In News
นายกฯถกบอร์ดเพิ่มขีดความสามารถไทย เคาะ2มาตรการ 'ปั้นคน-เสริมแกร่งธุรกิจ'
กรุงเทพฯ-นายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะประชุม คกก. นโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศฯ ผลักดัน “Quick Big Win”เห็นชอบ 2 มาตรการ เร่งสร้างบุคลากรทักษะสูงและยกระดับผู้ประกอบการไทย
วันนี้ (6 พฤศจิกายน 2568) เวลา 09.30 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย ครั้งที่ 3/2568 โดยมีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายพชร อนันตศิลป์ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการนโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย ครั้งที่ 3 ของปี 2568 และเป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานกรรมการ จึงขอถือโอกาสนี้ ขอความร่วมมือร่วมกันขับเคลื่อนภารกิจสำคัญของประเทศ และหวังว่าการประชุมครั้งนี้ จะเป็นเวทีสำคัญในการระดมความคิดเห็น เพื่อร่วมกันผลักดันมาตรการต่างๆ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายของประเทศ
“กองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย เป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะในส่วนของ “เสาหลักที่ 5 การลงทุนเพื่ออนาคต” ภายใต้แนวทาง Quick Big Win ซึ่งมีเป้าหมายในการเร่งสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ในวันนี้ที่ประชุมจะได้พิจารณามาตรการสำคัญหลายเรื่อง ซึ่งล้วนมีบทบาทในการขับเคลื่อนกลไกดังกล่าว ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ 2 มาตรการ เพื่อขับเคลื่อนการลงทุนเพื่ออนาคตภายใต้นโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล
1. มาตรการสร้างบุคลากรทักษะสูงสำหรับอุตสาหกรรมยุคใหม่ และให้สำนักงานออกประกาศเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติหรือคำชี้แจงที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อรองรับการแข่งขันทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว การกีดกันทางการค้า โดยแรงงานไทยต้องได้รับการพัฒนาทักษะผ่านการ Upskill / Reskill / New Skill ให้สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรมยุคใหม่ กองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ จะสนับสนุนเงินให้กับมหาวิทยาลัย/สถาบันฝึกอบรมที่จะเป็นหน่วยงานแม่ข่าย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดฝึกอบรมและยกระดับทักษะของกำลังคนระดับ ปวส. ขึ้นไป ให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของภาคอุตสาหกรรม โดยมีเป้าหมายพัฒนาบุคลากร 1 แสนคน แบ่งเป็นนักศึกษาที่เตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน 30,000 คน และบุคลากรในตลาดแรงงานที่ต้องการยกระดับหรือปรับเปลี่ยนทักษะ (Upskill & Reskill) 70,000 คน
2. มาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และให้สำนักงานออกประกาศเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติหรือคำชี้แจงที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทยและปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมของประเทศไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ โดยส่งเสริม 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1) การปรับปรุงประสิทธิภาพกิจการเดิมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น การใช้ระบบอัตโนมัติ และเทคโนโลยีดิจิทัล 2) การวิจัยและพัฒนา (R&D) 3) การปรับเปลี่ยนกิจการเดิมไปสู่อุตสาหกรรมใหม่และอุตสาหกรรมสีเขียว
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเสนอแนะเพิ่มเติมว่า การรับรองบุคลากรและผู้ประกอบการไทยที่มีทักษะสูงต้องดำเนินการรวดเร็ว โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ซึ่งขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี มีความเชี่ยวชาญด้านการรับรองมาตรฐานวิชาชีพและสามารถออกใบรับรองที่ได้รับการยอมรับในระดับอาเซียน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของแรงงานและผู้ประกอบการไทย
