In News
นายกฯอนุทินแถลงนโยบายชูแก้ไข5ด้าน ลั่นดาลคาสิโน/ยึดกรอบข้อตกลงMOA

กรุงเทพฯ-นายกฯ “อนุทิน” ยืนยันรัฐบาล “ทำได้ ทำเป็น ทำดี” พร้อมร่วมงานกับทุกคนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและประชาชน ก่อนหน้านี้ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาพร้อมเดินหน้าแก้ไขปัญหาเร่งด่วน 5 ด้านแก้ไขปัญหาของประเทศ พร้อมวางรากฐานพัฒนาประเทศ อย่างยั่งยืนในทุกมิติ และก่อนเข้าแถลงนโยบายนายกฯอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์สื่อฯย้ำรัฐบาลพร้อมดูแล ปชช. ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชากองทัพมีอำนาจเต็มในการรักษาอธิปไตยของชาติ
วันนี้ (29 กันยายน 2568) เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชั้น 2 อาคารรัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตอบคำถามถึงการทำงานของรัฐบาลที่ว่า “ทำได้ไหม ทำเป็นหรือเปล่า ทำดีหรือเปล่า” ยืนยันคำแถลงนโยบายรัฐบาล เป็นสิ่งที่ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วว่า “ทำได้เร็ว และต้องทำได้เลย” นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีที่ได้คัดสรรมา ล้วนแต่เป็นผู้มีประสบการณ์ในวิชาชีพทุกๆ ด้านที่มี แม้แต่ผู้ที่ไม่เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาก่อน ก็ได้ทำการตรวจสอบประวัติการทำงาน ประวัติศึกษา ยืนได้ว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน สามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและประชาชน
นายกรัฐมนตรียังยืนยันว่า ใช้เวลากว่า 10 ปีจนมาตำแหน่งนี้ ก็ต้องถือโอกาสนี้ทำดีที่สุด ให้เป็นเกียรติประวัติ เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศและประชาชน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่ รัฐบาลจะได้แสดงผลงาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ทำความเข้าใจกับรัฐมนตรีทุกคนแล้วว่า ไม่มีความกังวลใดๆ ไม่มีพรรค โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวให้ความเชื่อมั่นว่า ทุกคนในรัฐบาลคัดเลือกด้วยตัวเอง นอกจากคุณความดีที่แต่ละคนมี ความไว้เนื้อเชื่อใจจากประชาชน และผลงาน ความรู้ ประสบการณ์ รัฐบาลนี้เต็มไปด้วยบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ
“คณะรัฐมนตรีทุกคนจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อให้เป็นเกียรติประวัติและเกิดประโยชน์แก่บ้านเมือง ทั้งนี้ รัฐบาลชุดนี้จะไม่มีการแบ่งพรรค แบ่งพวก แต่จะทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน” นายกรัฐมนตรีกล่าว
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน ทุกนโยบายและการดำเนินการจะต้องเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายและระเบียบที่ถูกต้อง โดยรัฐบาลพร้อมเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายสามารถเข้ามาตรวจสอบได้อย่างตรงไปตรงมา สำหรับแนวทางการทำงานทางการเมืองของรัฐบาลนั้น รัฐบาลจะทำงานร่วมกับสมาชิกรัฐสภาทุกคน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและประชาชน พร้อมยืนยันว่ารัฐมนตรีทุกคนในรัฐบาลชุดนี้ทำงานโดยอิสระ ไม่อยู่ภายใต้การบงการจากใคร นอกจากนั้น ลักษณะของรัฐบาลปัจจุบัน นับว่าเป็น “รัฐบาลเฉพาะกิจ” ที่เข้ามาแก้ไขปัญหาและความเสียหายของประเทศ โดยมีกรอบเวลาที่ชัดเจนว่าจะยุบสภาตามข้อตกลง (MOA) เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน
“จากนี้ไปรัฐบาลนี้จะวางรากฐาน วางแนวทางแบบอย่างที่ดีในการที่จะเป็นรัฐบาลที่จะทำให้อนาคตของ ประชาธิปไตยมีความสดใส คิดเองและหารือกับ ครม. และรัฐสภา เพื่อทำประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน”
