Biz news
'ไปรษณีย์ไทย'คว้าสุดยอดสินค้าฯแห่งปี จากเวทีนิตยสารBusiness+

กรุงเทพฯ 25 กันยายน 2568 – บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ตอกย้ำความแข็งแกร่งด้านขนส่งและโลจิสติกส์ ด้วยการคว้ารางวัล “สุดยอดสินค้าและบริการแห่งปี Business+ Product of The Year Awards 2025” ประเภทการขนส่งและโลจิสติกส์ จากนิตยสาร Business+ ในเครือบริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ครอบคลุมสินค้าและบริการ 9 หมวดหมู่ โดยไปรษณีย์ไทยสามารถคว้ารางวัลในสาขาการขนส่งและโลจิสติกส์นี้นับเป็นปีที่ 2 หลังจากได้รับรางวัลในปี 2567 สะท้อนมาตรฐานและนวัตกรรมบริการที่ตอบโจทย์ทั้งสังคมไทยและทิศทางเศรษฐกิจยุคดิจิทัล
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภาคโลจิสติกส์ยังเป็นหนึ่งในเสาหลักสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ในปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขยายตัวของอีคอมเมิร์ซ ซึ่งคาดว่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทยปีนี้จะมีมูลค่าประมาณ 1.07 ล้านล้านบาท มาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใช้ช่องทางออนไลน์มากขึ้น ร่วมกับการพัฒนาเทคโนโลยีและบริการด้านโลจิสติกส์ที่ปลอดภัยและสะดวกยิ่งขึ้น ไปรษณีย์ไทยจึงมุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมการจัดส่งและการเชื่อมต่อระหว่างผู้บริโภค ธุรกิจ และชุมชนให้ไร้รอยต่อ เพื่อรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากยุคดิจิทัล พร้อมย้ำถึงบทบาทองค์กรที่ไม่เพียงเป็นผู้ให้บริการขนส่ง แต่ยังเป็นผู้ผลักดันให้ระบบโลจิสติกส์ของประเทศแข็งแกร่งและครอบคลุมทุกมิติ
“จากการพัฒนาหลากโซลูชันเพื่อให้บริการกับหลายภาคส่วน ล่าสุดไปรษณีย์ไทยได้คว้ารางวัล “สุดยอดสินค้าและบริการแห่งปี” จากเวที “BUSINESS+ Product of The Year Awards 2025” ที่ครอบคลุมสินค้าและบริการ 9 หมวดหมู่ ซึ่งไปรษณีย์ไทยมีความโดดเด่นและได้รับรางวัลในกลุ่มอุตสาหกรรมประเภท “การขนส่งและโลจิสติกส์” นับเป็นองค์กรที่สามารถสร้างมาตรฐานและนวัตกรรมตอบโจทย์สังคมและเศรษฐกิจไทยที่สะท้อนทั้งความไว้วางใจจากผู้บริโภค”
โดยรางวัล Business+ Product of The Year Awards 2025 ที่ไปรษณีย์ไทยได้รับในครั้งนี้ สะท้อนการดำเนินงานภายใต้แนวคิด “POSTsible Together เป็นไปรฯได้ ไปรฯด้วยกัน” ที่มุ่งสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ ทั้งในด้านการจดจำและประสบการณ์ใหม่ที่ครอบคลุมสินค้า บริการ และไลฟ์สไตล์ เชื่อมโยงธุรกิจ ชุมชน และผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ตั้งแต่การให้บริการขนส่งพัสดุรายย่อย ไปจนถึงระบบ Fulfillment แบบครบวงจรด้วยกลยุทธ์ Parcel Defined Logistics ซึ่งออกแบบบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะกลุ่ม อาทิ EMS ส่งด่วนผลไม้สำหรับผลไม้สด EMS Jumbo สำหรับสินค้าขนาดใหญ่รวมถึงบริการส่งต้นไม้ ผลผลิตทางการเกษตร และสัตว์น้ำ โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ไปรษณีย์ไทยยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ผ่านการพัฒนาระบบ Digital Post ID ควบคู่กับการประยุกต์ใช้ Big Data และ AI เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกง และยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการ ขณะเดียวกันยังเดินหน้าจัดทำ Super App ที่รวบรวมบริการขนส่ง การเงิน และอีคอมเมิร์ซไว้ในแพลตฟอร์มเดียว เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อให้แก่ผู้บริโภค
ด้านความยั่งยืน ไปรษณีย์ไทยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการ Green Logistics การใช้รถ EV สำหรับจัดส่ง การรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ผ่านโครงการ “reBOX” และการบริหารจัดการเพื่อลดคาร์บอนฟุตพรินต์ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมาย ESG+E และแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ
ดร.ดนันท์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การได้รับรางวัลครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนความสำเร็จของไปรษณีย์ไทยในปัจจุบัน แต่ยังเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญสู่อนาคตที่เต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทาย โดยไปรษณีย์ไทยจะเดินหน้าสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัล เสริมศักยภาพผู้ประกอบการทุกระดับ และพัฒนาระบบโลจิสติกส์ให้ได้มาตรฐานสากล ควบคู่กับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อยืนหยัดในฐานะ “องค์กรที่คนไทยไว้วางใจ” และก้าวสู่บทบาทกำลังหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนบนเวทีโลก