In Thailand
เผย3จังหวัดจัดเดินวิ่งปั้นป้องกันอัมพาต ปชช.แห่รวมงานคึกคักรวมกว่า5พันคน
วันนี้2พ.ย.2568 หลายจังหวัดจัดกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั้นป้องกันอัมพาต เฉลิมพระเกียรติ กาฬสินธุ์มีผู้เข้าร่วมกว่า1.5พันคน โดยรองผู้ว่าฯนำวิ่ง ขณะที่ศรีสะเกษนำโดยผู้ว่าฯและมีประชาชน นักเรียนศึกษากว่า 2พันคนและที่นครปฐมก็เช่นกัน นำโดยมีผู้ว่าฯเริ่มที่ที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม

กาฬสินธุ์-วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 เวลา 04.30 น. ที่ ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ศูนย์ราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสุวรรธณ์ เข็มธนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานในพิธีกล่าวแสดงความอาลัย และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และยืนสงบนิ่งแสดงความอาลัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเป็นประธานเปิดกิจกรรม เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11 เฉลิมพระเกียรติ ระดับภูมิภาค จังหวัดกาฬสินธุ์
โดยมี นายธนภัทร ณ ระนอง นายผดุงศักดิ์ อิ่มเอิบ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสันติ จัตุพันธ์ ปลัดจังหวัดกาฬสินธุ์ ผศ. (พิเศษ) นพ.สุรเชษฐ์ ภูลวรรณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ทุกเพศ ทุกวัย จากทุกอำเภอกว่า 1,500 คนเข้าร่วมกิจกรรม และร่วมชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กิจกรรมให้ความรู้เรื่องโรคหลอดเลือดสมอง และร่วมวิ่งในระยะทาง 5 กิโลเมตร และระยะทาง 10.5 กิโลเมตร
นายสุวรรธณ์ เข็มธนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในวันนี้ เป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งในด้านการส่งเสริมสุขภาพของประชาชน และเป็นการรวมพลังแห่งความจงรักภักดี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ที่ทรงเป็นดั่งแสงนำใจของประชาชนไทย และทรงเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนชาวไทยในการรักษาสุขภาพ และการออกกำลังกาย ตลอดจนส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพดี มีคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน เป็นที่ทราบกันดีว่าโรคหลอดเลือดสมอง เป็นภัยเงียบที่สร้างความสูญเสียทั้งต่อบุคคล ครอบครัว และสังคม นับวันจะมีผู้ป่วยด้วยโรคนี้เพิ่มขึ้นทุกปี
นอกจากจะส่งผลต่อชีวิตของผู้ป่วยแล้ว ยังมีผู้รอดชีวิตอีกจำนวนมากที่ต้องกลายเป็นผู้พิการต้องพึ่งพิงผู้อื่น รวมถึง ค่ารักษาพยาบาลยังส่งผลต่อคนในครอบครัว ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและผู้ดูแลได้รับผลกระทบไปด้วย ดังนั้นการสร้างความตระหนักรู้ และการป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดิน วิ่ง หรือปั่นจักรยาน เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านผศ. (พิเศษ) นพ.สุรเชษฐ์ ภูลวรรณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้มีการจัดโครงการแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต เฉลิมพระเกียรติ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงอาการและแนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดอาการและการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ตลอดจนรณรงค์ สนับสนุน สร้างเสริมให้เกิดวินัยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอในคนไทยทุกเพศ ทุกวัย เพื่อสุขภาพแข็งแรงห่างไกลโรค และในปี พ.ศ. 2568 นี้ จัดเป็นครั้งที่ 11 ติดต่อกัน ในชื่อ “โครงการแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11 เฉลิมพระเกียรติ หัวข้อ ออกกำลังกายเป็นนิสัย ห่างไกลสโตรค (No Stop No STROKE) ซึ่งเป็นการรวมพลังขับเคลื่อนโครงการฯ ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย
จากข้อมูลของ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ปี 2567 พบว่า ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองมากกว่า 30,000 คนต่อปี และมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 270,000 รายต่อปี เฉลี่ยทุก 2 ชั่วโมง จะมีคนไทยเสียชีวิตจากโรคนี้อย่างน้อย 3 ราย ซึ่งถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งในเพศหญิงและอันดับสามในเพศชาย รองจากอุบัติเหตุและโรคมะเร็ง นอกจากนั้น โรคนี้ยังมีอัตราความพิการสูง ถึงร้อยละ 70 และยังมีผลทำให้ความจำเสื่อมในภายหลังอีกด้วย ดังนั้น จะเห็นว่าโรคหลอดเลือดสมองเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่ประเทศกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งจะพบโรคนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าประชาชนขาดความรู้ด้านการป้องกันหรือรักษาอย่างถูกวิธี สำหรับในพื้นที่ จังหวัดกาฬสินธุ์ พบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองกว่า 4,500 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี โดยร้อยละ 60 เป็นกลุ่มอายุ 45 ปีขึ้นไป ซึ่งส่วนใหญ่มีปัจจัยเสี่ยงจากโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน และภาวะอ้วน การดำเนินงานในวันนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป รวมผู้สมัครทั้งสิ้น 6,557 คน
ศรีสะเกษผู้ว่าฯเปิดโครงการคึกคักมีผู้สนใจกว่า 2พันคน

บุญทัน ธุศรีวรรณรายงานจากศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 เวลา 05.00 น. ณ สนามกีฬาจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และนางสาวภคนันท์ ศิลาอาสน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ ได้เป็นประธานเปิดโครงการแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11 ภายใต้หัวข้อ ออกกำลังเป็นนิสัย ห่างไกลสโตรค (No Stop No STROKE) เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โดยมีนายพนัส จันทร์คำ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดศรีสะเกษ นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย ปลัดจังหวัด นายแพทย์ทะนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ นายชนินทร์ คุ้มใหญ่โต ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ และหัวหน้าส่วนภาคเอกชน และดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ และประชาชน นักเรียน นักศึกษากว่า 2,000 คนจาก 22 อำเภอในจังหวัดศรีสะเกษ เข้าร่วมกิจกรรม จำนวนมาก
ขณะนี้โรคหลอดเลือดสมองสามารถป้องกันได้ถึงร้อยละ 90 หากประชาชนรู้จักดูแลสุขภาพ หากออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น การเดิน วิ่ง หรือปั่นจักรยาน ถือเป็นวิธีง่าย ๆ แต่ช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัด เพื่อให้ผู้ที่มาร่วมกิจกรรมถือว่ามาสร้างพลังแห่งความดี เป็นการถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่เสด็จสู่สวรรคาลัย และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระมหากษัตริย์ ร.10 และสมเด็จพระราชินี ด้วย
นครปฐมจัดกิจกรรมเดินวิ่งปั่นป้องกันอัมพาต

นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดกิจกรรมออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ 2568“แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่นป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11 เฉลิมพระเกียรติ” ที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน นักกีฬา และประชาชนร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในการป้องกันดูแล และรักษาอย่างถูกต้องแก่ประชาชนทั่วไป
โดย นายแพทย์วิโรจน์ รัตนอมรสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ประเทศไทย พบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองประมาณ 1,880 คน ต่อประชากรจำนวนหนึ่งแสนคน หรือร้อยละ 2 เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งในเพศหญิง และอันดับสามในเพศชาย นอกจากนี้ โรคนี้ยังทำให้เกิดความพิการสูง พบว่าผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง 100 คน ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจะเสียชีวิตร้อยละ 5 และพิการสูงถึง ร้อยละ 70 ซึ่งนอกจากความพิการทางกายแล้วยังมีผลทำให้ความจำเสื่อมในภายหลังอีกด้วย จะเห็นว่าโรคหลอดเลือดสมองเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย ถ้าประชาชนขาดความรู้การป้องกันและรักษาอย่างถูกวิธีโรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ร้อยละ 90 ถ้าสามารถปรับฤติกรรมเลี่ยงความเสี่ยงได้ จากรายงานข้างต้นจะเห็นว่าโรคหลอดเลือดสมองเป็นอีกโรคหนึ่งที่ทำลายคุณภาพชีวิตของประชากร
