In News

ศปช.อนุมัติงบกว่า172ล้านบาทแก้ปัญหา เชิงโครงสร้างพื้นฐานแม่น้ำปิง-แม่น้ำกก



กรุงเทพฯ-ที่ประชุม ศปช. อนุมัติงบกว่า 172 ล้านบาท แก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างพื้นฐาน (แม่น้ำปิง และแม่น้ำกก) ระยะเร่งด่วน พร้อมสั่งเร่งแก้ปัญหาสารปนเปื้อนแม่น้ำกก มอบ ทส. ดูแล สร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้แก่ประชาชน

วันนี้ (24 เม.ย. 68) เวลา 11.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ครั้งที่ 3/2568 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย

นายภูมิธรรมกล่าวว่า การประชุมวันนี้ถือเป็นการประชุมที่เร่งด่วน มีหลายประเด็นที่ต่อเนื่องจากโครงการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย ซึ่งควรได้รับการดำเนินการให้เสร็จสิ้นตั้งแต่ก่อนหน้านี้ เพื่อให้สามารถเริ่มต้นงานต่าง ๆ ได้ทันที ทั้งในด้านการจัดเตรียมสถานที่ การวางแผน และการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานเกิดความล่าช้า ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของโครงการทั้งหมด ทั้งนี้ เรากำลังเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินการก่อสร้าง หากยังไม่มีความคืบหน้า จึงจำเป็นที่จะต้องขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้พิจารณาและเร่งดำเนินการตามแผนงานที่กำหนดไว้โดยเร็วที่สุด เพื่อให้สามารถดำเนินงานให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายที่วางไว้

โดยที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ได้มีมติพิจารณา ดังนี้
1. รับทราบการอนุมัติใช้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 เพิ่มเติม และอนุมัติงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ของกระทรวงมหาดไทย
2. เห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับการดำเนินงานตามแผนการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างพื้นฐาน (แม่น้ำปิง และแม่น้ำกก) ระยะเร่งด่วน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย จำนวน 172.454 ล้านบาท ของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา

ทั้งนี้ นายภูมิธรรม ได้เน้นย้ำเกี่ยวกับประเด็นผลกระทบจากสารปนเปื้อน (สารหนู) ในแม่น้ำกก ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ โดยได้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งจัดทำรายงานเบื้องต้น เพื่อชี้แจงถึงสาเหตุของการปนเปื้อน รวมถึงผลการสำรวจในพื้นที่ และแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมสั่งการให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนและรอบคอบ เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้แก่ประชาชน รวมถึงป้องกันไม่ให้ปัญหาดังกล่าวลุกลามหรือส่งผลกระทบในวงกว้างมากยิ่งขึ้น