In News

กาฬสินธุ์ยันรพ.สนามยังเพียงพอรับผู้ป่วย สั่งเดินหน้าปรับฉีดสลับวัคซีน



กาฬสินธุ์-ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ปรับแผนฉีดวัคซีนสูตรผสมกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปี กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และบุคคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า  ขณะที่ยอดติดเชื้อยังพุ่งสูงรายวัน และเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน ด้านผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ยัน โรงพยาบาลสนามเพียงพอรองรับผู้ป่วย

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 ที่ห้องประชุมฟ้าแดดสงยาง ชั้น 2 ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.กาฬสินธุ์ โดยมีนายสนั่น พงษ์อักษร รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นายพิชัย ส่งสุขเลิศสันติ ปลัด จ.กาฬสินธุ์ นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ นายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ นพ.ประมวล ไทยงามศิลป์ ผอ.โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ และคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.กาฬสินธุ์เข้าร่วม เพื่อติดตามสถานการณ์โรคโควิด-19 ในพื้นที่ และเพิ่มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด หลังทาง ศบค.ประกาศปรับให้พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จากเดิมกลุ่มจังหวัดสีส้ม พื้นที่ควบคุม เป็นกลุ่มจังหวัดสีแดง พื้นที่ควบคุมสูงสุด รวมทั้งการติดตามสถานการณ์รับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลต่างๆ และโรงพยาบาลสนามทั้ง 18 อำเภอ หลังปัจจุบันมีประชาชนขอเดินทางกลับมารักษาในภูมิลำเนา และเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงจำนวนมาก ทำยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นรายวัน

นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังมีการปรับแผนการฉีดวัคซีน กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่ม 7 โรคเรื้อรังที่ลงทะเบียนในระบบหมอพร้อม เพื่อป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดลต้า ตามนโยบายของ ศบค.โดยกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่ม 7 โรคเรื้อรังและหญิงตั้งครรภ์ในระบบหมอพร้อม จะได้รับวัคซีนซิโนแวคเป็นเข็มแรก ผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกเป็นซิโนแวคจะได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 เป็นแอสต้าซิเนก้า ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกเป็นแอสต้าซิเนก้าแล้วจะได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 เป็นแอสต้าซิเนก้าตามแผนเดิม ส่วนกลุ่มบุคคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคไปแล้ว 2 เข้มแล้วจะได้รับวัคซีนแอสต้าซิเนก้าหรือไฟเซอร์เพิ่มอีก 1 เข็ม

นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์โรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ยังคงพบผู้ติดเชื้อจำนวนที่สูง เนื่องจากมีประชาชนที่ติดเชื้อจากพื้นที่แพร่ระบาดเดินทางขอกลับมาจากรักษายังภูมิลำเนา และเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดทาง ศบค.ประกาศให้พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ อยู่ในกลุ่มจังหวัดสีแดง เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด อีกทั้งจากการประเมินสถานการณ์ คาดว่าจะมีประชาชนขอเดินทางมารักษาตัวอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งมากพอสมควร ดังนั้นจะต้องมีการยกระดับมาตรการป้องกันให้เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะการปฏิบัติตามมาตรการพื้นที่ควบคุมสูงสุด สำหรับความพร้อมทาง จ.กาฬสินธุ์ นอกจากจะให้โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ และโรงพยาบาลประจำอำเภอรองรับผู้ป่วยติดเชื้อแล้ว ยังได้มีการให้ ทั้ง 18 อำเภอจัดตั้งโรงพยาบาลสนามอำเภอขึ้น เพื่อรองรองรับผู้ป่วย เบื้องต้นยังเพียงพอ แต่หากยังไม่เพียงพอก็จะมีการขยายเพิ่มขึ้นอีก



ขณะที่สถานการณ์โรคโควิด-19 ในพื้นที่ล่าสุดวันนี้ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงอีก 72 คน เป็นผู้ป่วยติดเชื้อขอกลับมารักษาในภูมิลำเนา 35 ราย เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงอยู่ระหว่างการกักกันตัว 30 ราย สัมผัสผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อในจังหวัด 2 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 5 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,158 ราย  กำลังรักษา 789 ราย รักษาหายแล้ว 363 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ด้วยภาวะปอดอักเสบรุนแรงจากโควิด-19 ซึ่งเป็นชายอายุ 63 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไปในพื้นที่กรุงเทพฯ และมีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมรวม 6 ราย  สำหรับการจัดสรรวัคซีน จ.กาฬสินธุ์นั้น ปัจจุบันได้รับทั้งหมด 70,590 โดส ฉีดครบ 2 เข็มแล้ว 15,226 โดส  ฉีดเข็มที่ 1 จำนวน  45,409 โดส รวมจำนวน 60,635 โดส ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการดำเนินการฉีด