Authority & Harm
ร.ผู้ว่าพังงานำกำลังฝ่ายปกครอง-ตำรวจ จับกวาดล้างธุรกิจผิดกม.ชาวต่างชาติ
พังงา-รองผู้ว่าราชการการจังหวัดพังงา นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกวาดล้างธุรกิจผิดกฎหมายชาวต่างชาติ
ผู้สื่อข่าวรายวานว่าภายใต้อำนวยการสั่งการของ นายไพรัตน์ เพชรยวน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา และ พล.ต.ต.ชัยเกียรติ วิริยสภิตย์กุล ผบก.ภ.จว.พังงา นำโดย นายบัญชา ธนูอินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายพิชญพัทธ์ เรืองชาตรี นายอำเภอตะกั่วป่า พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี รอง ผบก.ภ.จว.พังงา พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ่งฉ้วน ผกก.กก.สส.ภ.จว.พังงา พ.ต.อ.จิระวัฒน์ สาระรัมย์ ผกก.สภ.ตะกั่วป่า พ.ต.ต.จรรยง โลหะกิจ สว.กก.สส.ภ.จว.พังงา พร้อมเจ้าหน้าที่สืบสวนจังหวัดพังงา เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ, กอ.รมน.จ.พังงา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงา เจ้าพนักงานที่ดินพังงา จัดหางานจังหวัดพังงา สรรพากรจังหวัดพังงา ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา, พาณิชย์จังหวัดพังงา และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันขอหมายค้น เข้าตรวจค้น สถานประกอบการลักษณะโรงแรม จำนวน 2 แห่ง
พื้นที่ ต.เกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ตามหมายค้นศาลจังหวัดตะกั่วป่า ที่ ค.9/2568 ลงวันที่ 27 ตุลาคม 2568 ผลการดำเนินการ ได้ ตรวจค้น และจับกุม ชายชาวรัสเซีย อายุ 54 ปี ผู้หญิงไทย อายุ 34 ปี พร้อมด้วยของกลาง 1.สำเนาหนังสือรับรองจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล บริษัทแห่งหนึ่ง ของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดพังงา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จำนวน 4 แผ่น 2.สำเนา แบบ บอจ.5 แสดงบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น จำนวน 1 แผ่น 3.สำเนาแสดงการเช่าห้องพัก พร้อมรายการชำระเงิน จำนวน 2 แผ่น 4.สำเนาการจองห้องพักผ่านเว็บไซต์ของโรงแรม ( ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ทำการสั่งจอง ก่อนเข้าทำการตรวจค้น ) 5.สำเนาโฉนดที่ดิน น.ส.4 จำนวน 4 แผ่น 6.สำเนาใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอนอาคาร ( แบบ อ.1 ) ขององค์การบริหารส่วนตำบลเกาะคอเขา จำนวน 2 แผ่น 7.สำเนายืนยันการจองที่พักของโรงแรม ซึ่งระบุจำนวนผู้เข้าพัก ผู้ใหญ่ 2 คน เด็ก 3 คน พร้อมด้วยสำเนาพาสปอร์ตผู้เข้าพัก และสลิปการจ่ายเงินผ่าน วีซ่าการ์ด ไปยังธนาคารกสิกรไทย ระบุจำนวนเงิน 14,097 บาท จำนวน 9 แผ่น 8.สำเนายืนยันการจองที่พัก ของโรงแรม ซึ่งระบุจำนวนผู้เข้าพัก ผู้ใหญ่ 1 คน พร้อมด้วยสำเนาพาสปอร์ตผู้เข้าพัก และสลิปการจ่ายเงินผ่าน มาสเตอร์การ์ด ไปยังธนาคารกสิกรไทย ระบุจำนวนเงิน 27,888 บาท จำนวน 5 แผ่น 9.สำเนายืนยันการจองที่พัก ของโรงแรม ซึ่งระบุจำนวนผู้เข้าพัก ผู้ใหญ่ 2 คน พร้อมด้วยสำเนาพาสปอร์ตผู้เข้าพัก และสลิปการจ่ายเงินผ่าน วีซ่าการ์ด ไปยังธนาคารกสิกรไทย ระบุจำนวนเงิน 12,785 บาท จำนวน 7 แผ่น

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นบุคคลต่างด้าวร่วมกันประกอบธุรกิจ (โรงแรม) ที่คนไทยไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขันในการประกอบกิจการกับคนต่างด้าว ตามที่กำหนดไว้ในบัญชีสาม แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 2.แจ้งข้อหาเพิ่มเติมผู้ต้องหาที่ 1 โดยข้อกล่าวหาให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียวหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวเพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย 3.แจ้งข้อหาเพิ่มเติมผู้ต้องหาที่ 2 โดยข้อกล่าวหายินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่ไม่ใช่คนต่างด้าวช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยคนต่างด้าวนั้นไม่ได้รับอนุญาตหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียวหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวเพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย พร้อมตรวจยึดเอกสารที่เกี่ยวข้อง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วป่า ดำเนินคดีต่อไป
