In Global
ปักกิ่งเปิดตัวสมุดนวัตกรรมและพัฒนา6G สรุปแผนปั้นปักกิ่งเป็นศูนย์6Gระดับโลก

ปักกิ่งเปิดตัวสมุดปกขาวนวัตกรรมและพัฒนา 6G สรุปแผนยุทธศาสตร์สร้างปักกิ่งเป็นศูนย์กลาง 6G ระดับโลก และเป็นเมืองต้นแบบใช้งานจริง
งานสัมมนาว่าด้วยแนวโน้มการพัฒนาเทคโนโลยี 6G จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ภายใต้งานมหกรรม Zhongguancun Forum (ZGC Forum) ปี 2025 ณ กรุงปักกิ่ง โดยในงานได้มีการเผยแพร่สมุดปกขาวว่าด้วยนวัตกรรมและการพัฒนา 6G
สมุดปกขาวฉบับนี้ได้วิเคราะห์ยุทธศาสตร์ 6G ในระดับโลก พร้อมทั้งสรุปแผนยุทธศาสตร์และความก้าวหน้าของกรุงปักกิ่งในด้านทฤษฎีพื้นฐาน เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรม สิ่งอำนวยความสะดวกในการทดสอบ และการพัฒนาอีโคซิสเต็มของ 6G อีกทั้งยังให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคตและข้อเสนอเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของกรุงปักกิ่งในการเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี 6G ระดับโลกและเป็นเมืองต้นแบบด้านการใช้งาน 6G
สมุดปกขาวยังชี้ให้เห็นว่าปักกิ่งมีทรัพยากรด้านการวิจัยระดับแนวหน้า โดยมีมหาวิทยาลัยถึง 16 แห่งที่เปิดสอนหลักสูตรด้านการสื่อสารโทรคมนาคม มีนักวิจัยชั้นนำกว่า 200 คน และนักวิจัยรวมมากกว่า 14,000 คน ส่งผลให้เมืองนี้กลายเป็นศูนย์กลางด้านบุคลากร 6G ระดับโลก
ในงานเดียวกันนี้ สถาบัน ZGC Institute of Ubiquitous-X Innovation and Applications (ZGC X-NET) ร่วมกับ China Mobile และมหาวิทยาลัย Beijing University of Posts and Telecommunications ได้เปิดตัวระบบต้นแบบ 6G ที่ชาญฉลาดและเรียบง่าย ซึ่งถือว่ามีความล้ำหน้าระดับโลกด้วยความเร็วในการส่งข้อมูลสูงถึง 6.6 Gbps มีความแม่นยำในการตรวจจับระดับซับ-เมตร และมีความสามารถด้านการสื่อสารเชิงความหมายแบบมัลติโหมด
ระบบต้นแบบนี้ได้ประสบความสำเร็จในการทดสอบฟีเจอร์หลัก 3 อย่าง ได้แก่
1. การปรับกำลังประมวลผลแบบไดนามิก: ระบบสามารถปรับขนาดการใช้พลังประมวลผลตามความต้องการของการใช้งานแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. การอัปเกรดความสามารถออนไลน์: ระบบสามารถอัปเกรดฟีเจอร์ใหม่ ๆ ระหว่างที่เครือข่ายทำงานอยู่ได้อย่างราบรื่น คล้ายกับการอัปเดตแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เพิ่มความยืดหยุ่นโดยไม่กระทบต่อประสบการณ์ผู้ใช้
3. การถ่ายโอนการประมวลผลให้กับแอปพลิเคชัน: โดยเชื่อมต่อสถานีฐานเข้ากับกลุ่มประมวลผล AI ที่อยู่ใกล้ ทำให้อุปกรณ์อย่างโดรนหรือหุ่นยนต์อัจฉริยะสามารถเข้าถึงพลังประมวลผลจากขอบเครือข่ายได้โดยตรง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบโดยรวม
ในขณะเดียวกัน ประเทศจีนกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำมาตรฐาน 6G โดยให้ความสำคัญกับการบูรณาการเทคโนโลยีการสื่อสารเข้ากับปัญญาประดิษฐ์ (AI)
หวง อวี้หง ประธาน ZGC X-NET และ China Mobile Research Institute ได้เน้นว่า การผสานเครือข่ายเข้ากับ AI คือแนวโน้มสำคัญ โดยระบุว่าการพัฒนา AI ต้องอาศัยข้อมูล พลังประมวลผล และอัลกอริธึม ซึ่งทั้งหมดเชื่อมโยงกับเครือข่ายโดยตรง ระบบต้นแบบ 6G ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วนี้จะช่วยสร้างแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพสูง รองรับการใช้งานอัจฉริยะหลากหลายรูปแบบ และผลักดันให้เครือข่ายก้าวสู่ความฉลาดมากยิ่งขึ้น
จาง ผิง นักวิชาการจากสถาบันบัณฑิตวิศวกรรมศาสตร์จีน (Chinese Academy of Engineering) ได้ชี้ให้เห็นว่า “การสื่อสารเชิงความหมาย” ( Semantic communication) เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่จะหลอมรวม AI เข้ากับการสื่อสาร โดยใช้วิธีคัดกรองข้อมูลต้นทางอย่างชาญฉลาดก่อนส่งต่อ ช่วยลดปริมาณข้อมูลที่ต้องส่งและเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถแก้ปัญหาการใช้พลังงานและข้อจำกัดด้านการประมวลผลของเทคโนโลยี 5G ได้
จางยังเสริมว่า การจัดทำมาตรฐาน 6G จะเริ่มในเดือนกรกฎาคมปีนี้ และมีแผนทดสอบภาคอุตสาหกรรมในปี 2028 ก่อนเปิดใช้งานเชิงพาณิชย์ในปี 2030
ทั้งนี้ งาน ZGC Forum ปีนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม “พลังการผลิตคุณภาพใหม่และความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระดับโลก” และจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม
แหล่งข้อมูล: https://news.cgtn.com/news/2025-03-29/Beijing-unveils-6G-innovation-white-paper-at-Zhongguancun-Forum-1C8RLJbXSYE/p.html