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า รัฐบาลชุดนี้ได้ยกเลิกการจัดตั้งคาสิโนและเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีการพนัน รวมถึงยกเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัล โดยมีจุดยืนชัดเจนว่าจะไม่ใช้การพนันเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และจะไม่ปล่อยให้ประชาชนถูกมอมเมาด้วยอบายมุข ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันกับแนวทางดังกล่าว อีกทั้ง รัฐบาลชุดนี้มุ่งผลักดันนโยบายที่เป็นทางออกของประเทศ เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ในตอนท้าย นายกฯ ยืนยันว่า รัฐบาล และ ครม. ทุกคนที่ต้องทำงานอย่างหนัก จะผลักดันทุกนโยบายให้เป็นทางออกของประเทศ “ผู้ชนะจะเห็นทางออกในทุกปัญหา”
นายกฯ“อนุทิน”แถลงนโยบายแก้ไขปัญหาเร่งด่วน5ด้าน
เวลา 09.35 น. ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชั้น 2 อาคารรัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาว่า หลักการบริหารราชการแผ่นดินและนโยบายสำคัญของรัฐบาล ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรียึดหลักการสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1. พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ 2. ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ 3. ยึดมั่นในหลักนิติธรรม การบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม และการบริหารราชการแผ่นดินบนพื้นฐานของธรรมาภิบาล เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลได้เข้าสู่การบริหารราชการแผ่นดินภายใต้สถานการณ์ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนรอบด้าน รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งดำเนินการแก้ปัญหาที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ขณะนี้ ควบคู่กับการต้องวางรากฐานของประเทศการขับเคลื่อนการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน การสร้างความมั่นคง ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่จำกัด และงบประมาณที่รัฐบาลนี้ไม่ได้เป็นผู้จัดทำ ทั้งยังเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย นอกจากนี้ รัฐบาลจะสนับสนุนการจัดทำประชามติและการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยรับฟังเสียงของพี่น้องประชาชน และสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน
ทั้งนี้ รัฐบาลได้กำหนดนโยบายสำคัญที่จะเป็นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประเทศ 5 ด้าน ดังนี้
- นโยบายด้านเศรษฐกิจ
1.สร้างรายได้ ลดรายจ่าย ให้กับพี่น้องประชาชนในการใช้ชีวิตประจำวัน
2.แก้ไขปัญหาหนี้สินและเพิ่มสภาพคล่อง บนพื้นฐานความเสี่ยงที่เป็นธรรม ระหว่างสถาบันการเงินและผู้กู้
3.เพิ่มโอกาสการออมของประชาชนรายย่อย
4.ฟื้นความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว โดยมุ่งเน้นการสร้างความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว การปราบปรามการฉ้อโกงและการหลอกลวงนักท่องเที่ยว การจัดทำมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2568
5.เร่งแก้ไขปัญหาผลกระทบจากสงครามการค้า โดยจัดตั้งทีมไทยแลนด์ ดูแลและสนับสนุนผู้ประกอบการ และสร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ทันสมัยและเอื้อต่อการแข่งขันในปัจจุบันและอนาคต
- นโยบายด้านความมั่นคง
6.เร่งแก้ไขปัญหากรณีพิพาทระหว่างไทยและกัมพูชาด้วยแนวทางสันติภาพ และจะดำเนินนโยบายต่างประเทศในเชิงรุกที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นใจ และสถานะของไทยในเวทีระหว่างประเทศ
7. เร่งแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คู่ขนานไปกับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน
- นโยบายด้านสังคม
8. ปราบปรามการพนันผิดกฎหมายทุกรูปแบบอย่างจริงจัง
9. รักษาหลักนิติธรรมอย่างเคร่งครัด
10. ขจัดทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างเด็ดขาดและจริงจัง
11. พิทักษ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น
- นโยบายด้านภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
12.เร่งติดตั้งเครื่องมือเตือนภัยและพัฒนาเครือข่ายการเตือนภัยพิบัติโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เยียวยาและฟื้นฟูให้ประชาชนผู้ประสบภัยโดยเร่งด่วน
13.ผลักดันสังคมคาร์บอนต่ำ ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด
- นโยบายด้านการบริหารภาครัฐ การปฏิรูปกฎหมาย
14.เร่งรัดการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล และเสนอร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับการบริหารภาครัฐให้ทันสมัย
15.เร่งรัดการปฏิรูปกฎหมาย กฎระเบียบ
รัฐบาลจะดำเนินการให้สอดคล้องกับหน้าที่ของรัฐ แนวนโยบายแห่งรัฐ และยุทธศาสตร์ชาติ โดยจะผลักดันการพัฒนาตามแนวนโยบายแห่งรัฐและยุทธศาสตร์ชาติทั้ง 6 ด้าน อย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลมุ่งมั่นที่จะบริหารราชการแผ่นดิน และขับเคลื่อนนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ควบคู่กับการริเริ่มวางรากฐานประเทศเพื่อนำพาประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยยึดประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้งและสร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินนโยบายการคลัง ให้น่าเชื่อถือ มีวินัย โปร่งใส มีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศโดยรวม ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังและการเสริมสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ โดยการดำเนินนโยบาย จะใช้จ่ายจากแหล่งเงินงบประมาณและเงินนอกงบประมาณ และจะใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด กำกับการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณ ให้มีประสิทธิภาพ และส่งเสริมบทบาทภาคเอกชนในการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพื่อส่งเสริมการลงทุนและลดภาระหนี้สาธารณะของประเทศในระยะยาว
นายกรัฐมนตรี จะดำเนินการทุกวิถีทางในการบริหารราชการแผ่นดิน ของรัฐบาลให้สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศ พร้อมกับการวางรากฐานในการพัฒนาประเทศ อย่างยั่งยืนในทุกมิติ เพื่อความอยู่ดีมีสุขของพี่น้องประชาชนชาวไทย
นายกฯ ย้ำรัฐบาลพร้อมดูแล ปชช.ชายแดนไทย-กัมพูชา
ก่อนเข้าแถลงนโยบายเวลา 08.30 น. ณ บริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ประเด็นการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดที่มีชายแดนติดกับชายแดนไทย – กัมพูชา
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพที่รับผิดชอบในพื้นที่แล้ว จะมีการเสริมกำลัง ทั้งฝ่ายตำรวจ และฝ่ายปกครองเข้าไปทำงานร่วมกับทหารในการดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เน้นความปลอดภัยเมื่อต้องอพยพประชาชน ทั้งนี้ ไม่ต้องวิตกกังวลใด ๆ รัฐบาลพร้อมดูแลคุณภาพชีวิต ทั้งอาหาร ที่นอน รวมถึงระบบอินเทอร์เน็ต ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามระเบียบข้อปฏิบัติของทางราชการ
“ไฟเขียวให้กองทัพมีอำนาจเต็มในการตัดสินใจเพื่อรักษาอธิปไตยอย่างเต็มที่ เนื่องจากฝ่ายกัมพูชายังมีการตอบโต้อยู่ ขอเป็นกำลังใจให้ทหารและพร้อมดูแลในด้านต่าง ๆ ให้สามารถพร้อมรบตลอดเวลา หากต้องการอะไรเพิ่มเติมขอให้แจ้งมายังนายกรัฐมนตรีได้เลย และเช้านี้มีความพร้อมเต็มที่ที่จะไปปฏิบัติหน้าที่ที่รัฐสภา” นายกรัฐมนตรีกล่าว