In News
เผย4ข้อสั่งการนายกฯที่ประชุมครม.วันนี้ 'เหตุภาคใต้-ราคาผลไม้-ประชุมทูตไทย'

กรุงเทพฯ-วันนี้ (13 พฤษภาคม 2568) นายกฯ สั่งการเหตุภาคใต้วันนี้ ให้ทุกกระทรวงทุกส่วนราชการต้องร่วมกันพัฒนาความเป็นอยู่ของประชนในพื้นที่ให้อยู่ดีกินดีในทุกมิติ โดยน้อมนำหลักการทรงงาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ไปปฎิบัติ ขณะที่บ่ายนี้เรียกถกติดตามแก้ปัญหาใต้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ส่วนผลไม้ไทยปีนี้น้ำท่าบริบูรณ์คาดผลผลิตจะเพิ่มมากกว่าปีที่แล้วกว่า 30% นายกฯ สั่งการ เกษตร พาณิชย์ จับมือกันเร่งบริหารให้มีราคาที่เหมาะสมพร้อมเปิดตลาดใหม่ ๆ ในไทยและต่างประเทศ คาดปลายสัปดาห์นี้นายกฯ ลงพื้นที่ภาคตะวันออกเร่งแก้ไขปัญหาให้เกษตรกร
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 18 วันอังคารที่ 13 พฤษภาคม 2568 เวลา 10 นาฬิกา นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการในที่ประชุมดังนี้
1.สำหรับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้ประชุมเรื่องปัญหาการก่อความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการกองทัพบก กระทรวงมหาดไทย เพื่อกำหนดแนวทางแก้ปัญหา ทั้งการแก้ไขเฉพาะหน้า และในระยะยาว และช่วงบ่ายวันนี้ (อังคารที่ 13 พฤษภาคม) ได้เชิญหน่วยงานสำคัญที่เกี่ยวข้องมาหารือเรื่องนี้เป็นการเฉพาะด้วย
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่านอกจากงานด้านความมั่นคง การกระชับความสัมพันธ์กับประชาชน การควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยให้กับประชาชนแล้ว จะต้องเร่งสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชนในทุกมิติ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยสั่งการให้ทุกหน่วยงานภาครัฐต้องทำควบคู่กันไปพร้อม ๆ กับงานด้านความมั่นคง
โดยเฉพาะหน่วยงานที่มีบุคลากรประจำในพื้นที่ที่จะร่วมกันสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงศึกษาฯ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ จึงขอให้ทุกกระทรวงช่วยกันกำชับบทบาทของหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ภายใต้การนำของผู้ว่าราชการจังหวัด ในการทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ โดยน้อมนำหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในเรื่องนี้ว่า "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา"
2.สำหรับสถานการณ์ ผลไม้ฤดูการผลิตปี 2568 นี้ นายกรัฐมนตรีได้รับรายงานจากกระทรวงเกษตรฯ ว่าในฤดูการผลิตปี 68 สถานการณ์ผลไม้ของไทย ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน มังคุด มะม่วง และลำไย จะมีผลผลิตเพิ่มสูงขึ้น ร้อยละ 10-30 เนื่องจากมีสภาพอากาศที่ดี และปริมาณน้ำที่เพียงพอ จึงขอสั่งให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งกระจายผลผลิตเพื่อไม่ให้เกิดการกระจุกตัว การบริหารจัดการกลุ่มเกษตรกร ในการควบคุมปริมาณ และคุณภาพของผลผลิต,การเพิ่มมูลค่าทางการตลาด เช่น การแปรรูป และจะต้องเพิ่มช่องทางการตลาดเช่น e-commerce
จึงขอให้ทางกระทรวงพาณิชย์ ร่วมมือกันในการบริหารจัดการไม่ให้สินค้าล้นตลาด มีราคาที่มีเสถียรภาพและเพมาะสม และให้หาความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน ตลอดจนตลาดในต่างประเทศ เพื่อส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ที่มีความต้องการ โดยจะต้องมีการตรวจสอบคุณภาพให้ได้มาตรฐานของต่างประเทศด้วย โดยในสัปดาห์นี้ นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหา และหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรในจังหวัดทางภาคตะวันออก ซึ่งเป็นแหล่งผลิตผลไม้ที่สำคัญของไทย
3.ในการเตรียมการจัดประชุมทูตไทยประจำปีตามที่ กระทรวงการต่างประเทศ จะมีการประชุมทูตไทยทั่วโลกเป็นประจำทุกปีและ กระทรวงพาณิชย์ จะมีการประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลกเป็นประจำทุกปี นั้น
เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายด้านต่างประเทศของไทยมีความเชื่อมโยงและสอดคล้องกัน ขอให้การจัดประชุมประจำปีในครั้งต่อไป เป็นการจัดประชุมร่วมกันระหว่าง ทูตประจำประเทศต่าง ๆ ทูตพาณิชย์ ทูตเกษตร และสำนักงาน BOI ทั่วโลกเพื่อจะได้ร่วมกันกำหนดแนวทางและกลยุทธ์ขับเคลื่อนนโยบายต่างประเทศของทีมประเทศไทย (Team Thailand) ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งเรื่องการ ส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือกับนานาประเทศในมิติต่าง ๆ รวมไปถึงการดึงดูดการลงทุน การส่งออก และการหาตลาดใหม่ ๆ ให้กับสินค้าไทย โดยขอให้ยึดผลประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนเป็นที่ตั้ง
4.สำหรับเหตุการณ์ไฟไหม้หลายพื้นที่นั้น นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการ ต่อไปว่า ช่วงที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์ย่านลาดกระบัง จึงขอให้ทาง กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าไปดูแลเรื่องความปลอดภัยของสถานที่ รวมทั้งตรวจสอบว่าการก่อสร้างอาคารที่เกิดเหตุไฟไหม้เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ และหากมีความจำเป็นต้องมีมาตรการในการช่วยเหลือประชาชนหรือผู้ได้รับผลกระทบ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเสนอมาตรการช่วยเหลือเยียวยาโดยเร็วต่อไป