In Bangkok
กทม.ชี้คลิปผู้ค้าโต้เทศกิจย้ำทำตามกม. ควบคู่ทำความเข้าใจลุยจัดระเบียบ
กรุงเทพฯ-นายธวัชชัย จันทร์เส ผู้อำนวยการเขตบางซื่อ กทม. กล่าวกรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่คลิปเหตุการณ์ผู้ค้าโต้เถียงเจ้าหน้าที่เทศกิจที่เข้าไปจัดระเบียบการค้าบนผิวจราจรว่า สำนักงานเขตฯ ตรวจสอบแล้วพบว่า เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 68 ที่ผ่านมา หัวหน้าฝ่ายเทศกิจพร้อมเจ้าหน้าที่เทศกิจได้ออกตรวจตรากวดขันความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่ พบรถยนต์กระบะสีเทาหมายเลขทะเบียน ผจ 8396 อุบลราชธานี จอดจำหน่ายมะพร้าวบนผิวจราจรบริเวณปากซอยประชาราษฎร์สาย 1 ซอย 34 แขวงบางซื่อ ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 20 (3) แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 ห้ามมิให้ผู้ใดขาย หรือจำหน่ายสินค้าซึ่งบรรทุกบนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือล้อเลื่อนบนถนน หรือในสถานสาธารณะ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ผู้ค้าดังกล่าวเคลื่อนย้ายรถและตักเตือน แต่ผู้ค้าไม่ปฏิบัติตามและฝ่าฝืนหยุดรถเพื่อจำหน่ายสินค้าให้กับลูกค้าบริเวณปากซอยประชาราษฎร์สาย 1 ซอย 34 จึงดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยยึดของกลางมะพร้าวจำนวน 20 ลูก และมีดปอกมะพร้าว 1 เล่ม เพื่อนำส่งดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 พร้อมลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลบางโพเพื่อเป็นหลักฐาน ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของ กทม. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดูแลความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง รวมถึงเป็นการป้องกันปัญหาการจราจรและอุบัติเหตุบนท้องถนน
นายปิยะ พูดคล่อง ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) กทม. กล่าวว่า การดำเนินการของเจ้าหน้าที่เทศกิจเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดไว้ใน พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 20 ซึ่งห้ามมิให้ผู้ใดขายสินค้า หรือประกอบอาหารบนถนน หรือในสถานสาธารณะ เว้นแต่ในบริเวณที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นประกาศผ่อนผันให้กระทำได้
ทั้งนี้ การขายสินค้าบนถนน หรือในสถานสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ตามกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัย อีกทั้งยังอาจมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรด้วย ซึ่งที่ผ่านมา กทม.ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับสถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อกวดขันและดูแลความเรียบร้อยร่วมกันในเรื่องที่กฎหมายกำหนดให้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกัน เช่น การขาย หรือจำหน่ายบนถนน หรือสถานสาธารณะ การจอด หรือขับขี่รถบนทางเท้า เป็นต้น