In News

เตือน!ร้านค้าไม่ซื่อเข้าร่วมคนละครึ่งพลัส ฉวยโอกาสโก่งราคาสินค้าจับได้เจอหนัก



กรุงเทพฯ-ย้ำเตือนอีกรอบ ไม่ฟังจะปรับ แล้วนะร้านค้าโครงการคนละครึ่งพลัส ฉวยโอกาสขายสินค้าราคาสูง เจอจับปรับแน่

วันนี้ 4 พฤศจิกายน 2568 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ของกระทรวงพาณิชย์ ตามข้อสั่งการของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เพื่อไม่ให้ร้านค้าฉวยโอกาส เอาเปรียบประชาชนที่ใช้สิทธิจ่ายผ่านโครงการคนละครึ่งพลัส พบว่า ยังมีร้านค้าในโครงการฯ ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า ขายสินค้าสูงกว่าราคาเงินสด โดยเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการปรับเป็นพินัย เพื่อเป็นการตักเตือนไว้ก่อน หากพบฝ่าฝืนอีก จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยกระทรวงพาณิชย์จะลงพื้นที่ตรวจสอบเข้มขึ้นกว่าเดิม

ทั้งนี้ จากการสอบร้านค้า พบว่า ร้านค้ายังมีความกังวล เข้าใจผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าในโครงการคนละครึ่ง โดยได้รับข้อมูล รวมถึงคำแนะนำที่ผิดๆ จากปากต่อปาก ให้บวกส่วนต่างไว้ เพื่อเตรียมไว้จ่ายภาษีที่อาจ

จะสูงเหมือน โครงการครั้งก่อนที่ร้านค้า และผู้ประกอบการประสบมา

“ขอยืนยันว่า  ข้อมูลของร้านค้าที่ใช้ในโครงการ “คนละครึ่งพลัส” จะถือเป็นข้อมูลลับ ไม่มีการเปิดเผยให้บุคคลภายนอก และที่สำคัญไม่มีการส่งต่อข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลรายได้ให้กับกรมสรรพากร ขอให้พ่อค้าแม่ค้าสบายใจ อย่าได้เป็นกังวล และอย่าเชื่อคำพูดปากต่อปากที่ไม่เป็นความจริง“ นายสิริพงศ์ ยืนยัน

นายสิริพงศ์ กล่าวย้ำเตือน ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส ว่าการกระทำดังข้างต้น เป็นการฝ่าฝืนประกาศ กกร. ฉบับที่ 68 พ.ศ. 2568 ข้อ 3 และ 11 อันเป็นความผิดตามมาตรา 28 และโทษตาม มาตรา 40 แห่ง พรบ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ 2542 ร้านค้าที่ฝ่าฝืนอาจถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 หากไม่ปิดป้ายราคา มีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท และหากขายเกินราคาหรือเอาเปรียบผู้บริโภค มีโทษปรับสูงสุด 140,000 บาท หรือจำคุกถึง 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