In News

อึ้ง!นายกอบต.คิดต่างไม่เอาศูนย์พักคอย ให้ผู้ป่วยรักษาบ้านใครบ้านมัน



กาฬสินธุ์-ชาวบ้านอัดคลิปนายกอบต.สหัสขันธ์ อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ พูดกลางเวทีประชาคมไม่เอาศูนย์พักคอย ระบุแบกรับภาระหนักเกินเหตุ สุดอึ้งบอกให้ไปรักษาบ้านใครบ้านมันและหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นอย่ามาโทษตน แต่สุดท้ายชาวบ้านยอมรับให้ตั้ง เพราะสงสารลูกหลานคนกาฬสินธุ์ที่เดินทางกลับภูมิลำเนามารักษาตัว ขณะที่นายอำเภอสหัสขันธ์ พร้อมทีมแพทย์เร่งทำความเข้าใจเหตุตั้งศูนย์พักคอย เนื่องจากโรงพยาบาลสนามเต็ม ขอให้ประชาชนเอื้อเฟื้อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ที่บริเวณหน้า อบต.สหัสขันธ์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์  นางสาวแววตา  นระทัด  นายอำเภอสหัสขันธ์  นายแพทย์คมกฤษ วิเศษ  ผอ.รพ.สหัสขันธ์  นายอุระ  อารีเอื้อ กำนัน ต.สหัสขันธ์  ได้เข้าชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนบ้านคำลือชา หมู่ที่ 1 ต.สหัสขันธ์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์  หลังทาง อบต.สหัสขันธ์ ได้ทำหนังสือออกเชิญประชาชนในพื้นที่มาร่วมให้ความเห็นประชาพิจารณ์ กรณีจะมีการปรับสถานที่ Local Qaurantine หรือศูนย์กักกัน ซึ่งปัจจุบันใช้บริเวณโรงเรียนบ้านคำลือชา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ยุบและไม่ได้ใช้งานแล้ว เป็นศูนย์พักคอย เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ อ.สหัสขันธ์ที่เดินทางมาขอรักษาตัวในภูมิลำเนารอเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

โดยเวทีประชาคมครั้งนี้มีประชาชนเดินทางมาร่วมรับฟัง และร่วมลงความเห็นประมาณ 30 คน  ก่อนที่นายอัครเดช ภูตรี นายก อบต.สหัสขันธ์ ได้ขึ้นพูดเป็นคนแรก ซึ่งระหว่างที่พูดในเวทีประชาคมนั้น มีชาวบ้านอัดคลิปวีดีโอไว้ โดยมีข้อความบางช่วงบางตอน ระบุว่าในลักษณะว่า  หลักการของตนนั้นเห็นว่าหากคนป่วยอยู่บ้านไหน ก็ให้เอาไปไว้บ้านนั้น หากทางโรงพยาบาลไม่รับ ซึ่งหากจะให้ตนแบกรับภาระมันหนักเกินเหตุ ความเดือนร้อนของประชาชนต่างๆ ตนไม่สามารถรับได้ ตนมาจากประชาชนเลือกเข้ามาเป็นนายกอบต.ไม่ได้เกษียณเหมือนกำนันผู้ใหญ่บ้าน อยู่ในตำแหน่ง 4 ปี หากปฏิบัติตนไม่ดี ไม่รักษาประโยชน์ต่อไปประชาชนก็ไม่เลือก ตนเป็นคนพูดตรงไปตรงมา เพราะฉะนั้นวันนี้ในใจของตนนั้น ไม่รับ ไม่เอาศูนย์พักคอย ให้เอาไปรักษาบ้านใครบ้านมันซะ นี่คือแนวคิดของตนที่พูดในฐานะประชาชน แต่หากชาวบ้านจะยอมรับให้มีการจัดตั้งตนก็ไม่ว่า แต่จะต้องรับผิดชอบตนเอง สิ่งที่ตนพูดนั้นเป็นการแสดงสิทธิ์เสรีภาพของตนเอง เพราะตนเป็นคนบ้านลำลือชาพอได้ทราบข่าวเรื่องนี้ มีชาวบ้านไปหาที่บ้านบอกว่าอย่าให้ตั้งนะ ถ้าเอาแล้วจะไม่ยอม แล้วจะให้ตนออกมาตั้งได้อย่างไร และสิ่งที่ตนทำคือการปกป้องพี่น้องประชาชนของผม ซึ่งสมมุติว่าหากมีชาวบ้านป่วยก็ให้เอาไปไว้บ้านใครบ้านมันซะ และดูแลรักษาเอา เพราะเท่าที่สอบถามหมอ ทราบว่าจุดนี้ก็ไม่มีหมอมาดูแล

ซึ่งหากมีหมอมาดูแลรักษา ตนจะไม่ว่าเลย ซึ่งจะเอาผู้ป่วยมาให้พี่น้องผมแบกรับมันก็เกินไป เพราะฉะนั้นทุกคนต้องใช้สิทธิเต็มที่ แต่หากถึงวันที่เกิดเรื่องห้ามไม่ให้โทษผม
อย่างไรก็ตามในส่วนของทางราชการ คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อระดับอำเภอ นำโดย น.ส.แววตา นระทัด นายอำเภอสหัสขันธ์  และนพ.คมกฤษ  วิเศษ  ผอ.รพ.สหัสขันธ์ และนายอุระ  อารีเอื้อ กำนัน ต.สหัสขันธ์ ได้ชี้แจงถึงลักษณะของศูนย์พักคอยให้ประชาชนรับทราบ ซึ่งทาง รพ.สหัสขันธ์ จะเป็นผู้เข้าไปบริหารจัดการพื้นที่ทั้งหมด โดยผู้ที่มีผลตรวจมาแล้วหรือแรบบิดเทส จะมาอยู่จุดนี้ เพื่อรอผลยืนยันจากการ Swob ส่วนโรงเรียนบ้านคำลือชา ก็เป็นโรงเรียนที่ยุบและไม่ได้ใช้งานแล้ว  และทาง อบต.สหัสขันธ์  ก็ใช้เป็นจุด Local Quarantine อยู่แล้ว  โดยปัจจุบัน มี Local  Quarantine ของ ต.โนนบุรี ปรับเปลี่ยนเป็น ศูนย์พักคอยศูนย์พักคอยกลางแล้ว 1 แห่ง อยากขอให้ประชาชนเอื้อเฟื้อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

โดยนายอำเภอสัสขันธ์  ระบุว่า สำหรับพื้นที่ อ.สหัสขันธ์ ได้จัดตั้ง รพ.สนามแล้ว 1 แห่ง 50 เตียงรักษา ศูนย์พักคอยกลาง ของอ.สหัสขันธ์ 30 เตียง ที่เริ่มเปิดรับคนไข้ป่วยโควิดเข้ารับการรักษาตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้เตียงเต็มทั้งหมด ทางคณะกรรมการจึงจะขยายเตียงรักษาโดยปรับศูนย์พักคอยเป็น รพ.สนาม  และจะหาศูนย์พักคอยแห่งใหม่  เบื้องต้นจะใช้พื้นที่ ของโรงเรียนบ้านคำลือชา ต.สหัสขันธ์  และได้หารือไปทางผู้นำชุมชน ที่แจ้งว่ามีความพร้อมและยินดี แต่เมื่อโทรหาผู้บริหาร ยังมีข้อข้องใจและติดขัด และขอทำประชาคม  และผลประชาคมชุมชนก็ยอมรับ แต่สุดท้าย นายก อบต. ก็ไม่ยินยอมเหมือนเดิม

อย่างไรก็ตามหลังมีชาวบ้านได้ยินคำพูดของนายกอบต.สหัสขันธ์ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก และมติเวทีประชาคมชาวบ้านส่วนใหญ่มีความเข้าใจ และเห็นด้วยกับการตั้งศูนย์พักคอย  เนื่องจากเล็งเห็นว่าลูกหลานตัวเองจะได้กลับมารับการรักษาที่ภูมิลำเนาดีมากกว่าจะเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 และไม่ได้รักษา ในเขต กทม. และปริมณฑล ซึ่งในช่วงวิกฤตินี้ทุกคนจะต้องเห็นใจและช่วยเหลือกันและกัน