In News

น่าสงสาร2พี่น้องกักตัวลำพังแม่ติดโควิด



กระบี่-น่าสงสารน้อง ธารน้ำใจช่วย พี่น้องอายุ 8 ขวบ และ 5 ขวบ    ต้องกักตัวตามลำพัง ในบ้านพัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ หลังแม่ป่วยโควิด ต้องแยกไปรักษาตัวที่รพ.     ขณะที่กำนัน ฝ่ายปกครอง รุดช่วยเหลือ จัดอาหารให้ใวันละ3 มื้อ พร้อม.อสม.เข้าช่วยดูแลสภาพจิตใจ 

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่  18 ก.ค.64   นายไซย์ดี้ย์    โรมินทร์   กำนันตำบลแหลมสัก อ.อ่าวลึก  จ.กระบี่    พร้อมด้วยปลัดดนัย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้นำท้องถิ่น และอสม. รพ.สต.บ้านแหลมสัก รวมทั้งชาวบ้าน  เข้าตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ   และนำอาหาร  ขนมขบเคี้ยว  และน้ำดื่ม ที่ได้รับบาจคจากผู้ใจบุญไปมอบให้ เด็กชายชามิน  กล้าศึก อายุ8 ขวบ และเด็กหญิงนูรอัยน่า อีดเกิด  อายุ5 ขวบ  ที่กักตัวอยู่ตามลำพังอยู่ที่บ้านเลขที่4 ม.3 บ้านอ่าวน้ำ  ต.แหลมสัก    อ่าวลึก จ.กระบี่    ภายหลังแม่ของทั้งสองคน เป็นผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโควิด-19   หลังเดินทางกลับมามาจาก กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา   เป็นที่น่าสงสารของชาวบ้าน  เป็นอย่างมาก เพราะทั้งสองอายุยังน้อย 

นายไซย์ดี้ย์    กล่าวว่า   ครอบครัวของเด็กเดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา  โดยขณะที่อาศัยอยูที่กรุงเทพมหานคร แม่ของเด็กทั้งสองเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และตั้งท้องได้ประมาณ 6 เดือน  หากแม่ติดเชื้เกรงว่าจะลำบาก ไม่มีเตียงคนไข้  จึงปรึกษากับญาติ ก่อนตัดสินใจพาลูกๆกลับมาที่บ้านเกิด  พอมาถึงจนท.ก็นำตัวไปตรวจหาเชื้อที่รพ.กระบี่ ทัน ซึ่งผลตรวจออกมาเป็นบวก   จึงต้องแยกตัวไปรักษาที่รพ. ส่วนลูก2 คน ก็ต้องได้กักตัว ที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของพี่ชายของแม่เด็ก และเป็นลุงของเด็กทั้งสองคน  แต่เด็กทั้งสองคนอายุยังน้อยไม่สามรถดูแลตัวเองได้  จึงได้จัดเจ้าหน้าที่มาคอยดูแล พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านทรับทราบ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด จะได้ไม่ตื่นตระหนกจนเกินเหตุ

กำนันตำบลแหลมสัก กล่าวอีกว่า หลังกักตัวได้5 วัน ปรากฏว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาเด็กชาย มีอาการไข้ตัวร้อน เจ้าหน้าที่อสม.จึงให้ทานยา จนวันนี้อาการดีขึ้นแล้ว   ในส่วนเรื่องอาหารการกินของ เด็กทั้งสองนั้น ได้มีการจัดอาหารให้วันละ3 มื้อ  ซี่งใช้งบประมาณจานกสภาองค์การชุมชน และเทศบาลตำบลแหลมสัก     ส่วนเรื่องความสะอาดทางจนท.อสม.ก็จะเข้ามาดูแล และ รพ.สต.บ้านแหลมสัก  ก็จะเข้ามาดูแลรวมทั้งดูสภาพจิตใจของเด็กด้วย  ซึ่งพบว่าเด็กมีสภาพจิตใจดีขึ้น แม่เด็กจะโทรมาหาทุกวัน   และทางจนท.ฝ่ายปกครอง และสายตรวจ คอยดูแลความปลอดภัย 

ด้านเด็กชายชามิน กล่าวว่า ตอนที่แม่ถูกพาไปรักษาโรงพยาบาลก็คิดถึงแม่  น้องสาวร้องให้ตลอด  แต่ตอนนี้ไม่ร้องให้แล้ว เพราะแม่จะโทรมาหาทุกวัน    ส่วนการเป็นอยู่ในแต่ละวันก็จะนอนดูทีวี   และบางวันก็เรียนออนไลน์ คุณครูก็จะส่งการบ้านมาให้ทำ  ซึ่งตอนที่อยู่กรุงเทพฯเรียนอยู่ชั้น ป.2  เวลาหิวก็โทรหาแม่   ส่วนของที่ชอบกิน ก็จะเป็นขนมทุกอย่าง กินได้หมด 

ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน