Biz news

เจเจ-แลปป์จับมือบ.เต่อเย่เร่งใช้พลังงาน หมุนเวียนในไทยมุ่งหน้าสู่Net Zero



กรุงเทพฯ-ประเทศไทย- 15พฤษภาคม 2568 เจเจ-แลปป์(JJ-LAPP) กิจการร่วมทุนด้านเทคโนโลยีสายเคเบิลระหว่างเจ๊บเซ่น แอนด์ เจ๊สเซ่น กรุ๊ป (Jebsen& Jessen Group) กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย และแลปป์ โฮลดิง เอเชีย (LAPP Holding Asia) ประกาศความร่วมมือครั้งที่สองกับ บริษัทเต่อเย่( Deye)ผู้นำตลาดอินเวอร์เตอร์และระบบจัดเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ระดับโลกโดยนับเป็นความร่วมมือครั้งแรกในตลาดไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเจเจ-แลปป์ ในการผลักดันการใช้พลังงานหมุนเวียนในประเทศไทย พร้อมนำเสนอโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจรสำหรับการใช้งานในที่อยู่อาศัย ธุรกิจ และอุตสาหกรรม (C&I) ต่อยอดจากความสำเร็จในการทำธุรกิจร่วมกันก่อนหน้านี้ในมาเลเซีย ข้อตกลงครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของทั้งสองแบรนด์ในการขยายการจัดจำหน่ายตลาดอินเวอร์เตอร์และระบบจัดเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ที่ครบวงจรของ Deyeสู่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก

ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเดินหน้าเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดอย่างจริงจังภายใต้แผนพลังงานแห่งชาติ โดยตั้งเป้าหมายเพื่อต่อสู้กับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 30-40% ภายในปี 2573 การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 ตลอดจนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์หรือ Net Zero ภายในปี 2608 ความร่วมมือครั้งนี้จึงมุ่งสนับสนุนเป้าหมายของประเทศในการก้าวสู่การใช้พลังงานหมุนเวียน 100% พร้อมผลักดันการใช้พลังงานสะอาดให้แพร่หลายทั้งในหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ เจเจ-แลปป์ ประเทศไทย จะรับผิดชอบด้านการขาย การจัดจำหน่าย และการให้บริการสนับสนุนสำหรับผลิตภัณฑ์และโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมดของ บริษัทเต่อเย่ซึ่งรวมถึงอินเวอร์เตอร์พลังงานแสงอาทิตย์ และระบบจัดเก็บพลังงาน (ESS) และอินเวอร์เตอร์แบบไฮบริด ซึ่งล้วนเข้ามาเสริมแกร่งให้พอร์ตโฟลิโอที่ครบวงจรของเจเจ-แลปป์ตอกย้ำการเป็นผู้ให้บริการโซลูชันแบบครบวงจรชั้นนำที่รองรับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์หลายขนาด ทั้งที่อยู่อาศัย โครงการเชิงพาณิชย์ อุตสาหกรรม และระบบสาธารณูปโภค ความร่วมมือนี้ พร้อมนำเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ เม็ดเงินลงทุน และความเชี่ยวชาญมาสู่ตลาดไทย เพื่อตอบสนองต่อความต้องการโซลูชันพลังงานหมุนเวียนที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ และเร่งการใช้พลังงานแสงอาทิตย์อย่างแพร่หลายมากขึ้นในประเทศ

"ท่ามกลางวิกฤตสภาพภูมิอากาศโลก เจเจ-แลปป์ มุ่งมั่นขับเคลื่อนการใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง" นายฉัตรชัย วาจาเกียรติ ผู้จัดการทั่วไปของเจเจ-แลปป์ ประเทศไทย กล่าว พร้อมเสริมว่า "ด้วยการผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยของ บริษัทเต่อเย่เข้ากับเครือข่ายที่แข็งแกร่งและบริการที่ครอบคลุมของเจเจ-แลปป์ เราจะทำให้ธุรกิจและเจ้าของบ้านเข้าถึงโซลูชันพลังงานหมุนเวียนได้ง่ายและสะดวกขึ้น

นอกจากนี้ความร่วมมือครั้งนี้ยังครอบคลุมการร่วมมือกับสถาบันการศึกษาเพื่อเพิ่มความรู้กับบุคลากรในประเทศให้มีทักษะที่จำเป็นในการสนับสนุนการเติบโตของตลาดพลังงานยั่งยืนในประเทศไทยอีกด้วย"

นอกจากการทำให้โซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์เข้าถึงได้ง่ายขึ้น เจเจ-แลปป์ มุ่งส่งเสริมความเชี่ยวชาญในตลาดของประเทศไทย ผ่านความร่วมมือระหว่างองค์กร โดยเจเจ-แลปป์เดินหน้าสร้างความร่วมมือกับสถาบันเทคนิคและศูนย์ฝึกอบรมในไทย เพื่อจัดหลักสูตรเฉพาะทางเกี่ยวกับโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์แบบไฮบริดและระบบกักเก็บพลังงาน พร้อมออกใบรับรองความเชี่ยวชาญเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันได้มีการลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) และวิทยาลัยเทคนิคสุพรรณบุรี เพื่อจัดสอนหลักสูตรดังกล่าว โดยการฝึกอบรมครั้งแรกร่วมกับ มทร.อีสาน จัดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วม 34 คน หลักสูตรดังกล่าวจะจัดสอนตลอดทั้งปี โดยครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมร่วมกับวิทยาลัยเทคนิคสุพรรณบุรี

ที่ผ่านมา เจเจ-แลปป์ ได้ตอกย้ำศักยภาพในการมอบโซลูชันที่ปรับแต่งตามความต้องการ พร้อมเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรและผู้เล่นในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ร่วมงานสำคัญถึงสองงาน ได้แก่Solar & Storage Live Thailand เมื่อเดือนกุมภาพันธ์และ Automation Expo 2025ในเดือนมีนาคม

นายประพันธ์ หาญไชย,ประเทศไทย, ที่ปรึกษาบริษัทเต่อเย่ กล่าวเสริมว่า "บริษัทเต่อเย่ยินดีที่ได้ร่วมมือกับ เจเจ-แลปป์เพื่อนำนวัตกรรมระบบจัดเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ของเรามาสู่ประเทศไทย เชื่อมั่นว่าการผนึกเทคโนโลยีของเรา เข้ากับความเชี่ยวชาญและบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าของเจเจ-แลปป์ จะช่วยเร่งการใช้พลังงานหมุนเวียนในไทยอย่างมีนัยสำคัญ ความร่วมมือนี้สะท้อนความมุ่งมั่นของเราในการมอบโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ที่น่าเชื่อถือและเข้าถึงง่ายพร้อมเร่งผลักดันให้ธุรกิจและชุมชนสามารถเลือกพลังงานแห่งความยั่งยืนมาใช้ได้อย่างสะดวกสบาย"