In News
รัฐฯเวียดนามจัดเลี้ยงอาหารค่ำกับนายกฯ ตอกย้ำ2ประเทศมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้น

กรุงฮานอย-รัฐบาลเวียดนามจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำ ต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะอย่างเป็นทางการ ย้ำความสัมพันธ์แน่นแฟ้นไทย–เวียดนามในทุกมิติ พร้อมเชิญร่วมชมซีเกมส์ในไทย ก่อนหน้านี้ นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม ย้ำสัมพันธ์นิติบัญญัติไทย-เวียดนามแน่นแฟ้น ชูความร่วมมือรัฐสภา-ประชาชน กระชับสัมพันธ์ผ่านเมืองคู่มิตรไทย-เวียดนาม
วันนี้ (15 พฤษภาคม 2568) เวลา 19.00 น. ณ ทำเนียบรัฐบาลเวียดนาม กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำในโอกาสเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ โดยมีนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เป็นเจ้าภาพ
ทั้งนี้ ก่อนเริ่มงานเลี้ยง นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้นำนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการหัตถกรรมท้องถิ่นของเวียดนาม รวมถึงของที่ระลึกจากทั้งสองฝ่ายซึ่งจัดแสดงบริเวณทางเข้างาน
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์บนเวที แสดงความยินดีและขอบคุณรัฐบาลเวียดนามที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ซึ่งนายกรัฐมนตรีเวียดนามเป็นผู้นำคนแรกที่ได้โทรศัพท์แสดงความยินดี ต้องขอบคุณอีกครั้ง การเยือนครั้งนี้ เป็นการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรก ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ทั้งสองประเทศต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการเมืองและเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการประชุม JCR ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ว่าเป็นโอกาสครบรอบ 20 ปีของกลไกพิเศษที่ไทยมีเฉพาะกับเวียดนาม และเวียดนามก็มีกลไกนี้เฉพาะกับไทยเท่านั้น อีกทั้งยังแสดงความยินดีที่ไทยและเวียดนามจะยกระดับความสัมพันธ์เป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน” ในระหว่างการเยือนครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนความร่วมมือในทุกมิติอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
ด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงความเชื่อมโยงที่แน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ โดยการค้าระหว่างไทยกับเวียดนามขยายตัวกว่า 20 เท่าในรอบ 30 ปี และไทยเป็นหนึ่งในนักลงทุนรายใหญ่ในเวียดนาม ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญมีศักยภาพสูงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจร่วมกันในอนาคต ขณะเดียวกัน ยังกล่าวถึงความสัมพันธ์เชิงวัฒนธรรมและประชาชนที่แน่นแฟ้น ทั้งในด้านอาหาร ดนตรี ละคร และชุมชนไทยเชื้อสายเวียดนามในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย
นายกรัฐมนตรีระบุว่า ไทยเป็นประเทศเดียวในโลกนอกเหนือจากเวียดนามที่มีอนุสรณ์สถานของประธานโฮจิมินห์ถึง 3 แห่ง ที่จังหวัดอุดรธานี นครพนม และพิจิตร สะท้อนความผูกพันธ์ทางประวัติศาสตร์ พร้อมแสดงความยินดีที่ละครไทยได้รับความนิยมในเวียดนามอย่างมาก ทำให้ไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเวียดนามกว่า 1 ล้านคน ในปีที่ผ่านมา ขณะที่คนไทยกว่า 5 แสนคนก็เดินทางท่องเที่ยวเวียดนามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมืองเว้ ดานัง ดาลัด และซาปา
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวเชิญนายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ และคณะรัฐมนตรีเวียดนามเยือนไทย เพื่อร่วมชมการแข่งขันนัดชิงเหรียญทองฟุตบอลชาย หากไทยและเวียดนามพบกันในรอบชิงชนะเลิศ ซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพช่วงปลายปีนี้ พร้อมกล่าวเชิญชวนแขกผู้มีเกียรติร่วมดื่มอวยพรแด่ผู้นำเวียดนาม และเพื่อความสัมพันธ์และมิตรภาพที่แน่นแฟ้นระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศสืบไป
นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม
ก่อนหน้านี้เวลา 16.00 น. ณ ห้อง Hoa Sen สภาแห่งชาติเวียดนาม กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าเยี่ยมคารวะนายเจิ่น แทงห์ เหมิน (H.E. Mr. Tran Thanh Man) ประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม ในโอกาสการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ
นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีที่ได้พบประธานสภาฯ ในโอกาสสำคัญนี้ พร้อมระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเวียดนามมีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในระดับรัฐบาล ซึ่งในการเยือนครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะได้หารือกับผู้นำเวียดนาม และร่วมประชุม Joint Cabinet Retreat (JCR) ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นกลไกพิเศษที่เวียดนามมีเฉพาะกับไทย พร้อมประกาศยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน (Comprehensive Strategic Partnership) เพื่อยกระดับความร่วมมืออย่างรอบด้านและเป็นรูปธรรม รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับประชาชน-ประชาชน ด้วย
ด้านความร่วมมือเชิงนิติบัญญัตินั้น นายกรัฐมนตรีและประธานสภาฯเวียดนาม ต่างยินดีที่รัฐสภาทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด และหวังว่าจะขยายความร่วมมือในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยและเวียดนามอย่างต่อเนื่อง การใช้ประโยชน์จากกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-เวียดนามให้มากขึ้น และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านนิติบัญญัติ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาประเทศและความเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยนายกรัฐมนตรียังได้เชิญประธานสภาฯ เวียดนามเยือนไทยอย่างเป็นทางการในโอกาสที่เหมาะสม
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะชาวไทยเชื้อสายเวียดนามกว่า 1 แสนคน ถือเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์อย่างยั่งยืน
โดยนายกรัฐมนตรีเสนอให้มีการจัดแคมเปญร่วมส่งเสริมธุรกิจและการท่องเที่ยวระหว่างเวียดนามกับจังหวัดในภาคอีสานของไทย พร้อมมอบหมายให้เมืองคู่มิตรของทั้งสองประเทศกว่า 20 คู่เมือง ดำเนินกิจกรรมเชื่อมโยงเศรษฐกิจท้องถิ่น (business matching) อย่างต่อเนื่อง และการเชื่อมโยงคมนาคม ทั้งทางบกและเส้นทางการบิน ซึ่งไทยยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวเวียดนามด้วย
นายกรัฐมนตรีและประธานสภาฯ เวียดนาม เชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและประชาชนของทั้งสองประเทศ จะเป็นพลังสำคัญในการสนับสนุนความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม ที่ยั่งยืนทั้งในระดับทวิภาคีและภูมิภาค พร้อมแสดงความตั้งใจที่จะผลักดันความร่วมมือรัฐสภาของทั้งสองประเทศทั้งในระดับทวิภาคีและกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ ในทุกมิติให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไป