลุกไหม้กองขยะครั้งนี้เป็นกองขยะขนาดใหญ่ในเนื้อที่ของโรงงานเกือบ 99 ไร่ เศษ ที่ลักลอบแปรรูปสกัดขยะพลาสติกให้เป็นน้ำมัน จากการตรวจสอบพบว่า โรงงานดังกล่าวได้แอบลักลอบประกอบกิจการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงต้องเร่งระดมฉีดน้ำอย่างเต็มที่ ชาวบ้านรอบๆ โรงงานต่างโวยวายเพราะได้รับผลกระทบจากควันไฟด้านสุขภาพอย่างหนัก
ล่าสุด นายวุฒิพงษ์ สุภัควนืรองผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งอุตสาหกรรมออกคำสั่งปิดโรงงานทันทีเมื่อเวลา 09.30 นาฬิกา ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเก่า รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้กองขยะขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงงานร้าง ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โดยเพลินลุกไหม้กองขยะพลาสติกขนาดใหญ่ และกำลังลุกลามไปยังกองขยะที่อยู่ข้างเคียงอีกจำนวนมาก จึงได้มีการประสานขอความร่วมมือ ไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัว องค์การบริหารส่วนตำบลจรเข้เผือก และองค์การบริหารส่วนตำบลลาดหญ้า นำรถดับเพลิง รวมเกือบ 10 คันเข้าฉีดน้ำควบคุมเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างหนัก โดยทันทีที่ทราบข่าว นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาญจนบุรี และอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ เนื่องจากกองขยะพลาสติกดังกล่าว กำลังลุกลามและ ก่อให้เกิดกลุ่มควันสีดำขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า จึงได้เร่งระดมรถดับเพลิงฉีดน้ำเข้าควบคุมเพลิงอย่างเร่งด่วน แต่เนื่องจากกองขยะพลาสติกดังกล่าวมีขยะพลาสติกอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งติดไฟได้ง่าย การควบคุมเพลิงจึงต้องใช้ระยะเวลานาน รวมถึงได้มีการประสานนำรถแบคโฮ เข้ามาตักเกลี่ยกองขยะพลาสติกดังกล่าวออกเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมเพลิง แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้ทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ที่ด้านหน้าโรงงานดังกล่าว มีกลุ่มชาวบ้านซึ่งอยู่ใกล้เคียงโรงงานเดินทางมารวมตัวกันหลายสิบคน พร้อมให้ข้อมูล กับรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีว่า โรงงานดังกล่าวได้แอบลักลอบประกอบกิจการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมัน มาเป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้ว ซึ่งการลักลอบประกอบกิจการดังกล่าวสร้างมลพิษ ให้กับชาวบ้านที่อยู่รอบโรงงานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 1 ที่มีมากกว่า 40 ครัวเรือนรอบๆ โรงงานดังกล่าว เนื่องจากในระหว่างที่ทางโรงงานมีการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันนั้น จะเกิดกลุ่มควัน ลอยออกมาด้านนอกและมีกลิ่นเหม็นไหม้อย่างรุนแรง ทำให้ชาวบ้านแสบตา หายใจไม่สะดวก เด็กๆ ถึงกับมีเลือดกำเดาไหลออกจากจมูก ผู้ใหญ่บางคนเจ็บคอ อย่างหนัก จนถึงขั้นเสียงหาย แม้ชาวบ้านจะร้องเรียนไปยังหน่วยงานในท้องที่ ทางโรงงานก็จะหยุดกิจการไปเพียงชั่วคราว ก่อนจะลักลอบประกอบกิจการขึ้นอีกครั้ง กระทั่งมาเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในวันนี้ ชาวบ้านจึงอยากวอนขอไปยังรัฐบาล ให้ช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ที่ประสบความเดือดร้อนจากการลักลอบเปิดกิจการของโรงงานดังกล่าวให้ด้วย
ด้านนายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า "ในช่วงเช้า ได้รับการรายงานว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้กองขยะในพื้นที่ตำบลบ้านเก่า จึงได้รีบเดินทางมาตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาญจนบุรี จากการตรวจสอบพบว่าโรงงานที่เกิดเหตุเพลิงไหม้นี้ แต่เดิมเป็นโรงงานประกอบกิจการตัดหินอ่อน ซึ่งได้เลิกกิจการไปแล้ว ก่อนจะมีคนมาซื้อกิจการ และได้ลักลอบประกอบกิจการแปรรูปขยะพลาสติกให้เป็นน้ำมัน โดยไม่ได้ขออนุญาตจากหน่วยงานราชการให้เรียบร้อย จากการเข้าไปตรวจสอบพบว่า บริเวณกองขยะพลาสติกที่เกิดเพลิงไหม้นั้น มีขยะพลาสติก กองทับถมกันอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้การดับไฟทำได้ยาก ต้องประสานรถแบคโฮเข้ามาช่วยเกลี่ยกองขยะออก เพื่อสามารถควบคุมเพลิงได้ง่ายขึ้น คาดว่าในช่วงบ่ายของวันนี้ จะสามารถควบคุมเพลิงทั้งหมดได้ ในส่วนของการลักลอบประกอบกิจการแปรรูปขยับพลาสติกเป็นน้ำมันของทางโรงงานแห่งนี้นั้น เบื้องต้น ได้ให้ทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรีออกคำสั่งปิดโรงงานดังกล่าวทันที เพื่อไม่ให้ประกอบกิจการที่สร้างมลพิษต่อชุมชนโดยรอบอีกต่อไป ส่วนในอนาคตหากมีการขออนุญาตจะได้รับการอนุญาตให้ประกอบกิจการหรือไม่นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งในส่วนของโรงงานดังกล่าว มีเนื้อที่ประมาณ 99 ไร่เศษ และมีการลักลอบนำเอาขยะพลาสติกจำนวนมาก เข้ามากองทับถมกันไว้อยู่เกือบเต็มพื้นที่ ซึ่งหากในวันนี้ ไม่สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ในวงจำกัดได้ทันอาจจะก่อให้เกิดเพลิงไหม้ขนาดใหญ่สร้างปัญหาฝุ่น PM 2.5 ให้กับจังหวัดกาญจนบุรีมากกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน"
สนั่น-กรกนก ศิลปะขจร/กาญจนบุรี