Travel Sport & Soft Power
สิ้นตำนานดราม่าปิดถนน'ศิวลึงค์ขอฝน' คนโยธะกาช่วยทุบทิ้งหลังฝนตก
ฉะเชิงเทรา-ปิดตำนานดราม่า ชาวโยธะกาปั้นลึงค์ขวางถนน ขอฝนบนความเชื่อฉบับโบราณ ที่กระทำการสืบทอดต่อกันมา จนกลายเป็นกระแสวิจารณ์ขมอยู่บนสังคมในสื่อออนไลน์ ที่มองบานปลายไปในเรื่องขวางหูขวางตาทำหงุดหงิดใจ เหตุจากคนรุ่นใหม่ที่เกิดมาไม่ทันได้รับรู้ถึงพิธีกรรมอันประหลาด แต่หลังจากชาวบ้านได้น้ำเพียงพอต่อการทำนาแล้ว จึงต่างพากันมารุมทุบทิ้งเพื่อคืนพื้นที่ให้ในที่สุด
วันที่ 2 ก.ค.64 เวลา 18.38 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายชำนาญ แก่นทองแดง อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ต.โยธะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ว่าเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เวลา 17.20 น. ชาวบ้านจำนวน 15 คน นำโดย นายวิชัย สิงหนาท อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 ม.6 ต.โยธะกา ผู้สืบทอดตำนานพิธีกรรมขอฝน ตามแบบฉบับโบราณของคนโยธะกา ที่ได้ทำการปั้นปลัดขิกขอฝนด้วยดินเหนียว หรือศิวลึงค์เอาไว้ยังที่บริเวณทางสามแยกเข้าสู่ประตูระบายน้ำคลอง 20 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา
จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมาในภายหลัง ผ่านทางสื่อโซเชียลในสังคมออนไลน์ ที่บ้างก็อ้างถึงความเหมาะสมในการใช้พื้นที่ ในการตั้งวางสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น และบ้างก็ดูแคลนความเชื่อไปในเรื่องของความงมงาย และบ้างก็ได้ตำหนิติติงกันไปต่างๆ นาๆ จนทำให้หมู่บ้านโยธะกาได้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเกือบทั้งประเทศในทันที หลังจากที่มีการนำภาพออกไปเผยแพร่สู่สื่อทางสังคมออนไลน์
โดยนายชำนาญ ยังได้เปิดเผยอีกว่า ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ ต.โยธะกา ได้น้ำมาทำนาอย่างสมบูรณ์ดีแล้ว ทั้งจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก และน้ำจากทางตอนบนไหลลงมาตามลำน้ำ จากแม่น้ำปราจีนบุรีและแม่น้ำนครนายก จึงทำให้น้ำเค็มที่เคยหนุนสูงมาตามลำน้ำบางปะกงได้ถอยร่นลงไปแล้ว ขณะนี้ชาวบ้านจึงได้น้ำมาทำนา ทั้งจากน้ำในคลองสาขาของแม่น้ำบางปะกง คือ คลอง 20 และน้ำจากฝนที่ตกลงมาในพื้นที่เอง
จึงได้เชิญนายวิชัย คนเก่าแก่ของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นผู้ที่สืบทอดตำนานการขอฝนต่อกันมาตั้งแต่คนโบราณรุ่นก่อน ได้มาประกอบพิธีทุบปลัดขิกดินเหนียวทิ้ง และขอคืนพื้นที่ถนนจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ มาให้แก่ทางกรมชลประทาน ซึ่งเป็นทางเข้าสู่ประตูระบายน้ำต่อไป เนื่องจากเห็นว่าพิธีการในการขอฝนได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ดีสมดังใจหมายของชาวบ้านและชาวนาในพื้นที่ทุกคนแล้วทุกประการ
โดยเฉพาะเมื่อคืนที่ผ่านมา ในพื้นที่ได้มีฝนห่าใหญ่ตกเทลงมาอย่างหนักและยาวนานตลอดทั้งคืน จนทำให้มีน้ำท่วมขังอยู่ในท้องนาในทันที จึงถือได้ว่าการประกอบพิธีประสบความสำเร็จลงอย่างสมบูรณ์ แบบ ทำให้ชาวนายิ้มออกกันจนแก้มปริอย่างถ้วนหน้าไปตามกัน เนื่องจากมีน้ำจืดที่สามารถนำมาใช้หล่อเลี้ยงต้นข้าวได้แล้ว และในวันนี้จึงได้มาทำการทุบปลัดขิกทิ้ง
เพื่อส่งคืนพื้นที่ให้แก่ทางชลประทานไป และยังได้นำยางรถจักรยานยนต์มาวางตั้งขวางทางไว้ตามเดิม เพื่อป้องกันคนขับรถพุ่งเข้าตกคลองบางไทร และหากในปีหน้าเมื่อถึงฤดูกาลทำนา ชาวบ้านยังคงประสบปัญหาภัยแล้งอีก ก็จะมีการประกอบพิธีขอฝนขึ้นมาอีก ด้วยการปั้นปลัดขิกหรือศิวลึงค์ด้วยดินเหนียวขึ้นมาตามเดิม และจะกระทำสืบทอดกันไปในทุกๆ ปีที่เกิดปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำทำนา นายชำนาญ กล่าว สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา