In News

ตลาดวัสดุก่อสร้างคึกคักขยายตัวต่อเนื่อง คาดไตรมาส2-4ธุรกิจก่อสร้างโตตามศก.



กรุงเทพฯ-วันนี้ (14 พฤษภาคม 2568) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ พบว่ากลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการก่อสร้างในทุกระบบมีการเติบโตสูงขึ้นและมีความต้องการในตลาดทำให้เชื่อมั่นว่าในไตรมาสที่2-4ของปีนี้ธุรกิจการก่อสร้างในทุกมิติทั้งของภาครัฐและเอกชนจะกลับมาคึกคัก

 ขณะที่ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างประจำเดือนเมษายน 2568 อยู่ที่ 113.1 เพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และถือเป็นการปรับเพิ่มต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน สะท้อนความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างที่ขยายตัว โดยเฉพาะในโครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ทั้งโครงการใหม่และโครงการต่อเนื่อง รวมถึงการซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568

การปรับขึ้นของดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างมาจากหลายหมวดหลัก อาทิ หมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ปรับเพิ่ม 0.9% ตามความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะไม้พื้น ไม้แบบ วงกบประตูและหน้าต่าง รวมถึงค่าขนส่งที่สูงขึ้นตามราคาน้ำมันดีเซล

หมวดซีเมนต์ ปรับเพิ่ม 4.1% ครอบคลุมทั้งปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ปูนผสม และปูนฉาบสำเร็จรูป จากการเร่งดำเนินโครงการก่อสร้างของภาครัฐและความต้องการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีตเพิ่มขึ้น 1.1% จากต้นทุนเสาเข็มคอนกรีตและคอนกรีตผสมเสร็จที่สูงขึ้น ขณะที่หมวดวัสดุฉาบผิว ปรับขึ้น 0.2% โดยเฉพาะสีทาถนนสะท้อนแสง และน้ำมันเคลือบแข็งจากการซ่อมแซมถนน

ในส่วนของหมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา ปรับเพิ่ม 2.1% จากราคาสายไฟและอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าที่สูงขึ้นตามราคาทองแดงและวัสดุที่เกี่ยวข้อง ขณะที่หมวดวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ เพิ่ม 5.9% โดยเฉพาะยางมะตอย และวัสดุธรรมชาติอย่างหิน ดิน ทราย ซึ่งมีความต้องการสูงจากโครงการคมนาคมของภาครัฐ

ขณะเดียวกัน สินค้าบางหมวดยังปรับลดลง เช่น เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ลดลง 2.6%  จากการลดลงของเหล็กเส้นกลมผิวเรียบ เหล็กเส้นกลมผิวข้ออ้อย เหล็กตัว H และท่อเหล็กดำ หมวดกระเบื้อง ลดลง 1.2% จากการลดลงของกระเบื้องคอนกรีตมุงหลังคา กระเบื้องเคลือบบุผนัง และกระเบื้องยาง PVC ปูพื้น 

อย่างไรก็ตาม คาดว่าดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนพฤษภาคม 2568 จะยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐที่เป็นไปตามเป้าหมาย สอดรับกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์

“ความคืบหน้าในการใช้จ่ายงบประมาณและการขับเคลื่อนโครงการก่อสร้างของรัฐ ไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการจ้างงานและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจฐานราก รัฐบาลพร้อมเดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชนว่าประเทศไทยกำลังเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นางสาวศศิกานต์ ระบุ