In News
พายุหมุนพัดถล่มบางคล้า5หมู่บ้านพังยับ บ้านเรือนต้นไม้ล้มทับเจ็บ3
ฉะเชิงเทรา-พายุหมุนพัดถล่ม อ.บางคล้า แปดริ้ว กระแสลมม้วนพาดผ่านผ่ากลางตำบลปากน้ำเต็มแรง หอบบ้านเรือนต้นไม้ปลิวว่อนไปตกไกลถึงเกือบ 1 กม. พังเสียหายยับเยินถึง 5 หมู่บ้าน ขณะ ปชช. ถูกบ้านเรือนล้มทับเจ็บ 2 ราย ผู้ใช้เส้นทางถูกลมพัดยานพาหนะล้มเจ็บ 1 คนโชคดีไม่มีใครเสียชีวิต ขณะสาวเสี่ยงสูงโควิด 19 นอนกักตัวอยู่ในบ้านพัก ยังถูกพายุเล่นงานพัดจนบ้านพังเสียหายไร้ที่พักพิง
วันที่ 25 ก.ค.64 เวลา 16.16 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดเหตุลมพายุหมุนพัดถล่มในพื้นที่ ต.ปากน้ำ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา จนทำให้มีบ้านเรือนของชาวบ้านพังเสียหายอย่างยับเยินในหลายหมู่บ้าน ทั้ง ม.6 ม.7 ม.10 ม.11 และ ม.12 ต.ปากน้ำ โดยมีแนวของกระแสลมที่พัดผ่านเป็นทางยาวหลาย กม.ในรัศมีกว้างประมาณ 1 กม. จนทำให้มีบ้านเรือนถูกหอบหลังคาปลิวหายไปจำนวนกว่า 30 ครัวเรือน และมีอีกหลายหลังคาเรือนบ้านยุบตัวถล่มลงมาหมดเกลี้ยงทั้งหลัง
อีกทั้งกระแสลมหมุนยังได้หอบยอดต้นไม้จำนวนมากปลิวลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าไปตกไกลจากโคนต้นถึงเกือบ 1 กม. และยังมีแนวเสาไฟฟ้าต้นไม้ล้มระนาวตามรายทาง บนเส้นทางสาย ปากน้ำ-วัดมงคลเทพ รวมระยะทางประมาณกว่า 1 กม. โดยในขณะเกิดเหตุได้มีประชาชนถูกบ้านเรือนพังถล่มลงมาทับ 1 รายติดอยู่ภายใต้ซากของตัวบ้าน ซึ่งปลูกสร้างด้วยไม้ และได้โทรศัพท์ออกมาร้องขอความช่วยเหลือจากหน่อยงานที่เกี่ยวข้อง
ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลปากน้ำ และหน่วยกู้ภัยฯ ในพื้นที่เข้าไปให้การช่วยเหลือจนออกมาได้สำเร็จ โดยพบว่ามีอาการบาดเจ็บที่บริเวณข้อเท้าซ้าย เนื่องจากถูกคานไม้ของตัวบ้านทับขาเอาไว้ ทราบชื่อต่อมา คือ ส.อ.อดิศร ชม้ายกลาง อายุ 32 ปี ทหารสังกัด สส.ทบ. รพ.พระมงกุฎเกล้า ซึ่งกลับมาดูแลบ้านพักและผู้เป็นมารดาอยู่ที่บ้านในขณะเกิดเหตุ ในพื้นที่ ม.6
ขณะชาวบ้านอีกราย คือ นางวิไล ก้านแก้ว อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/3 ม.6 ต.ปากน้ำ บ้านเรือนได้ถูกลมพายุพัดหอบหลังคาปลิวหายไปทั้งหลัง ก่อนที่จะถูกตู้ไม้ภายในบ้าน ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ของตัวบ้านล้มลงมาทับจนได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ มีบาดแผลลักษณะปูดบวมไปเกือบครึ่งใบหน้า นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านอีกรายเป็นหญิงวัย 50 ปีเศษ ได้ถูกยอดมะม่วงปลิวมาตามกระแสลม และตกลงมาใส่ในขณะที่กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนเส้นทางระหว่างหมู่บ้านในพื้นที่ ม.6 จนตัวรถเสียหลักล้มลงได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลถลอกฟกช้ำตามร่างกาย
ขณะเดียวกันยังมีรายงานอีกด้วยว่า จากเหตุวาตภัยพายุหมุนหรือพายุงวงช้างพัดถล่ม 5 หมู่บ้านใน ต.ปากน้ำ ครั้งนี้ ยังได้มีชาวบ้านซึ่งเป็นหญิงวัย 30 ปีเศษ ทำงานอยู่ในโรงชำแหละสุกรในพื้นที่ ต.หัวไทร อ.บางคล้า ซึ่งเป็นผู้มีความเสี่ยงสูงและต้องกักตัวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อยู่ภายในบ้านพัก ในพื้นที่ ม.7 ต.ปากน้ำ ยังได้ถูกลมพายุพัดจนบ้านพังเสียหายทำให้ไม่มีสถานที่กักตัวอีกต่อไปด้วย
สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา