Authority & Harm
ชาวบ้านอ.บางเลนไม่ทนรวมเงินร่วมแรง ซื้อดินถมถนนก่อนจะมีคนตายในพื้นที่

นครปฐม-ชาวบ้านในตำบลนราภิรมย์ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐมไม่ทนการช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐหลังจากเรียกร้องและร้องเรียนไปแล้วกว่าสี่ปีเรื่องถนนถล่มทำให้ไม่สามารถสัญจรไปมาได้หน่วยงานรัฐมาประชุมเพียงรับปากว่าจะช่วยแต่ถึงตอนนี้เวลาผ่านไปหลังประชุมร่วมกันหลายฝ่ายก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าตัดสินใจรวมตัวรวมเงินซื้อดินมาถมในจุดอันตรายก่อนที่จะมีคนมาเสียชีวิต ในพื้นที่
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณ ซอยพระมอซอย 1 ตำบลนราภิรมย์ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม นายจตุพล สังวรศิลป์ อายุ 45 ปี ประธานประธานชุมชนสวนเกษตรโชคอนันต์ พร้อมด้วยนายมนัส รองประธานฯ และนางสุภาณี ลือคำหาญ อายุ 45 ปี ชาวบ้านผู้อยู่อาศัยในชุมชนซอย 4 และชาวบ้านในที่ได้รับความเดือดร้อนได้มีการรวมตัวกันและเรี่ยรายระดมเงินทุนกันเองเพื่อซื้อดินมาถมจุดสามเหลี่ยมจุดที่ถนนมีการทรุดตัวเพื่อที่จะได้ให้การเดินทางสัญจรผ่านไปมาได้เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากในการเดินทางสัญจร
โดยในวันนี้ได้จ้างรถบรรทุกดินมาถมซ่อมถนนเนื่องจากเกิดดินสไลด์ทำให้ถนนถล่มมีความยาวกว่า 800 เมตร และมีชาวบ้านเดือดร้อนไม่น้อยกว่า 200 ครัวเรือนที่ไม่สัญจรไปได้ ขณะที่หลายคนท้อใจเพราะเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมาได้มีการประชุมหารือกันระหว่างหน่วยงานรัฐ ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัดนครปฐม องค์การบริหารส่วนตำบลนราภิรมย์ กรมโยธิการ และฝ่ายปกครองอำเภอบางเลน เพื่อหาทางออก ซึ่งก่อนหน้าได้ฟ้องร้องไปยังผู้ประกอบการขุดดินที่ทำให้ถนนพังยาวนานถึง 4 ปีแต่ยังไม่มีความคืบหน้า โดยได้ขอวอนผ่านสื่อไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมและผู้มีอำนาจเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากรวมถึงหน่วยงานภาครัฐให้ลงมาดู แลและแก้ไขปัญหาอย่าง เบื้องต้นมติที่ประชุมลงความเห็นให้มีการสร้างทางเบี่ยงโดยเร่งด่วนแต่ชาวบ้านบอกว่ายังไม่เชื่อใจหน่วยงานเพราะเข็ดกับการถูกหลอกมาหลายครั้ง มาถึงวันนี้ยังไม่ได้รับการแก้ จึงต้องระดมทุนรับบริจาคแต่ละครอบครัวเพื่อจะต้องชื้อดินคันละ 2,200 บาทมาถมเพื่อเบี่ยงทางให้ระสัญจรเข้าออกได้ คาดว่าประมาณ 8 คันส่วนอีกฝั่งมีเพียงเชือกกันเอาไว้เท่านั้น
นายจตุพร สังวรศิลป์ อายุ 45 ปี ประธานชุมชนสวนเกษตรโชคอนันต์ ซอยพระมอซอย 1 บอกว่าการเกิดเหตุดินสไลด์ทำให้ถนนเสียหายน่าจะไม่ได้เรียกว่าเป็นการยุบตัวแต่เป็นความเสียหายแบบถนนถล่มลงไปที่มีความลึกมาก ซึ่งเคยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหนึ่งถึงสองครั้ง รวมถึงถนนเองก็ทรุดลงไปหลายครั้ง โดยชาวบ้านได้แจ้งไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลนราภิรมย์หลายครั้งและก็ได้รับการประสานงานจากผู้นำชุมชนกำนันผู้ใหญ่บ้านไปในทิศทางเดียวกันว่าไม่มีงบประมาณในการจัดซ่อมและจัดสร้าง ซึ่งทราบเรื่องว่าได้มีการฟ้องร้องไป 4 ปี แต่เหมือนทราบเรื่องว่าจะติดอยู่ที่การถูกตีกลับมาตลอดหรือติดด้วยเหตุใดทางด้านกระบวนการทางกฎหมายก็ไม่ทราบ ซึ่งชาวบ้านก็ไม่ดำเนินการหรือไปร้องเรียนที่เนื่องจากไปร้องเรียนมาจนหมดเกือบทุกแห่งแล้ว โดยคำตอบที่ได้รับก็คือเป็นคำพูดที่สวยหรูว่าจะไม่ทอดทิ้งและจะเข้ามาดูแลเป็นอย่างดีจนกระทั่งถึงจุดที่ชาวบ้านเดือดร้อนจริงๆเนื่องจากไม่มีการช่วยเหลือใดใดเข้ามาเลยจึงต้องวอนผ่านสื่อว่าจะร้องผ่านไปยังหน่วยงานใดที่แน่ชัดซึ่งเป็นแม่งานในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
นางสุภาณี ลือคำหาญ อายุ 45 ปี ชาวบ้านผู้อยู่อาศัยในชุมชนซอย 4 บอกว่าอยากจะถามสื่อว่าตอนนี้จะให้ไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานใดเพราะเราก็ไม่รู้ว่าจะไปร้องที่ไหนแล้วโดยชาวบ้านที่มีการร้องเรียนและลงชื่อไปมีประมาณ 50 รายชื่อแต่ในความเป็นจริงมีความเดือดร้อนอยู่ไม่น้อยกว่า 148 ครัวเรือน ชาวบ้านหลายคนได้หนีย้ายออกจากพื้นที่ไปเนื่องจากเข้าบ้านไม่ได้เพราะถนนมีความทรุดโทรม ที่ผ่านมาเราเคยประสบเหตุว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้และมีการแจ้งให้มีเจ้าหน้าที่มาดับเพลิงซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มาแล้วแต่ไม่สามารถนำรถวิ่งเข้ามาในเส้นทางได้ทำให้บ้านหลังดังกล่าวเกิดภัยลุกไหม้วอดวายไปทั้งหลัง แล้วอย่างนี้เราจะสอบถามใครหรือจะช่วยให้ใครมาแก้ปัญหาให้กับทางเราได้ จึงได้ปรากฏคลิปมีชาวบ้านรวมตัวตะโกนขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพราะพวกเราเดือดร้อนจริงและวันนี้สุดที่ชาวบ้านจะทนแล้วจึงได้ช่วยทั้งเงินทั้งแรงออกมาทำให้มันใช้ได้ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตกับคนในบ้านและชุมชนของเรา