In News
รายงานจากศบ.ทก.27ก.ค.68เวลา3ทุ่ม ทหารเสียชีวิต8นาย/ปชช.เสียชีวิต14คน

กรุงเทพฯ-รัฐบาลรายงานจาก ศบ.ทก. วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม 2568 เวลา 21:00 น.รัฐบาลรายงานจาก ศบ.ทก. วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม 2568 เวลา 21:00 น.
วันนี้ (27 มิถุนายน 2568) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการ ศบ.ทก.รับทราบรายงานบันทึกเหตุการณ์การปะทะบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา วันที่ 27 กรกฎาคม 2568 เวลา 21.00 น.ตามรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งพบว่ามีการปฏิบัติการในพื้นที่สำคัญจำนวน 7 แห่ง (ลดลงจากวันแรก 3 แห่ง) โดยมีรายละเอียดดังนี้
ช่องบก: ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังต่อเนื่อง โดยมีกระแสข่าวว่าฝ่ายกัมพูชาส่งกำลังเข้าสนับสนุนพื้นที่ภูมะเขือและช่องอานม้า ฝ่ายไทยยังสามารถควบคุมพื้นที่ได้ตามเส้นปฏิบัติการ 1:50,000 ขณะที่กัมพูชาเคลื่อนกำลังไปทางทิศใต้ภูผี–ปราสาทโดนตวล
และช่องตาเฒ่า: การตรึงกำลังยังคงดำเนินต่อไป คาดว่าฝ่ายกัมพูชาน่าจะสูญเสียอย่างหนัก โดยเฉพาะการเสียชีวิตของผู้บัญชาการกองพลที่รับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าว
พื้นที่หน้าเขาพระวิหาร: ยังคงมีการสู้รบ โดยกัมพูชาใช้อาวุธหลักคือพลซุ่มยิงจากบริเวณปราสาทพระวิหารเพื่อมุ่งเป้าทำร้ายกำลังพลไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงควบคุมพื้นที่ภูมะเขือตามแผนที่ปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง
ช่องจอม: ฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธยิงสนับสนุนโจมตีบ้านเรือนประชาชนไทย พร้อมกันนี้มีความพยายามส่งรถถังขึ้นพื้นที่ช่องกร่าง ห่างจากปราสาทตาควายประมาณ 2 กม.
ปราสาทตาเมือนธม: กัมพูชาปรับขบวนเข้าตีจากทิศตะวันออกตลอดทั้งวัน ฝ่ายไทยจึงถอยร่นและใช้ปืนใหญ่โต้กลับ จนกัมพูชาต้องถอนกำลัง
เหตุการณ์สำคัญ: วันที่ 27 ก.ค. 68 เวลา 06.30 น. กัมพูชายิงจรวดจากสนามบินกรุงสำโรง 4 นัด ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนไทยเสียหาย 2 หลัง และสัตว์เลี้ยงตาย 5 ตัว
ฝ่ายไทยสามารถควบคุมพื้นที่ ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ได้ตามแนวเส้นปฏิบัติการ 1:50,000 ขณะที่ฝ่ายกัมพูชายังพยายามรุกในหลายจุด เช่น ช่องตาเฒ่าเขาพระวิหาร ภูมะเขือ ช่องจอม ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือน
การปฏิบัติของฝ่ายกัมพูชานั้น ใช้อาวุธอย่างไม่มีรูปแบบ ไม่เป็นไปตามกฎการปะทะ และส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์
ส่วนสถานการณ์ยังคงตึงเครียดอย่างสูง และคาดว่ากัมพูชาอาจเตรียมปฏิบัติการครั้งใหญ่ก่อนเข้าสู่การเจรจา
เหตุสลดล่าสุด: กัมพูชายิงจรวด BM-21 ตกในพื้นที่ ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นเหตุให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีก 1 ราย โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำตัวส่ง รพ.ศรีสะเกษ เพื่อเข้ารับการรักษาแล้ว
สรุปสถานการณ์ผู้ได้รับผลกระทบ (ณ วันที่ 27 ก.ค. 2568)
1. พลเรือน
เสียชีวิต: 14 ราย
บาดเจ็บสาหัส: 12 ราย
บาดเจ็บปานกลาง: 12 ราย
บาดเจ็บเล็กน้อย: 13 ราย
รวมทั้งสิ้น: 51 ราย
2. ทหาร
เสียชีวิต: 8 นาย
บาดเจ็บ: 103 นาย
รวมทั้งสิ้น: 111 นาย
-การอพยพประชาชน มีการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงเข้าสู่ศูนย์พักพิงใน 7 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 139,646 คน (เพิ่มขึ้น 3,720 คน) ดังนี้:
อุบลราชธานี: 16,816 คน
ศรีสะเกษ: 62,691 คน
สุรินทร์: 39,104 คน
บุรีรัมย์: 10,755 คน
สระแก้ว: 4,076 คน
จันทบุรี: 450 คน
ตราด: 5,754 คน
ภารกิจช่วยเหลือประชาชน
โดย จิตอาสาพระราชทานใน 4 จังหวัดหลัก รวม:
• จิตอาสา 904: 147 นาย
• จิตอาสาประชาชน: 2,480 คน
• รด.จิตอาสา: 220 นาย
โรงครัวพระราชทาน 7 แห่ง และรถครัว 9 คัน ผลิตข้าวกล่องแจกจ่ายรวม 125,100 กล่อง (วันที่ 24–26 ก.ค.)
กองทัพไทยขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับผลกระทบจากการที่ฝ่ายกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยของไทย และขอประณามการใช้อาวุธโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมาย อันเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐาน
ขอความร่วมมือประชาชนและสื่อมวลชน งดเผยแพร่ภาพผู้เสียชีวิตของฝ่ายตรงข้าม และงดเปิดเผยข้อมูลทางทหาร เพื่อความมั่นคงของชาติร่วมกัน
กองทัพไทยขอยืนยันว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งและเสียสละ เพื่อ ปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชนชาวไทย อย่างถึงที่สุด