In Thailand
แม่ครูหมอลำภูไทย'ดร.พรสวรรค์'แต่ง กลอนอาลัยตามรอยพระพันปีหลวง
กาฬสินธุ์-แม่ครูหมอลำชาวภูไทกาฬสินธุ์ แต่งกลอนลำอาลัยองค์พระพันปี ขณะที่นั่งรถไปตามรอยเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินครั้งทรง เสด็จเยี่ยมพสกนิกรในพื้นที่อำเภอคำม่วง และ ขับร้องด้นสดประกอบดนตรี กับกลุ่มชาวผู้ไทยบ้านโพนซึ่งเคยรับเสด็จพระองค์ท่านครั้งอดีต ด้วยเนื้อหากลอนลำ ทำนองลำผู้ไทย สุดอาลัยพระพันปีหลวง ที่ทรงส่งเสริมผ้าไหมแพรวาราชินีแห่งไหม ให้ชาวบ้านได้มีอยู่มีกินจนถึงปัจจุบันนี้
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ รายงานว่า หลังการเสด็จสู่สวรรค์คาลัยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จังหวัดกาฬสินธุ์หรือเมืองน้ำดำ ที่เป็นจังหวัดหนึ่งซึ่งพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเสด็จพระราชดำเนินในหลายอำเภอ โดยเฉพาะที่ อ.คำม่วง และทรงก่อตั้งศูนย์ส่งเสริมการท่อผ้าไหมแพรวาบ้านโพน มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ (เริ่มโครงการเมื่อ ปี พ.ศ.2521) ทำให้มีประชาชนที่สนใจติดตามพระราชกรณียกิจของ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พากันเดินทางไปย้อนรอยเพื่อรำลึกถึงพระองค์ท่าน เช่นเดียวกัน ดร.พรสวรรค์ พรดอนก่อ แม่ครูด้านหมอลำชาวผู้ไทยจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นอาจารย์ประจำวิทยาลัยนาฎศิลป์กาฬสินธุ์ ก็ได้พาครอบครัวไปย้อยรอยจนเกิดความทราบซึ้ง ปราบปลื้มปิติ จึงได้แต่งกลอนลำอาลัยองค์พระพันปีหลวง ร่วมกับกลุ่มสตรีชาวผู้ไทยบ้านโพนพร้อมใจกันยืนถือพระบรมฉายาลักษณ์ และขับร้องหมอลำ (กึ่งด้นสด) ที่กล่าวถึงความรู้สึกของพสกนิกรชาวผู้ไทยบ้านโพน ที่มีต่อพระองค์ท่าน

“กลอนลำนี้จึงมีความหมายที่ลึกซึ้งสุดจะพรรณาที่แทนความรู้สึกของชาวผู้ไทยบ้านโพนที่มีความอาลัยต่อองค์พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งพระองค์เป็นดั่งแม่ของแผ่นดิน เป็นผู้ที่นำเอาผืนผ้าแพรวาของชาวผู้ไทย จากผ้าแพรเบี่ยงที่มีความยาวแค่ 1 วามาพัฒนาจนกลายเป็น "ราชินีแห่งไหม" ในเนื้อหาเพลงยังแสดงออกถึงการที่พระพันปีหลวงทรงเมตตาต่อพสกนิกรชาวบ้านโพน ทำให้ผ้าไหมแพรวาพลิกชีวิตความเป็นอยู่ให้กับพสกนิกรชาวบ้านโพนกาฬสินธุ์ และปัจจุบันเป็นราชินีแห่งไหมที่ทรงคุณค่าและมีราคาแพงเนื่องจากเป็นผ้าไหมทอมือที่ในแต่ละผืนจะมีเพียงผืนเดียวในโลก ที่ยังได้รับการขนานนามว่า แพรวาผืนผ้าแห่งแผ่นดิน“
สำหรับเนื้อหากลองลำมี ดังนี้
"โอ้ยน้อ ปานฟ้าปี้น แผ่นดินไหว
ฟ้าผ่าฟาดลงกลางใจ ชาวไทยได้ฮ่ำฮอน พระพันปีหลวงปวงไทย
สวรรคตแล้ว เสียงฮ้องไห้ดังก้องฟ้า ดินปี้นกะมิปาน เจ้าเอ้ย
โอยน้อ….ละแม่ปวงไทยเอ้ย
โอ๋น้อมาเสียใจแท้น้อเจ้า น้ำตาหลั่งรินไหลทั่วดินแดนภูไท ไห้ฮ่ำฮอนโอ๋ยฮ้อง แสนอาลัยอาวรณ์เจ้า แม่ของเฮาเสด็จล่วง พระพันปีหลวงจากแล้ว ผู้เป็นแก้วหน่วยใส แท้แหล่ว เจ้าเอย
โอ๋น้อ เหลียวเบิ่งแพรผืนผ้า ผืนแพรวาสังมาหม่น นาคไต่เครือกะโห่ฮ้อง นาคหัวซ้องกะฮ้องไห้ อาลัยเจ้าแม่หลวง นี่หนา..
โอ๋น้อไผ๋สิมายามเยี่ยมโครงการดอกของแม่ ศิลปาชีพแม่ก่อใว้
ไผ๋แล้วสิเบิ่งแยง เจ้าเอย
โอ๋น้อ คึดถึงคราวแต่กี้ ภูไทอยู่ลุ่มภูพาน อยู่ดินแดนกันดารบ่ฮุ่งเฮืองปานนี้ บารมีพระองค์เจ้า แม่ของเฮาเสด็จผ่าน เป็นตำนานได้เว้า แพรวาเจ้าได้กล่าวขาน นั้นแหล่ว
โอ๋น้อพระองค์ทรงผืนผ้า แพรวาสังมาค่อง เสด็จไปทุกแหล่งหล้าอมริกาไปเทื่อแรกผืนผ้าได้โด่งดัง
นั้นแหล่ว
นับแต่นั้นภูไทอยู่เป็นสุขทุกข์บ่มีมากลายหายเมิดสิ้น มีเงินกินเงินใช้ รายได้กะหลั่งมานั้นแหล่ว
โอ๋ย…..น้อแม่ขอไทเอ้ย สำนึกในพระกรุณาธิคุณเจ้า พระพันปีหลวงแก้วล้ำค่า ส่งเสด็จสู่ชั้นฟ้า วิมานแก้วทิพย์สวรรค์เจ้าเอ๋ย"
