In News
'คุณย่าดญ.ติดโควิด'ย้อนกระแสดราม่า ยันเลี้ยงมากับมือไม่คิดแยกแต่จำเป็น
ฉะเชิงเทรา-ตอกกลับ กระแสสื่อดราม่าผู้เป็นย่าเด็กหญิงติดโควิด 19 นอนป้อมตำรวจ ยันเลี้ยงหลานมาเองกับมือไม่เคยคิดผลักไสแต่มีเหตุจำเป็นเพราะสถานที่ในบ้านพักอาศัยคับแคบ แม้ในยามปกติยังต้องนอนเบียดเสียดกันจนแน่น เผยทำตามมาตรการสาธารณสุขตามที่ อสม.แนะนำ บอกให้แยกที่อยู่กันเพียงชั่วคราวเพื่อความอยู่รอดของทุกคนอีกมากถึงเกือบ 10 ชีวิต
วันที่ 15 ก.ค.64 เวลา 13.30 น. นางวิลัย โกหยงฮก อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 ม.12 ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ผู้เป็นย่าของเด็กหญิงวัย 11 ขวบ และเป็นมารดาของสามีเด็กหญิงวัย 14 ปี ลูกสะใภ้ ที่ถูกกระแสสังคมกระหน่ำโดยเฉพาะสื่อโซเชียลในท้องถิ่น กรณีที่มีการเผยแพร่ภาพข่าว กล่าวหาว่าขับไล่หลานสาวแท้ๆ ที่นำมาอุ้มชูเลี้ยงดูมาด้วยตนเองกับมือมาตั้งแต่ยังแบเบาะให้ออกไปจากบ้าน หลังจากเป็นผู้ติดเชื้อโควิด 19 และให้ไปพักอาศัยอยู่ภายในป้อมตำรวจร้างนั้น ได้กล่าวเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า
ตนเองไม่เคยคิดที่จะผักไสหลานสาวในไส้แท้ๆ ออกจากบ้านไปหลังจากติดเชื้อโควิด 19 แต่เป็นเพราะความจำเป็นที่ต้องทำตามกระบวนการทางด้านสาธารณสุข ตามที่ อสม. และทาง อบต.บางแก้ว แนะนำ เพื่อป้องกันสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเป็นเด็กอีกมากถึง 3 คน เนื่องจากบ้านที่พักอาศัยมีสภาพคับแคบ และอยู่กันอย่างแออัดมากอยู่ก่อนแล้วในยามภาวะปกติ จึงไม่มีสถานที่ให้แก่หลานสาววัย 11 ขวบ และลูกสะใภ้วัย 14 ปี แบ่งแยกกันอยู่ออกเป็นสถานที่สำหรับกักตัวได้
เนื่องจากในบ้านหลังนี้มีสมาชิกอยู่ร่วมกันมากถึง 10 คนเป็นเด็กมากถึง 5 คน ประกอบด้วยตนเอง และบุตรชาย คือ นายอนุรักษ์ สุขประเสริฐ วัย 39 ปี บุตรสาวคนโตของนายอนุรักษ์วัย 13 ปี และบุตรสาวคนที่ 2 ของนายอนุรักษ์ วัย 11 ปีคนที่ตกเป็นข่าว นายอนุชา สุขประเสริฐ อายุ 35 ปี บุตรสาวของนายอนุชา วัย 13 ปี น.ส.นิตยา สุขประเสริฐ บุตรสาวคนรองสุดท้องของตน และบุตรชายของ น.ส.นิตยา วัย 6 ขวบ
นอกจากนี้ยังมี ด.ญ.เพ็ญธิชา (ขอสงวนนามสกุล) วัย 14 ปี ซึ่งเป็นภรรยาคนใหม่ของนายอนุรักษ์ ที่เพิ่งกลับมาอยู่บ้านจากแคมป์คนงานก่อสร้างในกรุงเทพฯ ได้ไม่นาน รวมคนในบ้านอยู่อาศัยกันจำนวน 10 คน มีไปๆ มาๆ 3 คนอยู่ประจำทุกวัน 7 คนซึ่งส่วนใหญ่ยังอยู่ในวัยเด็กมากถึง 5 คน จากที่ตนมีบุตรทั้งหมดจำนวน 7 คน ซึ่งบุตรสาวของนายอนุรักษ์ นั้นตนก็ได้ไปตามเก็บมาเลี้ยง
หลังจากทราบว่าผู้เป็นมารดาของเด็กที่แยกทางหนีจากบุตรชายตนไป ก่อนนำไปทิ้งที่ จ.นครราชสีมา ตนจึงเป็นผู้เลี้ยงดูอุ้มชูมาตั้งแต่ยังเล็กๆ และจะมากล่าวหาว่าขับไล่ไสส่งหลานสาวให้ออกไปจากบ้านได้อย่างไร แต่เมื่อมีความจำเป็นทางเจ้าหน้าที่ได้ให้แยกกันอยู่ โดยไม่ให้มาอยู่ร่วมกัน ตนเองจึงได้ไปสอบถามขอความช่วยเหลือจากทาง นายภูไท เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบต.บางแก้ว ที่เคยเมตราตนและให้ความช่วยเหลือตนมาตลอด เขาก็ได้พยายามที่จะหาทางช่วยเหลือ และหาสถานที่พักคอยเตียงในโรงพยาบาลให้อยู่อาศัยไปก่อน
ซึ่งก็เป็นสถานที่สะอาดอยู่กลางแหล่งชุมชน ด้านหลังมีรั้วติดกันกับสำนักงาน อบต.บางแก้ว อยู่ใกล้กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา และอยู่ตรงข้ามเยื้องกับวัดสมานรัตนาราม แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่มีคนหลายแสนคนเดินทางมาในแต่ละเดือน และยังมีร้านค้าและตลาดอยู่ในพื้นที่เป็นจำนวนมาก รวมถึงยังมีสำนักงาน อบจ.ฉะเชิงเทรา สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองฉะเชิงเทรา สำนักงานโครงการเขื่อนทดน้ำบางปะกง ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันด้วย
อีกทั้งนายอนุรักษ์ ก็เป็นคนตั้งใจทำมาหากิน และส่งเสียเงินมาช่วยเหลือครอบครัวเพื่อเลี้ยงดูทั้งบุตรตนเองและหลานๆ มาโดยตลอดอย่างไม่เคยขาด และไม่ทราบว่าไปติดเชื้อโควิด 19 มาได้อย่างไร เพราะไม่ได้ออกไปไหน อยู่กันแต่ภายในแคมป์คนงานแค่ 4-5 คนเท่านั้น ส่วนตนเองและหลานๆ ยังตรวจไม่พบเชื้อ ขณะนี้จึงถูกให้กักตัวอยู่ที่บ้าน นางวิลัย กล่าว
สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา