In News
สายด่วนแปดริ้วไม่ทิ้งกันได้ผลลูกจ้างปูด นายจ้างเมินร่วมมือสกัดโควิด
ฉะเชิงเทรา-สายด่วนแปดริ้วไม่ทิ้งกันได้ผล หลังลูกจ้างในโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง โทรปูดแจ้งเบาะแสกันระงม เหตุนายจ้างเมินร่วมมือตามมาตรการภาครัฐ แฉปล่อยละเลยการสกัดกั้นโควิด 19 ระบาดในสถานประกอบการ อ้างหวั่นถูกสั่งปิด พร้อมจัด จนท.ลงพื้นที่เข้มงวดบีบให้ทำตาม 4 มาตรการตามแผนเผชิญเหตุเร่งด่วน ก่อนงัดไม้แข็งเข้าจัดการเด็ดขาด
วันที่ 30 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา ได้กล่าวเปิดเผยใสระหว่างการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ฉะเชิงเทรา ในวันนี้ว่า ขณะนี้หมายเลขสายด่วน 038-512222 ที่ทาง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีการเปิดให้บริการประชาชนในรูปแบบคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 50 คู่สายมานานกว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้คำตอบไขข้อสงสัยจากประชาชนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่า “ทุกความทุกข์ของชาวแปดริ้วต้องมีคำตอบ” นั้น
ได้มีกลุ่มผู้ใช้แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม โทรศัพท์เข้ามาแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 ที่หละหลวมของสถานประกอบการเป็นส่วนใหญ่ยังหมายเลขคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าว โดยมีหลายแห่งมีการระบุว่านายจ้างพยายามปิดข่าวว่ามีคนงานติดเชื้อโควิด 19 เพราะเกรงว่าจะถูกสั่งปิดโรงงาน หลังได้รับแจ้งเบาะแส จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบว่าเป็นโรงงานแห่งใด
จากนั้นได้ให้นายอำเภอท้องที่ และสาธารณสุขอำเภอเข้าไปยังในโรงงานแห่งนั้นๆ ตามที่ได้รับแจ้ง เพื่อเข้าไปพูดคุยกับทางเจ้าของสถานประกอบการ และทำการตรวจเชิงรุก พร้อมกับเข้าไปทำการสั่งการ ขอให้ทางโรงงานจะต้องทำแผนเผชิญเหตุ 4 แผน ตามที่ทางคณะกรรมการโรงติดต่อ จ.ฉะเชิงเทรา กำหนด โดยเฉพาะแผนเผชิญเหตุเกี่ยวกับในกรณีหากพบผู้ติดเชื้อแล้วต้องมีศูนย์พักคอยภายในโรงงาน และมีศูนย์กักกันผู้มีความเสี่ยงสูง
โดยทางหน่วยงานในพื้นที่จะมีการส่ง จนท.แพทย์ เข้าไปช่วยในการทำงาน จึงอยากขอประชาสัมพันธ์ว่า ทางโรงงานอย่าพยายามปกปิดข่าว หรืออย่ากังวลว่าจะถูกปิดโรงงาน หากมีมาตรการในการทำตามแผน 4 แผนที่กำหนดไว้แล้ว และสามารถควบคุมคนงานได้ ไม่ให้มีการติดโรคโควิด 19 หรือหากติดเชื้อแล้วสามารถทำให้ไม่มีการแพร่ระบาดต่อไปได้ และมีการรักษาที่ถูกหลักทางสวาธารณสุข
จึงขอยืนยันว่าโรงงานจะไม่ถูกสั่งปิดแน่นอน เพราะอยากให้โรงงานอุตสาหกรรมและคนงาน รวมถึงทางราชการและชุมชนเดินไปด้วยกันได้ จึงต้องฝากขอความร่วมมือด้วย นายไมตรี กล่าว
และกล่าวต่ออีกว่า สำหรับตลาดสดบ่อบัว ที่ทางคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ฉะเชิงเทรา เพิ่งมีคำสั่งที่ 75/2564 ปิดไปในวันนี้เป็นเวลา 14 วันนั้น ทางราชการทราบดีว่าตลาดแห่งนี้เป็นตลาดใหญ่มาก และเป็นตลาดสดที่มีประชาชนเข้ามาจับจ่ายซื้อวัตถุดิบนำไปปรุงอาหาร จึงมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก จึงจะมีการประเมินในทุกๆ 3 วันว่าจะให้สามารถเปิดได้อย่างมีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง
ส่วนค่าเช่าแผงค้าของผู้ค้าขายนั้นทางจังหวัดได้ประสานไปยังเจ้าของตลาดแล้วว่า หากใครไม่เข้ามาขายของก็จะไม่เก็บค่าเช่า ส่วนผลกระทบต่อทางพ่อค้าแม่ค้านั้น ได้ให้ทางเทศบาลเมืองฉะเชิงเทราเป็นศูนย์รับเรื่องว่ามีผลกระทบในด้านใด ทางจังหวัดจะได้ทำการแก้ไขปัญหาในด้านนั้นให้ เนื่องจากเกรงว่าหากมีการปิดตลาดแบบยาวๆ ไปนั้น ชาว จ.ฉะเชิงเทรา ที่ต้องการวัตถุดิบที่จะนำไปประกอบอาหารในบ้านเรือนจะไปหาซื้อได้ที่ไหน จึงอาจจะต้องมีการจัดตั้งโซนบริสุทธิ์ขึ้นมา แต่อย่างไรก็ตามจะต้องฟังข้อมูลความเดือดร้อนจากทางพ่อค้าแม่ค้าดูก่อนว่าได้รับผลกระทบในด้านใดบ้าง นายไมตรี กล่าว
สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ตลอดระยะเวลากว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น มีการตรวจพบเฉลี่ยวันละ 400-500 ราย นับจากมีการล็อคดาวน์พื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และมีการตรวจหาเชื้อเชิงรุก จึงทำให้ในขณะนี้มีผู้ติดเชื้อจากการระบาดระลอกใหม่ 12,869 ราย เป็นผู้ป่วยในพื้นที่ 10,271 ราย ผู้ป่วยเข้ามาทำการรักษาจากภายนอกจังหวัด 828 ราย ผู้ป่วยในเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา 2,598 ราย มีผู้เสียชีวิต 60 ราย เสียชีวิตในเรือนจำ 2 ราย รวม 62 ราย
สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา