Biz news
ภาคีนศ.วปอ.บอ.ร่วมกับรัฐ-เอกชนดีเดย์ เปิดตัวโมเดลฝึกงานโฉมใหม่เด็กจบใหม่

กรุงเทพฯ 4 กรกฎาคม 2568-หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ร่วมกับภาคีภาครัฐและเอกชนมากกว่า 50 บริษัทชั้นนำของไทย พลิกโฉมการฝึกงานรับมือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างแรงงาน และแก้ปัญหา Mismatch of Skill ผ่านการเปิดตัวโครงการ ‘Future Ready by Future Leader โอกาสจากพี่ เพื่อโอกาสแห่งอนาคต’ ต้นแบบโมเดลการสร้างความเท่าเทียมให้กับเยาวชนทั่วประเทศได้มีโอกาสจับคู่ฝึกงานกับบริษัทชั้นนำของไทย ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา ลดปัญหาด้านแรงงาน อาทิ ทักษะแรงงานไม่ตรงกับสายงาน การว่างงาน การขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ ฯลฯ โดยตั้งเป้าหมายในปีแรกนำร่องคัดเลือกนักศึกษาจบใหม่ในหลากหลายทั่วประเทศ รวมถึงยังนำร่องร่วมมือกับ ศอ.บต. เปิดโควตาเยาวชนใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และคาดว่าจะสามารถพัฒนาแรงงานดังกล่าวสู่การเป็นพนักงานประจำได้ไม่ต่ำกว่า 10% นอกจากนี้จากการเก็บข้อมูลของ JobThai .com พบสถิติการสมัครงานนักศึกษาจบใหม่ใน 6 เดือนแรกของ 2568 สูงถึง 1,486,604 ครั้ง และพบว่ามีตำแหน่งงานเปิดรับนักศึกษาจบใหม่จำนวน 220,000 ตำแหน่งงาน หรือเพียง 20% จากประกาศงานทั้งหมด สำหรับผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 กรกฎาคม 2568 ที่ www.JobThai.com/Futureleader
พลโททักษิณ สิริสิงห ผู้อำนวยการวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เปิดเผยว่า วปอ. บอ. เป็นหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อสร้างผู้นำที่เข้าใจในมิติเชิงลึกของสังคมไทย ที่เป็นมากกว่าผู้นำองค์กรแต่เป็นผู้นำที่กล้าลงมือสร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง โดยผสานองค์ความรู้ด้านความมั่นคงในทุกมิติ ทั้งสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ธุรกิจ บริการสาธารณะ ฯลฯ ให้สามารถเชื่อมโยงกับบริบทของโลกและในประเทศได้ ซึ่งผู้เรียนในหลักสูตร วปอ.บอ. สามารถคิดวิเคราะห์เชิงนโยบายและเชื่อมโยงกับภาคประชาชนและภาคธุรกิจ เพื่อออกแบบแนวทางการบริหารจัดการได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ช่วยพัฒนาสังคมและประเทศชาติให้มั่นคงอย่างยั่งยืน
“การสร้างความมั่นคงในยุคปัจจุบัน ไม่ได้จำกัดเพียงความมั่นคงทางทหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึง ‘ความมั่นคงของชีวิตคนไทย’ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนและแรงงานรุ่นใหม่ที่กำลังเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เพราะ ‘คน’ คือทรัพยากรที่สำคัญสุดของประเทศ ดังนั้น วปอ. บอ. จึงออกแบบหลักสูตรที่มุ่งเป้ากระจายแนวความคิดด้านความมั่นคงไปยังผู้เรียนซึ่งล้วนมาจากหลากหลายสาขา และกลุ่มเหล่านี้มีโอกาสอย่างมากในการก้าวสู่ผู้นำที่เป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ อีกทั้งนักศึกษายังจัดทำโครงการ Future Ready by Future Leader ซึ่งเป็นโครงการที่ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม โดยเปิดโอกาสให้กลุ่มเยาวชนทั่วประเทศเข้าฝึกงานเรียนรู้เพิ่มพูนทักษะวิชาชีพแรงงานให้ตรงสายกับมืออาชีพตัวจริงในบริษัทชั้นนำของประเทศอย่างเท่าเทียม เพื่อสร้างความพร้อมด้านทักษะยกระดับคุณภาพฝีมือแรงงานให้แก่เยาวชนก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน และเป็นกำลังสำคัญช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ” พลโททักษิณ กล่าว
นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) และ นักศึกษาหลักสูตร วปอ. บอ.รุ่นที่ 2 กล่าวว่า“Future Ready by Future Leader โอกาสจากพี่ เพื่อโอกาสแห่งอนาคต” เป็นโครงการที่เกิดจากแรงบันดาลใจที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและอาชีพของกลุ่มเยาวชน และเตรียมความพร้อมรับมือความท้าทายเชิงโครงสร้างด้านประชากรของไทยรวมถึงปัญหาด้านเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ที่ส่งผลให้เกิดปัญหาด้านแรงงาน อาทิ ปัญหา Mismatch of Skills หรือทักษะแรงงานไม่ตรงกับสายงาน การว่างงาน การขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ ซึ่งสร้างความสูญเสียในระบบเศรษฐกิจ
ดังนั้น วปอ. บอ. จึงร่วมกับเครือข่ายภาคีภาครัฐ เอกชนและองค์กรชั้นนำทั่วประเทศ มากกว่า 50 บริษัท ครอบคลุมทั้งกลุ่มอุตสาหกรรม New S-Curve กลุ่มภาคการผลิต อุตสาหกรรมดิจิทัล การบินและโลจิสติกส์ เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ เช่น บมจ. กัลฟ์ ดีเวลลอปเม้นท์ (Gulf), บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (Bitkub), บมจ.แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี (AIT), กลุ่มไทยรุ่งเรือง, กลุ่มบริษัท พราว กรุ๊ป, บริษัท Asia Pulp & Paper (APP) ฯลฯ เปิดรับนักศึกษาจบใหม่เข้าร่วมฝึกงานมากกว่า 150 ตำแหน่งงาน ซึ่งผู้ผ่านเกณฑ์จะได้รับการฝึกงานเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือนภายใต้การดูแลจากพี่เลี้ยงมืออาชีพสถานประกอบการชั้นนำ เพื่อเสริมสร้างทักษะที่ตลาดแรงงานต้องการ โดยตั้งเป้าหมายในปีแรกนำร่องคัดเลือกนักศึกษาจบใหม่ที่หลากหลายสาขา และคาดว่าจะสามารถพัฒนาสู่การเป็นพนักงานประจำได้ไม่ต่ำกว่า 10% นอกจากนี้ โครงการฯ ยังร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดโควตาพิเศษให้กับเยาวชนจบใหม่ในพื้นที่ห่างไกล 4 จังหวัดชายแดนใต้ โดย ศอ.บต. จะคัดเลือกเยาวชนที่มีศักยภาพสูงในด้านวิชาการหรือทักษะอาชีพ ซึ่งมีคุณสมบัติครบตามเกณฑ์สมัครเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้เพื่อสร้างความเท่าเทียมให้แก่เยาวชนในพื้นที่ภาคใต้ โดยผู้สนใจสามารถกรอกใบสมัคร ระหว่างวันที่ 4-31 กรกฎาคม 2568 นี้ ผ่านเว็บไซต์ www.JobThai.com/Futureleader และคาดว่าจะสามารถเริ่มต้นการฝึกงานได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป
“โครงการนี้ไม่ใช่แค่โครงการพัฒนาเยาวชนเท่านั้น แต่เป็นการวางรากฐานของ ‘ความเท่าเทียมทางโอกาส’ ให้เยาวชนไทยทุกคนได้รับโอกาสพัฒนาทักษะการทำงานในสาขาที่ตนเองสนใจ ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานผ่านการเชื่อมต่อกับบริษัทชั้นนำทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาคุณภาพแรงงานที่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน และพร้อมรับมือโครงสร้างสังคมและแรงงานที่เปลี่ยนแปลงไป ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ระบบเศรษฐกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว” นางสาวพราวพุธ กล่าว
ด้าน นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการของ JobThai กล่าวว่า JobThai จึงร่วมกับ วปอ.บอ. พัฒนาเว็บไซต์ทางการสำหรับโครงการ Future Ready by Future Leader ภายใน JobThai Platform เพื่อให้องค์กรภาครัฐและภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการเปิดรับสมัครนักศึกษาจบใหม่ฝึกงาน สามารถเข้ามาลงทะเบียนและกรอกข้อมูลสมัครฝึกงานได้อย่างสะดวก โดยสามารถใช้ระบบการค้นหาที่หลากหลายของ JobThai เพื่อให้ได้งานและบุคลากรที่ตรงกับความต้องการได้ ซึ่งองค์กรสามารถค้นหาบุคลากรตามระดับการศึกษา สาขาวิชาที่เรียน ทักษะ เป็นต้น ด้านเยาวชนสามารถค้นหางานตามประเภทงาน ประเภทธุรกิจ สถานที่ปฏิบัติงาน หรือตามวิธีการเดินทาง และอื่นๆ อีกมากมาย ถือเป็นประตูแห่งโอกาสเชื่อมโยงกลุ่มนักศึกษาจบใหม่สามารถเข้าฝึกงานตรงสายกับผู้ประกอบการ เพื่อเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นต่อการประกอบวิชาชีพ
นอกจากนี้ จากการเก็บข้อมูลสถิติการสมัครงานนักศึกษาจบใหม่ในช่วงเดือนมกราคม - มิถุนายน 2568 พบว่ามีตำแหน่งงานที่พร้อมเปิดรับนักศึกษาจบใหม่ 20% จากประกาศงานทั้งหมด หรือเพียง 220,000 ตำแหน่ง และมีการสมัครงานของเด็กจบใหม่ 1,486,604 ครั้ง โดยสายงานที่เด็กจบใหม่สมัครมากที่สุด 1. งานผลิต/ควบคุมคุณภาพ 2. งานวิศวกรรม 3. งานช่างเทคนิค 4. งานธุรการ/จัดซื้อ 5. งานทรัพยากรบุคคล ตลอดจนสำหรับกลุ่มสายงานที่เปิดรับเด็กจบใหม่มากที่สุดได้แก่ 1.งานขาย 2.งานช่างเทคนิค 3.งานผลิต/ควบคุมคุณภาพ 4.งานวิศวกรรม 5.งานธุรการ/จัดซื้อ
ในแต่ละปีมีนักศึกษาจบใหม่ก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานกว่า 300,000 คน และมักได้ยินเสียงสะท้อนว่า “เด็กจบใหม่หางานยาก” ในขณะเดียวกัน องค์กรหลายแห่งก็บอกว่า “หาเด็กจบใหม่ไม่ได้ คนสมัครน้อย หรือไม่ตรงกับสิ่งที่ต้องการ” เนื่องจากหลักสูตรการศึกษาบางส่วนยังคงเน้นทฤษฎีหรือวิชาพื้นฐานมากกว่าการลงมือทำ ขณะที่โลกการทำงานในปัจจุบันต้องการทักษะใหม่ๆ อยู่ตลอด ซึ่งนอกจากนักศึกษาจะต้องเก่งด้านวิชาการแล้ว ด้านทักษะ Soft Skills ก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการทำงานจริง เช่น การทำงานเป็นทีม การสื่อสารกับคนต่างวัย หรือผู้บริหาร ทักษะเหล่านี้เกิดจากการลงมือทำจริง ดังนั้นการส่งเสริมให้ฝึกประสบการณ์ทำงานจริง จะเป็นโอกาสเพื่อเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นในการเตรียมพร้อมก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน นางสาวแสงเดือน กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการสามารถเข้าไปกรอกใบสมัครได้ที่ www.JobThai.com/Futureleader โดยสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารตลอดจนสอบถามข้อมูลเพิ่มของโครงการได้ที่ www.facebook.com/ndcfutureleader หรือ LINE ID : NDCFL