In News
คนบางภาษีถกเจ้าอาวาสวัดรางกำหยาด ทุบโรงงิ้วทำกำแพงบังศาล100ปี
นครปฐม-ถกไม่ลงตัว ชาวบ้านนับร้อยรวมตัวกันประชุมหาทางออกรักษาพื้นที่ศาลเจ้าแม่ทับทิมอายุนับร้อยปี หลังเจ้าอาวาสวัดรางกำหยาด สั่งรื้อโรงงิ้วและทำกำแพงปูนกั้นส่วนออกจากพื้นที่วัด โดยชาวบ้านย้ำกระทบจิตใจคนไทยเชื้อสายจีนที่มีศาลเจ้าเป็นศูนย์รวมจิตใจ โดยผู้นำชุมชนรวมตัวหารือนอกรอบแต่ยังทางวัดยืนยันจะดำเนินการต่อ โดยชาวบ้านเตรียมร้องเรียนเจ้าคณะตำบลบางภาษีหากไม่ได้ผลจะเดินหน้าสู่ระดับชาติต่อไป
วันนี้ 19 ก.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสืบเนื่องจากกรณีที่ชาวบ้านซึ่งเป็นชาวไทย เชื่อสายจีน ได้มีการถกประเด็นปัญหาในเรื่องที่พระครูวินัยธร ทวีป ปสนโน เจ้าอาวาสวัดรางกำหยาด ในพื้นที่ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ได้มีการรื้อโรงงิ้วและได้ทำการก่อกำแพงเพื่อกำหนดพื้นที่วัด ซึ่งได้มีการกำแพงปูนเพื่อแบ่งเขตพื้นที่ศาลเจ้าแม่ทับทิม (อาม่าโจ้) ซึ่งเป็นศาลเจ้าเก่าแก่อายุนับร้อยปีซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่วัดรางกำหยาด ติดกับริมแม่น้ำท่าจีน ทำให้เกิดความคับแคบและไม่สวยงามดังเช่นที่เคยเป็นมา โดยชาวบ้านได้หวั่นว่าในอนาคตจะมีการรื้อศาลเจ้าแม่ทับทิมเช่นดังโรงงิ้วที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่ชาวบ้านรุ่นปู่ย่า ตายายได้ร่วมแรงลงทรัพย์ในการก่อสร้างไว้เป็นศูนย์รวมใจของชาวบ้านมาจนถึงยุคปัจจุบัน
กระทั่งเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 64 ที่ผ่านมา กลุ่มชาวบ้านประมาณ 100 คน ได้มีการนัดรวมตัวกันที่ ชมรมบางภาษีสันติสุข ซึ่งได้มีผู้นำชุมชน อาทิเช่น นายดำรงค์ บุญญาพงษ์พันธ์ประธานมูลนิธิ บางภาษีสันติสุข นายประสิทธิ์ ภักดีพานิชพงศ์ อดีต ส.ส.เขต 3 นครปฐม ประธาน บ.ไดนาสตี้กอล์ฟ และ ในเครือฯ นายสมจิตร สมบุญเก่า นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางภาษี ยงยุทธ เพชรดี อดีตกำนันตำบลบางภาษี ดร.อลงกรณ์ เพชรดี กำนันตำบลบางภาษี เข้าร่วมในการหารือกับชาวบ้านเพื่อสอบถามปัญหาและเป็นตัวกลางเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ให้กับทั้งสองฝ่าย เพื่อเป็นการลดความกดดันก่อนที่จะเป็นเหตุบานปลายกับชาวบ้านและคณะสงฆ์ในวัดรางกำหยาด โดยเฉพาะกับตัวเจ้าอาวาส ซึ่งได้มีการส่งตัวแทนไปเชิญทาด้าน พระครูวินัยธร เจ้าอาวาสวัดรางกำหยาดมาร่วมในการหาทางออกแต่ได้รับการปฏิเสธในการเข้าร่วมในการประชุมดังกล่าว
ซึ่งในที่ประชุมได้มีการสลับกันขึ้นพูดถึงเหตุผลของแต่ละส่วนที่เป็นชนวนปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะ โดยมีแนวทางที่สรุปว่าพระครูวินัยธร เจ้าอาวาสวัดรางกำหยาด ได้มีแนวคิดในไม่สนับสนุนให้ชาวบ้านได้เข้าไปกราบไหว้ที่ศาลเจ้าแม่ทับทิม เพราะมองต่างมุม ซึ่งชาวบ้านสังเกตมาแล้วสักพักหนึ่งกับปัญหานี้กระทั่งมีการสั่งรื้อโรงงิ้วออกไปก่อนที่จะมีการสร้างกำแพงปูนมาปิดกั้นเอาไว้ โดยมีชาวบ้านเคยได้เข้าไปสอบถามกลับได้รับคำตอบว่า โรงงิ้วไม่มีคนดูแล้วเพราะติดช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และศาลเจ้าก็ไม่มีใครที่จะมากราบไหว้ ซึ่งคำพูดตรงนี้ทำให้ชาวบ้านหลายคนเกิดความไม่พ้อใจ เพราะศาลเจ้าดังกล่าวมีอายุนับร้อยปี และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยเชื้อสายจีนที่อยู่ในพื้นที่มายาวนาน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการจัดงานประจำปี มีกิจกรรมมากมายซึ่งเป็นเหมือนประเพณีของชาวบ้านในตำบลบางภาษี
ทั้งนี้ ทางด้านผู้นำชุมชน ที่เป็นที่เคารพของชาวบ้านได้เข้าไปพบกับพระครูวินัยธร ทวีป ปสนโน เจ้าอาวาสวัดรางกำหยาด เพื่อสอบถามและหาทางออกร่วมกันกับสิ่งที่ชาวบ้านเรียกร้อง โดยเป็นแบบเข้าพบส่วนตัวโดยไม่มีการให้ชาวบ้านได้เช้าไปร่วมกันพบกับเจ้าอาวาสวัดรางกำหยาดด้วยเพราะกำลังอยู่ในช่วงของการไม่เข้าใจกันแต่บทสรุปเบื้องต้นก็ยังไม่สามารถหาข้อตกลงได้เนื่องจากทาง พระครูวินัยธร ทวีป ปสนโน เจ้าอาวาสวัดรางกำหยาด ยังคงยืนยันว่าจะมีการจัดระเบียบพื้นที่ภายในวัดเพื่อให้เกิดระเบียบและความสวยงามต่อไป
นายดำรงค์ บุญญาพงษ์พันธ์ประธานมูลนิธิ บางภาษีสันติสุข กล่าวว่าเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องที่หาทางออกไม่ได้ เนื่องจากทั้งทางเจ้าอาวาสวัดรางกำหยาดก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแนวความคิดในการก่อสร้างกำแพงปูน ส่วนชาวบ้านก็จะมีการพยายามขอให้ยกเลิกการสร้างกำแพงเนื่องจากกลัวว่าอนาคตจะมีการรื้อศาลเจ้าแม่ทับทิมออกไป โดยเบื้องต้นชาวบ้านได้มีข้อสรุปว่าจะมีการรวมตัวกันอีกครั้งเพื่อมาสอบถามถึงการติดตามเรื่องนี้ หากไม่เป็นผลก็จะเดินหน้าร้องเรียนไปยังเจ้าคณะตำบลบางภาษี หากไม่เป็นผลจะเดินหน้าร้องเรียนไปถึงคระสงฆ์ระดับภาคและระดับชาติต่อไป โดยชาวบ้านจะมีการนัดหมายกันอีกครั้ง
ขณะที่ นางสาวนางสาวนิดหน่อย ท้าวญาติ อายุ 45 ปี ที่อยู่ 34/1 ม.5 ต.บางภาษี อ.บางเลน บอกว่าตนเองเป็นผู้ดูแลศาลเจ้าแม่ทับทิมมากว่า 15 ปี ศาลเจ้านี้ตั้งมาตั้งแต่ตนเองยังไม่เกิดและชาวบ้านไม่มีใครยอมที่จะให้มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเคยมีการตกลงกันไปแล้วกับทางครอบครัวที่ได้ร่วมสร้างศาลว่าจะมีปรับเปลี่ยนบาส่วนได้ แต่ทางเจ้าอาวาสวัดรางกำหยาดก็ไม่ยอม ซึ่งปัญหาก็มีบ้างช่วงจัดงานประจำปี แค่ 3 วันต่อปี โดยมีรถมาจอดบังวัดทำให้เจ้าอาวาสวัดไม่พอใจ และเสนอว่าจะรื้อศาลให้แต่ขอก่อสร้างเป็นเก๋งจีนเอาไว้แยกออกมาด้านหน้าแต่ก็ไม่มีการยินยอม ก่อนจะมีการไม่พอใจของชาวบ้านจนเกิดมีการรวมตัวกันในที่สุด