Think In Truth
แก้วหน้าม้า : วรรณกรรมที่สื่อเรื่องราวถึง 'เก่ง ดี มีคุณธรรม' โดย: ฟอนต์ สีดำ

แก้วหน้าม้า เป็นวรรณคดีไทยที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักกันดีในหลายรูปแบบ ทั้งในรูปแบบของ นิทานพื้นบ้าน: เป็นเรื่องเล่าที่สืบทอดกันมา มีเนื้อหาเกี่ยวกับหญิงสาวชื่อแก้วที่มีใบหน้าเหมือนม้า แต่มีความสามารถและคุณธรรม จนในที่สุดก็สามารถเอาชนะอุปสรรคและได้ครองคู่กับพระปิ่นทอง บทละครนอก: พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ทรงพระราชนิพนธ์บทละครนอกเรื่องแก้วหน้าม้า ซึ่งเป็นบทละครที่ได้รับความนิยมอย่างมากละครโทรทัศน์และภาพยนตร์: เรื่องราวของแก้วหน้าม้าถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์และภาพยนตร์หลายครั้ง แต่ละครั้งก็ได้รับความนิยมจากผู้ชม
เนื้อเรื่องย่อโดยทั่วไปของแก้วหน้าม้า:
นางแก้วเป็นธิดาของท้าวพรหมทัตแห่งเมืองมิถิลา ก่อนที่นางจะเกิด มารดาฝันเห็นเทวดานำแก้วมาให้ แต่เมื่อคลอดออกมา นางกลับมีใบหน้าเหมือนม้า ทำให้ผู้คนรังเกียจและเรียกนางว่า "แก้วหน้าม้า"
ต่อมา พระปิ่นทอง โอรสของท้าวมงคลราชแห่งเมืองพิชัยชาญ ได้เสด็จประพาสป่าและพลัดหลงเข้าไปในเมืองมิถิลา พระองค์ได้พบกับนางแก้วและถูกนางแก้วช่วยเหลือไว้ พระปิ่นทองสัญญาว่าจะกลับมารับนางไปอภิเษก แต่เมื่อกลับถึงเมือง พระองค์ถูกพระมารดายุยงให้ลืมสัญญานั้น
นางแก้วเสียใจมากและได้ออกตามหาพระปิ่นทอง ระหว่างทางได้พบกับฤๅษี ซึ่งได้มอบอาวุธวิเศษและยาวิเศษให้นาง แก้วหน้าม้าปลอมตัวเป็นชายชื่อ "นายแก้ว" และเข้าไปทำงานในราชสำนักของพระปิ่นทอง ด้วยความสามารถและสติปัญญา นายแก้วจึงเป็นที่โปรดปรานของพระปิ่นทอง
ในที่สุด ความจริงเรื่องที่นายแก้วคือแก้วหน้าม้าก็ถูกเปิดเผย พระปิ่นทองรู้สึกผิดและสำนึกในความดีของนางแก้ว ฤๅษีได้ช่วยถอดรูปหน้าม้าให้นางแก้วกลายเป็นหญิงสาวที่งดงาม และพระปิ่นทองก็ได้อภิเษกสมรสกับนางแก้วอย่างมีความสุข
แก้วหน้าม้าสอนใจในหลายด้าน เช่น:
คุณค่าของจิตใจสำคัญกว่ารูปลักษณ์ภายนอก: แม้ว่านางแก้วจะมีรูปลักษณ์ที่ไม่สวยงาม แต่ก็มีจิตใจดีงามและมีความสามารถ แก้วหน้าม้า มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างคุณค่าของจิตใจที่สำคัญกว่ารูปลักษณ์ภายนอกในหลายประการ ดังนี้:
- การถูกตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอก: ตั้งแต่เกิดมา นางแก้วถูกสังคมรังเกียจและล้อเลียนเนื่องจากมีใบหน้าเหมือนม้า คำว่า "แก้วหน้าม้า" กลายเป็นชื่อที่ติดตัวและเป็นสัญลักษณ์ของความอัปลักษณ์ ทำให้เห็นว่าสังคมมักตัดสินบุคคลจากรูปลักษณ์ภายนอกเป็นอันดับแรก
- คุณค่าภายในที่ถูกมองข้าม: แม้ว่านางแก้วจะมีรูปลักษณ์ที่ไม่พึงประสงค์ แต่ภายในจิตใจกลับเปี่ยมไปด้วยคุณธรรม ความกตัญญู ความเมตตา และความสามารถรอบด้าน เช่น การช่วยเหลือพระปิ่นทอง การปลอมตัวเป็นชายและสร้างความดีความชอบในราชสำนัก สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าคุณค่าที่แท้จริงของบุคคลไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์
- การพิสูจน์คุณค่าด้วยการกระทำ: นางแก้วไม่ได้ยอมแพ้ต่อชะตากรรมหรือคำสบประมาท เธอใช้ความสามารถ สติปัญญา และความดีของตนเองในการช่วยเหลือผู้อื่นและแก้ปัญหาต่างๆ จนเป็นที่ประจักษ์ การกระทำเหล่านี้ค่อยๆ ทำให้ผู้คนเริ่มมองเห็นคุณค่าที่แท้จริงของเธอ นอกเหนือจากรูปลักษณ์ภายนอก
- ความรักที่แท้จริงไม่ได้ตัดสินจากรูปลักษณ์: แม้ว่าพระปิ่นทองจะเคยหลงใหลในรูปลักษณ์ที่สวยงามของนางทัศมาลี แต่ในที่สุด พระองค์ก็ตระหนักถึงคุณค่าและความดีของนางแก้วที่อยู่เบื้องหลังรูปลักษณ์หน้าม้า ความรักที่พระองค์มีต่อนางแก้วในภายหลังจึงเป็นความรักที่เกิดจากความเข้าใจในจิตใจและคุณงามความดีอย่างแท้จริง
- การเปลี่ยนแปลงทัศนคติของสังคม: เรื่องราวของแก้วหน้าม้าค่อยๆ สอนให้สังคมได้ตระหนักว่าการตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกนั้นไม่ยุติธรรม และคุณค่าที่แท้จริงของบุคคลนั้นอยู่ที่จิตใจ คุณธรรม และการกระทำที่ดีงาม การที่นางแก้วสามารถเอาชนะอคติและได้รับการยอมรับในที่สุด เป็นการส่งเสริมแนวคิดที่ว่าความงามที่แท้จริงมาจากภายใน
แก้วหน้าม้าเป็นวรรณคดีที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการมองข้ามรูปลักษณ์ภายนอกและการให้คุณค่ากับจิตใจ คุณธรรม และความสามารถของบุคคล เรื่องราวของนางแก้วเป็นเครื่องเตือนใจให้สังคมตระหนักว่าความงามที่แท้จริงนั้นมาจากภายใน และการตัดสินบุคคลควรพิจารณาจากคุณค่าภายในมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอกที่มองเห็นได้เพียงผิวเผิน
ความซื่อสัตย์และความมีสัจจะ: นางแก้วมีความซื่อสัตย์ต่อความรักและรักษาสัญญาที่พระปิ่นทองให้ไว้ แก้วหน้าม้า มีบทบาทสำคัญในการสร้างความเข้าใจและเห็นคุณค่าของความซื่อสัตย์และสัจจะ (การรักษาคำพูด) ในหลายแง่มุม ดังนี้:
- คำสัญญาของพระปิ่นทองและการผิดสัญญา: จุดเริ่มต้นสำคัญของเรื่องราวคือคำสัญญาที่พระปิ่นทองให้ไว้กับนางแก้วว่าจะกลับมารับนางไปอภิเษก หลังจากที่นางแก้วได้ช่วยเหลือพระองค์ไว้ในป่า เมื่อพระปิ่นทองกลับถึงเมือง พระองค์กลับถูกยุยงจากพระมารดาให้ลืมสัญญาและเลือกที่จะอภิเษกกับหญิงอื่นที่มีรูปลักษณ์งดงามกว่า การผิดสัญญาของพระปิ่นทองนำมาซึ่งความทุกข์ใจอย่างยิ่งแก่นางแก้ว และเป็นชนวนสำคัญของเรื่องราวที่ตามมา ทำให้เห็นถึงผลกระทบของการไม่รักษาคำพูด
- ความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีของนางแก้ว: แม้ว่าพระปิ่นทองจะผิดสัญญาและดูเหมือนจะลืมเลือนนางไปแล้ว แต่นางแก้วยังคงมีความซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตนเองและต่อคำสัญญาที่พระปิ่นทองเคยให้ไว้ นางตัดสินใจออกตามหาพระปิ่นทองด้วยความหวังว่าจะได้พบและทวงถามสัญญา ความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีของนางแก้วเป็นคุณธรรมที่โดดเด่นในเรื่อง
- การรักษาคำพูดของฤๅษี: เมื่อนางแก้วได้รับความช่วยเหลือจากฤๅษี ฤๅษีได้มอบอาวุธวิเศษและยาวิเศษให้ พร้อมทั้งให้คำแนะนำต่างๆ คำพูดและการกระทำของฤๅษีมีความสม่ำเสมอและเชื่อถือได้ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาคำพูดและความน่าเชื่อถือ
- การปลอมตัวและการรักษาความลับของนางแก้ว: เมื่อนางแก้วปลอมตัวเป็น "นายแก้ว" และเข้าไปทำงานในราชสำนัก นางต้องรักษาความลับเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของตนเอง การที่นางสามารถรักษาความลับนี้ไว้ได้เป็นเวลานาน แสดงให้เห็นถึงความหนักแน่นและความซื่อสัตย์ต่อภารกิจที่ตนตั้งใจไว้
- การสำนึกผิดและการรักษาสัญญาในที่สุดของพระปิ่นทอง: เมื่อความจริงเปิดเผยและพระปิ่นทองได้เห็นถึงความดีและความสามารถของนางแก้ว รวมถึงความทุกข์ที่นางได้รับจากการผิดสัญญาของตนเอง ในที่สุดพระองค์ก็สำนึกผิดและตัดสินใจอภิเษกสมรสกับนางแก้ว การกระทำนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการตระหนักถึงความผิดพลาดและแก้ไข รวมถึงการรักษาสัญญาที่เคยให้ไว้ แม้จะล่าช้าไปบ้าง
- ผลลัพธ์ของการรักษาและไม่รักษาคำพูด: เรื่องราวของแก้วหน้าม้าแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงผลลัพธ์ที่แตกต่างกันของการรักษาคำพูดและความซื่อสัตย์ (นางแก้วได้รับความสุขในที่สุด) และการผิดสัญญา (พระปิ่นทองต้องเผชิญกับความทุกข์ใจและความเข้าใจผิด) ซึ่งเป็นการสอนใจให้เห็นถึงความสำคัญของการมีสัจจะ
แก้วหน้าม้าเป็นวรรณคดีที่เน้นย้ำความสำคัญของความซื่อสัตย์และการรักษาสัญญา ผ่านการกระทำและผลลัพธ์ที่ตัวละครต่างๆ ได้รับ เรื่องราวนี้สอนให้เห็นว่าการมีสัจจะเป็นคุณธรรมที่นำมาซึ่งความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ และความสุขในที่สุด ในขณะที่การผิดสัญญาสามารถนำมาซึ่งความทุกข์และความเสียหายต่อความสัมพันธ์
ความเพียรพยายามและการไม่ย่อท้อ: นางแก้วไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและพยายามทำความดีจนได้รับการยอมรับ แก้วหน้าม้า เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนและทรงพลังในการสร้างคุณค่าและความสำคัญของความเพียรพยายามและการไม่ย่อท้อในจิตใจ ดังนี้:
- ความเพียรพยายามในการตามหาพระปิ่นทอง: หลังจากที่พระปิ่นทองผิดสัญญาและไม่ได้กลับมารับนางแก้วตามที่ตกลงไว้ นางไม่ได้ยอมแพ้ต่อความเสียใจและความผิดหวัง แต่กลับตัดสินใจออกเดินทางตามหาพระปิ่นทองด้วยตนเอง การเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยความยากลำบากและอุปสรรคต่างๆ แต่นางก็ไม่ย่อท้อและมุ่งมั่นที่จะตามหาสัญญาที่เคยได้รับ
- ความไม่ย่อท้อต่อรูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นอุปสรรค: นางแก้วต้องเผชิญกับการถูกดูถูกและรังเกียจจากสังคมเนื่องจากรูปลักษณ์หน้าม้าของตนเอง แทนที่จะยอมจำนนต่อชะตากรรม นางกลับใช้ความสามารถและคุณธรรมภายในของตนเองในการเอาชนะอคติของผู้คน และพยายามสร้างคุณค่าให้ตนเองเป็นที่ยอมรับ
- ความเพียรพยายามในการปลอมตัวและทำงานในราชสำนัก: การปลอมตัวเป็นชายชื่อ "นายแก้ว" และเข้าไปทำงานในราชสำนักของพระปิ่นทองเป็นสิ่งที่ต้องอาศัยความกล้าหาญ ความอดทน และความเพียรพยายามอย่างมาก นางต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ เรียนรู้งาน และแสดงความสามารถเพื่อให้เป็นที่ไว้วางใจของพระปิ่นทอง การกระทำเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากและความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมาย
- การเผชิญหน้ากับอุปสรรคและความท้าทายต่างๆ: ตลอดเรื่องราว นางแก้วต้องเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางที่ยากลำบาก การถูกกีดกัน การต้องรักษาความลับ หรือการต้องพิสูจน์ความสามารถของตนเอง ทุกครั้งที่เผชิญกับปัญหา นางแก้วไม่เคยย่อท้อ แต่กลับใช้สติปัญญาและความเพียรพยายามในการแก้ไขและก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านั้นไปได้
- การไม่ยอมแพ้ต่อความรักที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้: แม้ว่าสถานการณ์ความรักระหว่างนางแก้วกับพระปิ่นทองจะดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากรูปลักษณ์ที่แตกต่างและการผิดสัญญา แต่นางแก้วก็ไม่เคยหมดหวังอย่างแท้จริง ความเพียรพยายามและความดีของนางในที่สุดก็สามารถเอาชนะใจพระปิ่นทองได้
- ผลลัพธ์ของความเพียรพยายามและการไม่ย่อท้อ: เรื่องราวของแก้วหน้าม้าแสดงให้เห็นว่าความเพียรพยายามและการไม่ย่อท้อนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่น่าพอใจในที่สุด นางแก้วสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ได้รับการยอมรับ และได้ครองคู่กับพระปิ่นทองอย่างมีความสุข ซึ่งเป็นการตอกย้ำคุณค่าของการไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาและมุ่งมั่นทำในสิ่งที่ถูกต้อง
แก้วหน้าม้าเป็นวรรณคดีที่ส่งเสริมคุณค่าของความเพียรพยายามและการไม่ย่อท้ออย่างชัดเจน ตัวละครนางแก้วเป็นแบบอย่างของการไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค ความมุ่งมั่นในการทำตามเป้าหมาย และความเชื่อมั่นในคุณค่าของตนเอง เรื่องราวนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านเห็นความสำคัญของการต่อสู้และไม่ท้อถอย แม้จะต้องเผชิญกับความยากลำบากเพียงใด เพราะความเพียรพยายามและการไม่ย่อท้อคือหนทางสู่ความสำเร็จและความสุขในที่สุด
ในการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมของคนในสังคมไทย โดยผ่านวรรณกรรมที่เป็นวรรณคดี เป็นเนื้อหาทางสังคมที่สามารถที่จะให้คนในสังคมได้อ้างอิงในการสร้างคุณธรรมและจริยธรรมให้กับสังคม เพื่อไปเสริมสร้างคุณลักษณะของคนไทยที่ถูกสร้างให้เป็นคนเก่ง และเป็นคนดี ที่ต้องเพิ่มคุณธรรม จริยธรรมให้กับคนในสังคม การส่งเสริมการถ่ายทอดและการสื่อสารวรรณกรรม ควรต้องให้การส่งเสริมในทุกช่องทางอย่างมีคุณภาพ และมีเป้าหมายในการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมกับสังคม