Biz news

เอฟเคไอไอ.-สถาบันทิวาร่วมกันสนับสนุน 'ทีวาเวนเจอร์ร่วมนิฮอนฯ'ยกระดับSMEs



กรุงเทพฯ-เอฟเคไอไอ.-สถาบันทิวาร่วมสนับสนุน “ทีวา เวนเจอร์” จับมือ“ นิฮอน เอ็มแอนด์เอ.”(ญี่ปุ่น)ยกระดับศักยภาพเอสเอ็มอี.(SMEs)ไทยพร้อมแข่งขันในเวทีโลก

บริษัท ทีวา เวนเจอร์ จำกัด (TVA Venture) และบริษัท นิฮอน เอ็มแอนด์เอ เซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (Nihon M&A Center (Thailand)) ได้ลงนามใน MOU เพื่อร่วมมือกันสนับสนุนผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่มีเป้าหมายในการขยายกิจการ ควบรวม หรือแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งในประเทศและระดับสากล

ทีวา เวนเจอร์ เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการควบรวมกิจการ การระดมทุน การปรับโครงสร้างธุรกิจและการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ภายใต้แนวคิด  “Respect, Trust & Collaboration (RT&C) นาย ชยดิฐ หุตานุวัชร์ ประธานบริษัท ทีวา เวนเจอร์ ประธานสถาบันทิวาและผู้อำนวยเอฟเคไอไอ.กล่าวว่า“ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการเชื่อมโยงระหว่างไทยกับญี่ปุ่น แต่คือการสร้างโครงสร้างสนับสนุนให้กับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการก้าวข้ามข้อจำกัดทางทุนและโอกาส ความเชี่ยวชาญจากญี่ปุ่น ผสานกับความเข้าใจเชิงลึกของ ทีวา เวนเจอร์ ต่อบริบทธุรกิจไทย จะช่วยผลักดัน SMEs ให้กลายเป็นกิจการที่นักลงทุนต่างชาติพร้อมร่วมมือในระยะยาว”

ในโอกาสนี้ยังมีการเปิดตัวพันธมิตรด้านการลงทุนจากญี่ปุ่น “A to G Capital” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเข้าลงทุนในกิจการกลุ่มประเทศ ASEAN ที่มีศักยภาพ โดยจะเข้าถือหุ้น ปรับปรุงโครงสร้างองค์กร และสนับสนุนให้ธุรกิจสามารถเติบโตอย่างมีระบบ ก่อนส่งต่อให้กับนักลงทุนรายใหญ่ในระยะต่อไป ซึ่งถือเป็นเครื่องมือเร่งการเติบโตของกิจการไทยให้เข้าสู่ระดับสากลได้เร็วและมั่นคงยิ่งขึ้น

นางสาว รมนต์อร บุญเรือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีวา เวนเจอร์ เเละเลขาธิการสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (สภาเอสเอ็มอีไทย) กล่าวว่า “ผู้ประกอบการ SMEs ไทยจำนวนมากมีสินค้าที่มีคุณภาพ เทคโนโลยีนวัตกรรมที่แข่งขันได้ และทีมผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ แต่ยังขาดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนหรือการจับมือกับพันธมิตรระดับสากล ความร่วมมือในครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนการเปิดประตูสำคัญให้กับธุรกิจเหล่านี้สามารถเติบโตในระดับภูมิภาคและระดับโลกได้อย่างแท้จริง และจากประสบการณ์ที่คลุกคลีอยู่กับภาคธุรกิจ SME มาโดยตลอด พบว่าหลายกิจการมีศักยภาพอย่างชัดเจน สิ่งที่ต้องการมากที่สุดในวันนี้ คือเครื่องมือที่สามารถแปลงศักยภาพนั้นให้กลายเป็นความสำเร็จที่ยั่งยืน ซึ่งโครงการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มในจุดนั้นได้อย่างเหมาะสมและเป็นรูปธรรม”

นิฮอน เอ็มแอนด์เอ เซ็นเตอร์ เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการควบรวมและซื้อกิจการจากประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2534 และมีประสบการณ์ดำเนินธุรกรรม M&A มากกว่า 10,000 รายทั่วญี่ปุ่น โดยในช่วงปี 2564–2567 ยังได้รับการบันทึกใน Guinness World Records ว่าเป็นบริษัทที่ให้บริการที่ปรึกษา M&A สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมากที่สุดในโลก นาย ทากะโนะซุเกะ คิกาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิฮอน เอ็มแอนด์เอ เซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า
“การทำ M&A ไม่ใช่เพียงการจับคู่ธุรกิจ แต่คือการเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน ทั้งการเงิน กลยุทธ์ และวัฒนธรรมองค์กร เพื่อให้กิจการสามารถเติบโตได้จริง ความร่วมมือกับทีวา เวนเจอร์ จะทำให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงความเชี่ยวชาญและเครือข่ายจากนักลงทุนทั้งญี่ปุ่นและยุโรปได้อย่างเป็นระบบ”

ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงเป็นจุดเริ่มต้นในการเชื่อมโยงนักลงทุนกับกิจการไทย แต่ยังถือเป็นกลไกสำคัญในการสร้างโอกาสใหม่ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง และยกระดับศักยภาพของ SMEs ไทยให้พร้อมแข่งขันในเวทีโลกอย่างยั่งยืน”

นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังมีแผนจัดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ  การอบรมเชิงลึก และกิจกรรมสร้างเครือข่ายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในปี 2568 เพื่อร่วมยกระดับศักยภาพของ SMEs ไทยให้เตรียมความพร้อมสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล