Biz news

จระเข้คอร์ปอเรชั่นลุยต่อก้าวสู่Net Zero! ชูวิสัยทัศน์ปี68ดันวงการก่อสร้างสีเขียว



กรุงเทพฯ 29 เมษายน 2568บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัดตัวจริงนวัตกรรมเพื่องานก่อสร้าง ซ่อมแซม และตกแต่งครบวงจรที่ใส่ใจชีวิตผู้คนและสิ่งแวดล้อมเปิดแผนกลยุทธ์ปี 2568 มุ่งยกระดับธุรกิจสู่การเป็นผู้นำนวัตกรรมก่อสร้างสีเขียวอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมตั้งเป้าเติบโต 10% ในปี 2568สะท้อนธุรกิจที่แข็งแกร่งแม้ตลาดจะหดตัว ด้วยการขยายพอร์ตผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าเคมีก่อสร้างและสีจระเข้ เสริมช่องทางจัดจำหน่ายทั้งในไทยและต่างประเทศผ่านร้านค้ากว่า 3,000 แห่ง พร้อมฉลอง 33 ปีแห่งความสำเร็จเคียงข้างวงการก่อสร้างไทยด้วยการเปิดเป้าหมายใหญ่สู่ Net Zero ครั้งแรก! ลุยพลิกโฉมการดำเนินงานในทุกมิติสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065

นายศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า "ตลอดระยะเวลากว่า 33 ปี จระเข้มุ่งพัฒนานวัตกรรมเพื่องานก่อสร้าง ซ่อมแซม และตกแต่ง ครบวงจรตั้งแต่ฐานรากจนถึงหลังคา โดยในภาพรวมธุรกิจของจระเข้ ยังคงเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดกาวซีเมนต์และกาวยาแนวที่ครองมาร์เก็ตแชร์มากกว่า 50% มายาวนาน ทั้งนี้ตลาดกาวซีเมนต์และกาวยาแนวในประเทศปี 2567 มีมูลค่า 4,400 ล้านบาท และเรายังคงโตต่ออย่างแข็งแกร่งด้วยตัวแทนจำหน่ายในไทยและต่างประเทศกว่า 3,000 แห่ง"

"ในปี 2567 จระเข้ทำยอดขายเติบโต 6% ในขณะที่สภาพตลาดโดยรวมหดตัว -2% ถึง -3%จากข้อมูลโดยKrungsri Research สะท้อนถึงความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงความต้องการ และการปรับปรุงกระบวนการภายในเพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพที่เดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในอนาคต ปัจจุบันสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ปูกระเบื้อง(กาวซีเมนต์และกาวยาแนว) เติบโตสูงถึง 5% คิดเป็นสัดส่วนการขายแบ่งเป็น 70%, กลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีก่อสร้างเติบโตสูงถึง 15%คิดเป็นสัดส่วนการขายแบ่งเป็น 20% และสีจระเข้ (SEE JORAKAY) ที่เติบโตสูงถึง 35% โดยคิดเป็นสัดส่วนการขายครอบคลุมกลุ่มสีจระเข้ และกลุ่มวัสดุตกแต่ง เครื่องมือ และน้ำยา ที่ 10%" นายศุภพงษ์กล่าว

ในช่วงปีที่ผ่านมาจระเข้ได้เขย่าวงการก่อสร้างด้วยกลุ่มสินค้าเคมีก่อสร้าง หมวดงานพื้นกับนวัตกรรมรูปแบบใหม่ที่มีคุณภาพระดับสากลและใส่ใจสิ่งแวดล้อม อาทิ "Crocodile Road Fix Express" มอร์ตาร์สำหรับซ่อมพื้นผิวถนนคอนกรีตชนิดบาง คว้ารางวัลชนะเลิศจากเวที Best Innovation Award 2024 ในงานสถาปนิก และรางวัล "นวัตกรรมลดโลกร้อน" (Best Innovativeness Green Product) ในงาน SETA 2024 นอกจากนี้ จระเข้ยังได้เปิดตัว "Jorakay Green Pack"นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์กาวซีเมนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และปฏิวัติวงการกาวซีเมนต์ ด้วยนวัตกรรม "Dustless Technology" รายเดียวในไทย ที่นำมาใช้กับกาวซีเมนต์จระเข้ทั้ง 8 รุ่น ช่วยลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นถึง 80% และยังเร่งบุกตลาดสีเมืองไทย ด้วยผลิตภัณฑ์SEE JORAKAY พร้อมเปิด SEE JORAKAY Flagship Store ไปอย่างยิ่งใหญ่เมื่อปลายปี 2567 และเปิดตัวสีรุ่นใหม่อีก 2 รุ่น ทั้งนี้ จระเข้ยังเป็นผู้ผลิตรายแรกในประเทศไทยที่ผ่านการรับรอง มอก. 2703-2566 เวอร์ชันใหม่ในระดับ "ชั้นคุณภาพพิเศษ" ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของการรับรองมาตรฐานใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์กาวซีเมนต์ และมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกาวยาแนวสำหรับกระเบื้องเซรามิก (มอก. 2892-2563) อีกด้วย ในด้านความยั่งยืน จระเข้ได้ดำเนินโครงการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ในพื้นที่โรงงานและศูนย์กระจายสินค้าใน จ.สระบุรี และที่สำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 606 ตันคาร์บอนฯ/ปี และทดแทนพลังงานไฟฟ้าที่บริษัทใช้ทั้งหมดได้ 30% ต่อปี

"ในปี 2568 เราตั้งเป้าเติบโต 10% แบ่งเป็นตลาดในประเทศ 90% และตลาดต่างประเทศ 10%โดยเน้นการขยายพอร์ตกลุ่มสินค้าเคมีก่อสร้างและกลุ่มสีทาอาคารภายในและภายนอก SEE JORAKAY ทำการตลาดให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย เสริมช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในไทยและต่างประเทศผ่านร้านค้ากว่า 3,000 แห่งและแพลตฟอร์มออนไลน์ พัฒนาความร่วมมือกับคู่ค้า และขยายตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะในCLMV การเติบโตอย่างต่อเนื่องของเรา ตอกย้ำว่านวัตกรรมและความยั่งยืนไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่คือเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและสังคมให้เดินหน้าอย่างมั่นคง เราเชื่อว่า 'ความสำเร็จที่แท้จริง' ต้องวัดจากผลกระทบเชิงบวกที่เราสร้างให้โลกในระยะยาว" นายศุภพงษ์เน้นย้ำ

ด้าน ดร.จิรัฏฐ์ สิริเฉลิมพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ อาวุโส บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัดเล่าว่าบริษัทก้าวสู่ปีที่ 33 ภายใต้วิสัยทัศน์ "Sustainable Building Innovation" โดยยังคงมุ่งเน้นการยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ผ่านนวัตกรรมก่อสร้างที่มีคุณภาพ ปลอดภัยต่อสุขภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม"ในยุคนี้ วัสดุก่อสร้างต้องตอบโจทย์มากกว่าแค่ 'ความแข็งแรง' แต่ต้อง 'ฉลาด ปลอดภัย และยั่งยืน' เราจึงมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แนวคิด Jorakay Innovation & Expert Solution โดยใช้อินไซต์จากตลาดมาประกอบกับการวิจัยและพัฒนา ทำให้เราออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตรงจุด ทั้งในแง่ฟังก์ชันและสุขภาวะ ด้านแนวโน้มตลาดวัสดุก่อสร้างไทยในปี 2568ตามข้อมูลจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) มีสัญญาณการฟื้นตัวจากโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน คาดว่าการก่อสร้างภาครัฐในปี 68 จะขยายตัว 3% แตะระดับ 856,000 ล้านบาท ขณะที่ภาคเอกชนจะขยายตัวที่ 1% มาอยู่ที่ 586,000 ล้านบาท คาดว่าความต้องการวัสดุก่อสร้างจะเติบโต 4-5% จากแรงหนุนของโครงการรถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ รวมถึงการรีโนเวทซ่อมแซมที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว"

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทลงทุนต่อเนื่องในด้าน R&D และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยมีห้องแล็บทดสอบที่ได้การรับรองจากสถาบันมาตรฐานระดับประเทศ รวมถึงการเสริมแกร่งด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ เช่น กาวซีเมนต์สูตรลดฝุ่น, สีปลอดสารระเหย (Low VOC),สารเคลือบผิวเพื่อสุขภาวะ ที่ล้วนช่วยยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัย

ด้านการขยายตลาดต่างประเทศดร.จิรัฏฐ์เผยว่าตลาดวัสดุก่อสร้างในกลุ่มประเทศ CLMV มีศักยภาพการเติบโตสูงจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การขยายตัวของภาคอสังหาฯ และความต้องการวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในเวียดนามและกัมพูชาที่มีการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน ท่าเรือ และสนามบิน จระเข้ยังคงเดินหน้ารุกตลาด CLMV อย่างมีแบบแผนโดยปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศราว 10% และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 15% ภายใน 2 ปีข้างหน้า ผ่านกลยุทธ์สร้างพันธมิตรท้องถิ่นและปรับผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับบริบทแต่ละประเทศ"ใน CLMV เราไม่ได้มองแค่การขายสินค้า แต่ต้องสร้าง 'ฐานธุรกิจในระดับภูมิภาค' ซึ่งอาศัยทั้งความเข้าใจเชิงลึก การปรับตัวเชิงกลยุทธ์ และการสร้างแบรนด์ระยะยาวซึ่งเราได้วางแผนขยายเครือข่ายค้าปลีก ร่วมกับกลุ่มโครงการก่อสร้างในตลาดหลักอย่างเวียดนาม กัมพูชา และลาว”

จระเข้ มุ่งขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมก่อสร้างที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1) Core Market Reinforcementเสริมแกร่งในตลาดในประเทศโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน และพัฒนาโปรเจกต์ร่วมกับดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ 2) Innovation-Led Portfolio Expansionเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์เทรนด์ Well-being & Green Living โดยตั้งเป้าให้สินค้านวัตกรรมมีสัดส่วน 30% ภายใน 3 ปี 3) Regional Growth Accelerationมุ่งขยายฐานรายได้ในตลาด CLMV โดยตั้งเป้ารายได้ต่างประเทศ 15% ภายในปี2570 และ 4) Brand Trust & Sustainability Positioningยกระดับเป็น Purpose-Driven Brand ที่ผู้บริโภคเชื่อถือในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และความยั่งยืน

ล่าสุด จระเข้ ได้ประกาศหมุดหมายสำคัญสู่ Net Zero เป็นครั้งแรกโดย ดร.จิรัฏฐ์เปิดเผยว่า "จระเข้มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050และจะเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 ภายใต้กรอบการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Jorakay Sustainability Framework)ที่มุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมคุณภาพชีวิต ผ่านหลัก 3P คือ Green Process (เราอยู่ได้),Green Planet (โลกอยู่ดี) และ Green People (สังคมมีสุข) พร้อมขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์ 5SD ที่ครอบคลุมตั้งแต่การลดการปล่อย CO2ลดปริมาณขยะและของเสีย ลดการใช้สารพิษและฝุ่น เพิ่มสัดส่วนสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิตโดยปัจจุบันจระเข้มียอดขายสินค้ากลุ่ม Green Productsสูงถึง63% จากสินค้าทั้งหมด ที่ผ่านมา เราเป็นผู้นำในกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรม วันนี้เราเดินหน้าต่อด้วยแนวคิด'Build Today, Beyond Tomorrow:สร้างวันนี้เพื่อพรุ่งนี้ที่ยั่งยืนกว่า' เพื่อสร้างสมดุลระหว่าง 'ผลประกอบการ' กับ 'ความยั่งยืน' ซึ่งจะเป็นแต้มต่อสำคัญของธุรกิจในอีก 5-10 ปีข้างหน้า"

ในงานสถาปนิก'68ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 เม.ย. - 4 พ.ค. 68 “จระเข้” ได้โชว์ศักยภาพไลน์อัปสินค้านวัตกรรมก่อสร้างครบวงจรที่ตอบโจทย์เทรนด์ก่อสร้างแห่งอนาคต ภายใต้คอนเซปต์ "Build Today, Beyond Tomorrow" ณ JORAKAY PAVILION

นายวรพจน์ ตั้งมนัสวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า "ธีมการนำเสนอของจระเข้ในปีนี้คือ‘Build Today, Beyond Tomorrow: ที่สุดของนวัตกรรม เพื่อพรุ่งนี้ที่ยั่งยืนกว่า' ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอนวัตกรรมที่คำนึงถึงเจเนอเรชันต่อไปในอนาคต ที่ JORAKAY PAVILIONผู้เข้าชมงานจะพบกับ6 โซนนวัตกรรม ได้แก่FLOORING INNOVATIONนวัตกรรมงานพื้นผิวที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความทนทาน, STRUCTURE INNOVATIONนวัตกรรมโครงสร้างที่ใช้วัสดุคุณภาพสูง ลดระยะเวลาก่อสร้าง, TILING INNOVATIONผู้นำนวัตกรรมการปูกระเบื้องยืนหนึ่งสู่ความยั่งยืน ซึ่งหนึ่งในไฮไลต์สำคัญ คือการสาธิตให้เห็นผลลัพธ์ของ นวัตกรรม Dustless Technologyที่ลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นได้มากถึง 80%, WATER PROOF INNOVATIONนวัตกรรมสำหรับงานกันซึม จบปัญหารั่วซึมทุกจุด ตั้งแต่ฐานรากไปจนถึงดาดฟ้า หลังคา, SEE JORAKAYสีปลอดภัยที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อมพร้อมเปิดตัวนวัตกรรมสีสุดล้ำ Metallic Loft และ Stone Decor ตัวใหม่ล่าสุดในงานรวมถึง โซน Beyond Tomorrow”ที่นำเสนอ JORAKAY SUSTAINABILITY FRAMEWORK”แนวคิดเพื่อความยั่งยืน สนับสนุนการก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเพื่อสร้างรากฐานที่ดีกว่าในวันนี้ และความยั่งยืนให้กับผู้คนและโลกในวันข้างหน้านอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรม Jorakay Expert Talkเวทีทอล์กจากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายวงการ ทั้งก่อสร้าง นักออกแบบ สถาปนิก และผู้ใช้งานจริง มาแชร์วิสัยทัศน์และแนวทางสร้างสรรค์เมืองเพื่ออนาคต เรามั่นใจว่าผู้ที่เยี่ยมชมJorakay Pavilionไม่ว่าจะเป็นสถาปนิก นักออกแบบ คนในแวดวงอสังหาฯ ตลอดจนคนรุ่นใหม่ที่สนใจงานดีไซน์และนวัตกรรม จะได้แรงบันดาลใจใหม่ ๆ ด้านการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ทั้งปลอดภัยต่อชีวิตและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมตอกย้ำว่าเราทุกคนสามารถเลือกนวัตกรรมที่ดีต่อคนและโลก และเริ่ม ‘สร้างพรุ่งนี้ที่ยั่งยืนกว่า’ ไปด้วยกันได้”

พบกันที่JORAKAY PAVILION ในงานสถาปนิก'68 ระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2568 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2อิมแพ็ค เมืองทองธานี