Biz news

บี.กริมเพาเวอร์ผู้นำพลังสะอาดร่วมงาน Sustainability Week Asia 2025



กรุงเทพฯ-นายนพเดชกรรณสูตประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจในประเทศไทยและโซลูชั่นธุรกิจอุตสาหกรรมบริษัทบี.กริมเพาเวอร์จากัด (มหาชน) ร่วมเสวนาในงานSustainability Week Asia ครั้งที่ 4 จัดโดยEconomist Impact ภายใต้ธีมFrom Idealism to Pragmatism รวบรวมผู้นำด้านความยั่งยืนจากทั่วโลกกว่า 1,000 คนร่วมเจาะลึกถึงประเด็นสำคัญที่กำลังผลักดันการเปลี่ยนแปลงในภาคธุรกิจทั้งในเรื่องของการบรรลุเป้าหมายด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) การเปลี่ยนผ่านทางพลังงานอย่างยั่งยืนการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนและการบริหารทรัพยากรอย่างเท่าเทียมเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่เมื่อวันที่ 25-26 มีนาคม 2568 ณโรงแรมดิแอทธินีโฮเทลแบงค็อก

นายนพเดชกรรณสูตกล่าวในเวทีเสวนาหัวข้อ "Empowering the New Digital Ecosystem with Clean Energy"ว่าจากสถานการณ์ด้านพลังงานในโลกปัจจุบันธุรกิจในหลายภาคส่วนทั่วโลกกลายเป็นดิจิทัลมากขึ้นทำให้ความต้องการในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลพุ่งสูงขึ้น รวมถึงมีความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวโดยเฉพาะภาคธุรกิจ “ดาต้าเซ็นเตอร์”ซึ่งเป็นศูนย์กลางของระบบคลาวด์ปัญญาประดิษฐ์และบริการดิจิทัลในรูปแบบ Generative AIซึ่งเป็นธุรกิจที่ใช้ไฟฟ้าจำนวนมหาศาลและมีส่วนทำให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างมีนัยสำคัญสำหรับบี.กริมเพาเวอร์หนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนชั้นนำของประเทศไทยภายใต้วิสัยทัศน์ “สร้างพลังให้กับสังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี” (Empowering the World Compassionately) มุ่งผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียนในอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ซึ่งปัจจุบันตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พื้นที่ระยองชลบุรีและฉะเชิงเทราที่เติบโต 9% ต่อปีโดยมีปัจจัยสำคัญมาจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีเทคโนโลยีตำแหน่งยุทธศาสตร์และโครงสร้างพื้นฐานที่ดีบวกกับแรงงานที่มีทักษะและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับสูงเหมาะในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจดิจิทัลโดยกลยุทธ์ของดาต้าเซ็นเตอร์เพื่อให้การใช้พลังงานเติบโตอย่างยั่งยืนประกอบด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพตลอดจนพื้นที่มีความปลอดภัยจากภัยพิบัติธรรมชาติพร้อมร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นเพื่อจัดการกฎระเบียบและโครงสร้างพื้นฐาน

นอกจากนี้บี.กริมเพาเวอร์ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาGreen Data Centreผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกเพื่อสร้างระบบพลังงานแบบบูรณาการที่ใช้พลังงานหมุนเวียนร่วมกับเทคโนโลยีกริดอัจฉริยะและแบตเตอรี่สำรองเพิ่มเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าและสนับสนุนนโยบายรัฐในการลดการปล่อยคาร์บอนในภาคดิจิทัลพร้อมขับเคลื่อนอนาคตของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ในฐานะผู้นำด้านการผลิตไฟฟ้าเอกชนสิ่งที่เป็นหัวใจความสำเร็จของบี.กริมเพาเวอร์คือการสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนส่วนรวมในทุกพื้นที่ที่เข้าไปดำเนินการอาทิการสนับสนุนโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยซึ่งเป็นโครงการที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีทรงนำแนวคิดมาจากโครงการ“Haus Der Kleinen Forscher ” ประเทศเยอรมนีมาประยุกต์ใช้ในประเทศไทยเพื่อให้เด็กๆได้เรียนรู้และสนุกกับวิทยาศาสตร์ตั้งแต่ระดับปฐมวัย (อายุ 3-6 ปี)นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้พนักงานมีส่วนร่วมเป็น“นักวิทยาศาสตร์พี่เลี้ยง”เข้าร่วมฝึกอบรมและทำกิจกรรมร่วมกับครูในโรงเรียนเครือข่ายบี.กริมซึ่งเป็นโรงเรียนในบริเวณใกล้เคียงสถานประกอบการของบี.กริม เพาเวอร์กว่า138 แห่งโดยตลอด 147 ปี “บี.กริม”มุ่งมั่นในการทำธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารีเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับผู้คนและสังคมไทยโดยเน้นไปที่ค่านิยมหลัก4ประการ (4Ps Core Values) คือ1.การมีทัศนคติที่ดี (Positivity) 2.ความร่วมมือกัน (Partnership) 3.ความเป็นมืออาชีพ (Professionalism)และ 4.ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ (Pioneering Spirit)

นอกจากนี้บี.กริม เพาเวอร์ ได้จัดงานExclusive Gala Dinner โดยนายนพเดชได้ร่วมเสวนากับMolly Ferrill ช่างภาพสัตว์ป่าระดับโลก ภายใต้หัวข้อ “In Harmaony with Compassion: a Brighter Future for Business, People and Planet.” ภายในงานSustainability Week Asia เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2025 ณห้องCrystal Hall A, ณโรงแรมดิแอทธินีโฮเทลแบงค็อกซึ่งภายในงานได้มีการแสดงดนตรีคลาสสิกจากวงRBSO สะท้อนถึงจุดเริ่มต้นของบี.กริมที่มุ่งดำเนินธุรกิจควบคู่การลดผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม

“การดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารีถือเป็นค่านิยมหลักมาตั้งแต่ต้นปรัชญานี้ยังคงขับเคลื่อนการดำเนินงานของบี.กริมเพาเวอร์ในปัจจุบันโดยเน้นการบูรณาการแนวคิดความยั่งยืนไว้ในกลยุทธ์พร้อมให้ความสำคัญกับผลกระทบระยะยาวมากกว่ากำไรระยะสั้นเพื่อการเติบโตทางธุรกิจควบคู่กับการสร้างประโยชน์ให้กับสังคมส่วนรวมด้วยแนวปฏิบัติที่มีความรับผิดชอบและความโอบอ้อมอารี”นายนพเดชกล่าว