In News
‘จิราพร’ส่งทีมสคบ.ร่วมตำรวจบุกตรวจ หอพักย่านรังสิตร้องถูกเจ้าของเอาเปรียบ

ปทุมธานี-วันนี้ (3 พฤษภาคม 2568) นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากผู้บริโภค กรณีผู้ประกอบการหอพักย่านรังสิตเอาเปรียบ โดยมีการทำสัญญาเช่าที่ไม่เป็นธรรม และมีการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ข่มขู่ สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้บริโภค นางสาวจิราพรจึงได้สั่งการให้ สคบ. เร่งตรวจสอบและติดตามโดยด่วน
โดยเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้สั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ สคบ. ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต เพื่อวางแผนดำเนินการแก้ไขปัญหา และในวันที่ 25 เมษายน 2568 ได้มีการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ซึ่งพบว่ามีผู้เสียหายทั้งหมด จำนวน 17 ราย โดยในจำนวนนี้มีผู้เสียหาย จำนวน 3 ราย ได้ยื่นเรื่องร้องทุกข์กับ สคบ.แล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการ สำหรับผู้เสียหายจำนวน 14 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต รับเรื่องไปเพื่อสอบปากคำ และจะรวบรวพยานหลักฐานดำเนินการต่อไป
ต่อมา วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 สคบ.ได้ประสานไปยังสถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต เพื่อนำเรื่องร้องทุกข์ของผู้ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 14 ราย กรณีการเช่าห้องพักอาศัยที่ Chareeya Residence ตั้งอยู่บริเวณหมู่บ้านเมืองเอก ตำบลหลักหก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ไปดำเนินการตามกฎหมาย และออกหนังสือเรียกผู้ประกอบการมาชี้แจง ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้ หากผู้ประกอบธุรกิจได้รับหนังสือแล้วไม่มาพบ ก็จะเป็นความผิดฐานไม่มาให้ถ้อยคำต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องระวางโทษ ตามมาตรา 45 จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522
โดยล่าสุด วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา พนักงานเจ้าหน้าที่ สคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจ กลับไม่พบบุคคลใดแสดงตนเป็นเจ้าของหอพัก Chareeya Residence จึงได้เดินทางไปสถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต เพื่อลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน
นางสาวจิราพร กล่าวเพิ่มเติมว่า สคบ. จะติดตามและดำเนินการช่วยเหลือผู้บริโภคอย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม หากพบว่าผู้ประกอบการกระทำความผิด จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ ยังได้มีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เทศบาลตำบลหลักหก เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับการใช้อาคารว่าดำเนินการถูกต้องตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 หรือไม่ รวมถึงประสานกรมกิจการเด็กและเยาวชน เพื่อตรวจสอบว่าผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวมีลักษณะการประกอบธุรกิจหอพักตาม พ.ร.บ. หอพัก พ.ศ. 2558 หรือไม่ และกรมสรรพากรเพื่อทำการตรวจสอบเกี่ยวกับรายได้ และการเสียภาษีว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมทุกด้าน