In Bangkok
กทม.รุกหนักควบคุมห้ามขาย'ใบกระท่อม' ใกล้โรงเรียน-ทางสาธารณะ
กรุงเทพฯ-กทม. เดินหน้าควบคุมห้ามขาย “ใบกระท่อม” ใกล้โรงเรียน–ทางสาธารณะ เร่งประสาน ป.ป.ส.–ตำรวจ บังคับใช้กฎหมาย
นางดวงพร ปิณจีเสคิกุล ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวถึงการขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า สนอ. ได้แจ้งประกาศกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง “กำหนดสถานที่ วิธีการ หรือลักษณะต้องห้ามในการขายใบกระท่อม พ.ศ. 2568” ให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขตทราบ พร้อมเตรียมความพร้อมสนับสนุนความร่วมมือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (สำนักงาน ป.ป.ส. กทม.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล และสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ในพื้นที่ เพื่อบังคับใช้กฎหมายกับร้านค้าที่ฝ่าฝืน โดยเฉพาะร้านที่ตั้งอยู่ในระยะ 1,000 เมตร (1 กิโลเมตร) จากสถานศึกษา และร้านเร่ขาย หรือตั้งแผงลอยในที่สาธารณะ โดย สนอ. ได้ร่วมประชุมชี้แจงแนวทางปฏิบัติตามประกาศดังกล่าว โดยมีสำนักงานเขต 50 เขตและศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง ร่วมประชุม เพื่อรับทราบแนวทางปฏิบัติและเตรียมพร้อมให้ความร่วมมือกับสำนักงาน ป.ป.ส. กทม. บังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงใบกระท่อมในพื้นที่
นอกจากนี้ สนอ. ได้สนับสนุนสำนักการศึกษาในการออกประกาศ กทม. เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 67 เรื่อง มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด กัญชา กัญชง กระท่อม บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอบายมุขในโรงเรียนสังกัด กทม. เพื่อให้โรงเรียนในสังกัด กทม. ดำเนินมาตรการเข้มงวด ทั้งการขอความร่วมมือร้านค้ารอบโรงเรียนไม่ให้จำหน่ายยาเสพติด กัญชา กัญชง กระท่อม บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอบายมุขต่าง ๆ และจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยของยาเสพติดในวันสำคัญต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องทั้งนี้ สนอ. ได้ดำเนินการมาตรการเฝ้าระวังโดยร่วมกับสำนักงานเขต 50 เขต สำรวจและแจ้งพิกัดร้านจำหน่ายพืชกระท่อมและน้ำกระท่อมในระบบรายงานข้อมูลยาเสพติด และลงพิกัดร้านในระบบ GIS ของ กทม. เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลสำหรับติดตาม ตรวจสอบ และประสานการบังคับใช้กฎหมาย โดยเปิดช่องทางให้ประชาชนแจ้งเบาะแสผ่านระบบ Traffy Fondue หรือสายด่วน 1555 หากพบการลักลอบจำหน่ายใบกระท่อมและน้ำต้มใบกระท่อมในพื้นที่ห้ามจำหน่าย โดยสำนักงานเขตพื้นที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงและแจ้งหลักฐาน เช่น พิกัด ภาพถ่ายร้าน ประสานสำนักงาน ปปส. กทม. หรือ สน. ในพื้นที่ เพื่อบังคับใช้กฎหมายต่อไป
สำหรับแนวทางบูรณาการตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพฯ สนอ. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล “No Drugs No Dealers” มุ่งขับเคลื่อนมาตรการปราบปราม ค้นหาผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด และฟื้นฟูอย่างรอบด้าน ภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” ขณะเดียวกันยังมีการเฝ้าระวังภัยยาเสพติดในชุมชน สถานศึกษา และสถานประกอบการ ผ่านความร่วมมือของชุมชนและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็ก เยาวชน และประชาชน ห่างไกลจากยาเสพติด ส่วนสถานศึกษาได้คัดกรองนักเรียนที่มีความเสี่ยงจากยาเสพติด ทั้งการเฝ้าระวังพฤติกรรมเสี่ยงภายในและนอกสถานศึกษา การประเมินโดยครูผู้สังเกตเห็นพฤติกรรมของนักเรียน รวมถึงการใช้แบบประเมินภูมิคุ้มกันยาและสารเสพติด หากพบนักเรียนที่มีความเสี่ยง จะประสานความร่วมมือกับผู้ปกครองและศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อติดตามและให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด สำหรับนักเรียนที่สงสัยว่าอาจเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะดำเนินการตรวจปัสสาวะโดยได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองผ่านข้อตกลงร่วมกันก่อนตรวจ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ ทักษะ และเสริมภูมิคุ้มกันยาเสพติดให้กับนักเรียน พร้อมบันทึกข้อมูลเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เพื่อใช้ประเมินและวางแผนการช่วยเหลือแบบรอบด้านผ่านแพลตฟอร์ม “เติมเต็ม”
ในส่วนสถานประกอบการ กทม. ได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานเขตและกระทรวงแรงงาน จัดกิจกรรมเสริมสร้างภูมิคุ้มกันยาและสารเสพติดให้กับพนักงาน เพื่อส่งเสริมให้เกิดสิ่งแวดล้อมปลอดยาเสพติดและสนับสนุนการดำเนินงานตามเกณฑ์มาตรฐานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการ (มยส.) และโครงการโรงงานสีขาว เพื่อยกระดับสถานประกอบการให้มีมาตรฐานปลอดภัยจากยาเสพติด ขณะที่ระดับชุมชน กทม. ส่งเสริมให้มีอาสาสมัครเฝ้าระวังภัยยาเสพติดกรุงเทพมหานคร และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานครเชี่ยวชาญยาเสพติดประจำทุกเขต เพื่อเฝ้าระวังและสร้างการรับรู้ให้ประชาชนเข้าใจและเท่าทันต่อสถานการณ์ปัญหายาเสพติด รวมถึงค้นหาผู้เสพ หรือผู้ติดยาเสพติดในพื้นที่ เพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา พร้อมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานของกองทุนแม่ของแผ่นดินให้เป็นกลไกหลักในการป้องกันปัญหายาเสพติดในระดับชุมชน อีกทั้ง กทม. ยังดำเนินการบำบัดฟื้นฟูผู้มีปัญหาการใช้ยาเสพติดในชุมชนโดยชุมชนเป็นศูนย์กลาง (Community Based Treatment and Care : CBTx) ในพื้นที่ทั้ง 50 เขต โดยร่วมมือกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดระบบช่วยเหลือที่เข้าถึงและต่อเนื่อง พร้อมจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างสังคมปลอดยาเสพติดในรูปแบบเคลื่อนที่ โดยใช้รถโมบายจัดกิจกรรมสร้างสุขและให้ความรู้ตามนโยบายรัฐบาล “No Drugs No Dealers” เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายชุมชนเข้มแข็งและปลอดภัยจากยาเสพติด และให้การสนับสนุนโครงการ TO BE NUMBER ONE อย่างต่อเนื่องในสถานศึกษา ชุมชน และสถานประกอบการ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็ก เยาวชน และประชาชนได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ตามความถนัดของตนเอง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจ และห่างไกลจากยาเสพติดอย่างยั่งยืน