In News

ญาติเชื่อ!!คุณยายวัย75ตายเพราะฉีดAZ ลูกอีก6คนขยาดฉีดวัคซีนโควิด



นครราชสีมา-พี่สาวคนโตยายวัย 75 ปีฉีดวัคซีนแอสตร้าซินิก้าเสียชีวิตเชื่อแม่เสียชีวิตเพราะวัคซีนยันลูกอีก 6 คนไม่ฉีดหวั่นเสียชีวิตเร่งหน่วยงานตรวจสอบและเยียวยา

วันที่ 25 กรกฎาคม 2564 นางดวงเดือน บินนอก อายุ 56 ปี พร้อมลูกหลานของผู้ที่เสียชีวิตปริศนาหลังจากไปฉีดวัคซีนแอสตร้าซินิก้าได้เพียงแค่ 3 วันเดียวกลับบ้านมามีอาการไม่ดี จนต้องหามเข้าโรงพยาบาลปรากฏว่ายายช็อคเสียชีวิตจนกระทั่งทางโรงพยาบาลนำผลชัณสูตรมาพบว่าเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ทำให้ทางญาติยังติดใจการเสียชีวิตอยู่ว่าอาจเสียชีวิตเพราะฉีดวัคซีนกันไวรัสโควิด 19 นี้ไป เพราะที่ผ่านมาทางคุณยายมีสุขภาพแข็งแรงและไม่มีโรคประจำตัว โดยงานศพได้จัดขึ้นที่บ้านหนองน้ำใส หมู่ 9 ตำบลหนองน้ำใส อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ทามกลางความสงสัยและติดใจการเสียชีวิตของคุณยายว่าเสียชีวิตได้อย่างไร 

โดยนางดวงเดือน บินนอก อายุ 56 ปี ลูกสาวคนโตของผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า คุณยายชื่อนางทองเพียร พุกพิลา อายุ 75 ปีเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยผลชัณสูตรศพทางแพทย์แจ้งว่าคุณแม่มีภาวะเส้นเลือดในสมองตีบจนทำให้เสียชีวิต จนทำให้ตนสงสัยว่าการเสียชีวิตของแม่ตนเองนั้นอาจเกิดจากวัคซีนที่แม่ไปฉีดมา ซึ่งวันที่แม่ฉีดวัคซีนคือวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 โดยเดินทาไปฉีดที่หอประชุมมูลนิธิพรหมธรรมสีคิ้ว เพื่อรอฉีดวัคซีนยี่ห้อแอสตร้าซินิก้า จนกระทั่งคุณแม่ฉีดเสร็จเริ่มมีอาการยายเริ่มมีอาการคอแห้ง เหนื่อยอ่อนเพลีย จึงได้นอนเร็วต่อมาเริ่มมีอาการไม่ตอบสนองจึงได้โทรเรียก 1669 เพื่อนำส่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จนกระทั่งไปพักรักษาตัว 3 วัน

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 22 ที่คุณแม่เสียชีวิต ทางครอบครัวก็ได้โทรไปสอบถามอาการของแม่ปรากฏว่าแม่อยู่ห้องฉุกเฉินมีภาวะหัวใจหยุดเต้น ในเวลา 12.00 น.ต่อมาทางแพทย์จึงแจ้งว่าคุณแม่เสียชีวิตแล้ว ทั้งนี้ตนก็มองว่าน่าจะเป็นผลจากวัคซีนอย่างแน่นอนเพราะที่ผ่านมาคุณแม่แข็งแรงและไม่มีโรคประจำตัวด้วย จนกระทั่งไปฉีดวัคซีนจึงมีอาการแบบนี้และเสียชีวิต ส่วนโรงพยาบาลสีคิ้วได้มาเยี่ยมและให้กำลังใจและพูดเพียงว่าจะนำเรื่องดังกล่าวทำเรื่องขอเงินเยียวยาให้โดยใช้ระยะเวลา 1 เดือนแต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้จริงหรือไม่ ทั้งนี้จึงอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูและตรวจสอบหน่อย เพราะตอนนี้ทางญาติติดใจอย่างมากในการเสียชีวิตของแม่ตนเอง 

ณัฐพงศ์ อรชร/ข่าวนครราชสีมา