Biz news
'เอปสัน'รุกเดินหน้าเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ เสริมแกร่งยุคดิจิทัลส่วนแบ่งปีนี้ถึง28%

กรุงเทพฯ-17 กรกฎาคม 2568 - เอปสัน ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จในการครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมปี 2567 สูงถึง 28% พร้อมเสริมทัพด้วยนวัตกรรมรุ่นใหม่ในกลุ่มป้ายโฆษณาและสิ่งทอ เพื่อตอบรับคลื่นการเปลี่ยนแปลงของตลาดในยุคที่เทคโนโลยีการพิมพ์ดิจิทัลครองทุกอุตสาหกรรม
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2567 เอปสันประสบความสำเร็จในการรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ด้วยส่วนแบ่งตลาดรวมที่ 28% โดยแบ่งเป็นรายผลิตภัณฑ์ได้ดังนี้ กลุ่มเครื่องพิมพ์ป้ายโฆษณา (Signage) มีส่วนแบ่งตลาดสูงเป็นอันดับหนึ่งที่ 30% ครอบคลุมเครื่องพิมพ์ในระบบหมึก Eco Solvent, Solvent และ Latex ในส่วนเครื่องพิมพ์สิ่งทอ (Graphic Textile) เอปสันเป็นแบรนด์ที่มียอดขายมากที่สุด ครองส่วนแบ่ง 30% ของตลาด เช่นเดียวกับกลุ่มเครื่องพิมพ์ภาพถ่าย (Photographic) ที่ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 32%”
“ความสำเร็จในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมีประสิทธิภาพของการดำเนินงานตามพันธกิจของไซโก้ เอปสัน ในการเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลในอุตสาหกรรมการพิมพ์ โดยมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพ ประสิทธิภาพการผลิต และความสะดวกในการใช้งาน ผ่านเทคโนโลยีและโซลูชันระบบอิงค์เจ็ทที่ทันสมัย ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เอปสัน ประเทศไทยได้เดินหน้าขับเคลื่อนพันธกิจดังกล่าวอย่างเต็มที่ ด้วยการนำเสนอทางเลือกที่ช่วยผลักดันการเติบโตและต่อยอดธุรกิจของลูกค้า ทั้งกลุ่มที่เริ่มปรับใช้ระบบดิจิทัล และกลุ่มที่ยังใช้ระบบดั้งเดิม ผ่านการผสานเทคโนโลยีการพิมพ์ ซอฟต์แวร์ การบริการ และโมเดลธุรกิจเข้าด้วยกันอย่างครบวงจร ปัจจุบัน เอปสันมีฐานลูกค้าครอบคลุมตั้งแต่โรงงานสิ่งทอ ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์ นักออกแบบ แบรนด์สินค้า ไปจนถึงผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่เริ่มต้นธุรกิจการพิมพ์แบบออนดีมานด์”
เอปสันตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มเครื่องพิมพ์ป้ายโฆษณา ด้วยการเปิดตัว SureColor SC-S9130, SC-S8130 และ SC-S7130 เครื่องพิมพ์หน้ากว้าง 64 นิ้ว ระบบ Eco Solvent ที่พิมพ์ได้ทั้งงานภายในและนอกอาคาร ทั้งสามรุ่นได้รับการอัปเกรดด้วยหัวพิมพ์ PrecisionCore Micro TFP รุ่นใหม่ ช่วยให้พิมพ์งานได้เร็วยิ่งขึ้น มี Nozzle Verification Technology เพื่อตรวจจับหัวพิมพ์อุดตันและปรับคุณภาพการพิมพ์อัตโนมัติ ทั้งยังมีโหมด Text Sharpness สำหรับพิมพ์ตัวอักษรขนาดเล็กได้คมชัดสุดถึง 3 พอยต์ และใช้หมึก UltraChrome GS3 ซึ่งผ่านการรับรอง Greenguard Gold มั่นใจได้ทั้งด้านความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
สินค้าไฮไลท์ได้แก่ SC-S9130 ซึ่งมีจุดเด่นที่ระบบหมึก 11 สี จำนวนสีมากที่สุดในตลาด โดยเพิ่มหมึกสีเขียว (Green) ช่วยให้พิมพ์ด้วยขอบเขตสีที่กว้างขึ้นและเก็บรายละเอียดของสีได้มากและแม่นยำยิ่งขึ้น ตอบโจทย์งานระดับพรีเมียม เช่น โปสเตอร์สินค้าแบรนด์หรู สติกเกอร์แร็ปรถ ฉลากเครื่องสำอาง งานศิลปะ ไปจนถึงงานออกแบบที่มีสีสันสะดุดตา ขณะที่รุ่น SC-S8130 เป็นเครื่องพิมพ์ระบบหมึก 6 สี ที่เพิ่มสี Light Cyan และ Light Magenta รองรับชุดหมึกทั้ง 800 และ 1,500 มิลลิลิตร พร้อมฟังก์ชัน Hot Swap เปลี่ยนหมึกขณะพิมพ์ได้โดย ไม่ต้องหยุดงาน เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการพิมพ์งานเร็ว แต่ยังคงคุณภาพสีสันสวยงามและความคมชัด ส่วน SC-S7130 เป็นรุ่นที่เน้นความคุ้มค่า เหมาะสำหรับผู้ให้บริการงานพิมพ์ที่เน้นการผลิตงานปริมาณน้อยแบบออนดีมานด์ มาพร้อมระบบป้อนวัสดุที่แม่นยำ ช่วยให้การพิมพ์งานปริมาณมากเป็นไปอย่างราบรื่น และฟีเจอร์ใช้งานสะดวก ทั้งการจัดเรียงวัสดุและทำความสะอาดหัวพิมพ์แบบอัตโนมัติ รวมถึงการควบคุมผ่านระบบออนไลน์
นายยรรยง กล่าวต่อว่า “เอปสันได้พัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีการพิมพ์ดิจิทัลเพื่ออุตสาหกรรมสิ่งทอมาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันเอปสันเป็นแบรนด์เดียวในตลาดที่มีเครื่องพิมพ์หน้ากว้างครอบคลุมทุกกลุ่มการใช้งานในอุตสาหกรรมงานพิมพ์เพื่อสิ่งทอ ทั้งกลุ่ม Dye Sublimation สำหรับงานบนผ้าโพลีเอสเตอร์ เช่น เสื้อกีฬาและแฟชั่น กลุ่ม Direct-to-Garment สำหรับพิมพ์ตรงลงบนผ้าฝ้ายโดยยังคงเนื้อสัมผัสเดิมของผ้า และล่าสุดคือ Direct-to-Film (DTFilm) ที่เติมเต็มพอร์ตสินค้าอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยความยืดหยุ่นสูงในการพิมพ์ลงบนฟิล์มก่อนนำไปถ่ายโอนบนวัสดุหลากชนิด เหมาะกับสินค้ากลุ่มเสื้อยืด รองเท้า ถุงผ้า และของที่ระลึก”
SureColor SC-G6030 เครื่องพิมพ์ระบบ DTFilm รุ่นแรกของบริษัทในกลุ่มเครื่องพิมพ์สิ่งทอ เพื่อตอบรับกระแสความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของระบบ DTFilm ในตลาด เครื่องพิมพ์ SC-G6030 มีจุดเด่นที่การใช้หัวพิมพ์ PrecisionCore Micro TFP ที่มี Nozzle Verification Technology ช่วยลดปัญหาหัวพิมพ์อุดตันและลดเวลาหยุดทำงาน และด้วยขนาดหน้ากว้าง 35.4 นิ้ว ทำให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับจัดวางงานออกแบบต่อม้วนฟิล์ม รองรับงานกราฟิกขนาดใหญ่ได้อย่างคล่องตัว จึงเปิดโอกาสใหม่ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทั้งผู้ประกอบการ แบรนด์แฟชั่น นักออกแบบที่เน้นงานเฉพาะตัว หรือแม้แต่โรงพิมพ์ที่ต้องการเพิ่มศักยภาพการผลิตแบบสั่งทำเฉพาะ (on-demand)
เครื่องรุ่นนี้ยังถูกออกแบบมาเพื่อการพิมพ์ปริมาณมาก โดยไม่ต้องทำความสะอาดบ่อยครั้ง มีระบบหมุนเวียนหมึกขาวอัตโนมัติ เพื่อคงคุณภาพการพิมพ์ให้เสถียรและสม่ำเสมอ ทั้งยังมีโหมดการพิมพ์ที่หลากหลาย ทั้งเสื้อยืด เสื้อกีฬา และถุงผ้า นอกจากนี้ SC-G6030 ยังมีระบบใบปัดทำความสะอาดผ้า (Fabric Wiper System) และแพ็คหมึกขนาด 1.6 ลิตร ช่วยลดความถี่ในการเปลี่ยนหมึกและทำความสะอาด และฟังก์ชัน Cutter Timer ในตัวที่ช่วยป้อง กันความผิดพลาดในการจัดวางฟิล์ม เพิ่มความแม่นยำในการพิมพ์งานทุกชิ้น อีกหนึ่งจุดเด่นของ SC-G6030 ก็คือตัวเครื่องที่มีขนาดกะทัดรัด ใช้พื้นที่เพียง 1.2 ตารางเมตร และยังใช้หมึก UltraChrome DF ที่ให้สีสันสดใส คมชัด ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผ่านการรับรองจาก OEKO-TEX และ GOTS มาตรฐานระดับโลกด้านสิ่งทอปลอดสารพิษ
“ปัจจุบัน ผู้ให้บริการงานพิมพ์ ผู้ผลิตป้ายโฆษณา รวมถึงนักออกแบบ ต่างมองหาโซลูชันที่มากกว่าแค่เครื่องพิมพ์ แต่ต้องการเครื่องมือที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต เครื่องพิมพ์กลุ่ม SureColor ของเอปสัน ทั้งในกลุ่มงานพิมพ์ป้ายและสิ่งทอ จึงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมีทางเลือกครบกับทุกความต้องของลูกค้ายุคใหม่ ทั้งในด้านประเภทแอปพลิเคชันที่หลากหลาย รองรับงานออกแบบที่ไม่จำกัด ช่วยให้ลูกค้าสามารถผลิตงานตามออเดอร์ขนาดเล็กได้อย่างคุ้มค่า พร้อมการใช้งานที่ง่ายดายและการดูแลรักษาที่ไม่ยุ่งยาก ช่วยลดต้นทุนแรงงาน โดยไม่จำเป็นต้องใช้พนักงานที่มีทักษะสูงในการควบคุมเครื่อง ทั้งยังมีรอบการผลิตที่รวดเร็ว ตอบสนองตลาดได้ทันเวลา และที่สำคัญ เครื่องพิมพ์ของเอปสันยังออกแบบมาโดยคำนึงถึงความยั่งยืนทั้งในแง่ของการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดของเสีย และเลือกใช้หมึกที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม ช่วยให้ลูกค้าก้าวข้ามขีดจำกัดด้านความคิดสร้างสรรค์ คว้าโอกาสใหม่ทางธุรกิจได้อย่างมั่นใจควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมแลสิ่งแวดล้อม” นายยรรยง กล่าวทิ้งท้าย