In News

ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาส2ปี68 MPIกลับมาขยายตัวในรอบ3ไตรมาส



กรุงเทพฯ-รายงานภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ไตรมาส 2 ปี 2568 MPI กลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาสหนุนอุตสาหกรรมยานยนต์–เหล็ก–อิเล็กทรอนิกส์ เติบโตต่อเนื่อง

นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้รับทราบรายงานภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ไตรมาส 2/2568 ประจำเดือน กรกฎาคม และสิงหาคม 2568 ตามที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงอุตสาหกรรม เสนอ เพื่อให้คณะรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์ภาคการผลิตและแนวโน้มการส่งออกของประเทศ

กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 96.75 ขยายตัวร้อยละ 1.47 เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นการกลับมาขยายตัวครั้งแรกหลังหดตัวต่อเนื่อง 3 ไตรมาส แรงขับเคลื่อนหลักมาจาก อุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้า และรถกระบะเพื่อการส่งออก รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์สำเร็จรูป และน้ำมันปาล์ม ขณะที่บางสาขาชะลอตัว เช่น ผลิตภัณฑ์จากการกลั่นปิโตรเลียม เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และเครื่องปรับอากาศ

สำหรับเดือน กรกฎาคม 2568 ดัชนี MPI อยู่ที่ 93.34 หดตัวร้อยละ 4.0 จากการหยุดผลิตของผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่เพื่อย้ายฐานการผลิตไปจังหวัดปราจีนบุรี และการซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมัน แต่ยังมีอุตสาหกรรมที่เติบโต ได้แก่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เหล็กขั้นมูลฐาน และหม้อแปลงไฟฟ้า

เดือน สิงหาคม 2568 MPI อยู่ที่ 92.13 หดตัวร้อยละ 4.2 จากการผลิตยานยนต์ที่ลดลง และผลกระทบจากการปิดด่านชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างไรก็ตาม เหล็กและเหล็กกล้าขั้นมูลฐาน เติบโต 22.7% และ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง เติบโต 19.1% สะท้อนการขยายตัวของตลาดดิจิทัลและศูนย์ข้อมูล (Data Center)

แนวโน้มไตรมาส 3/2568

เหล็กและเหล็กกล้า → เติบโตต่อเนื่องจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ

ยางและผลิตภัณฑ์ยาง → มีแนวโน้มขยายตัว

อิเล็กทรอนิกส์ → อาจชะลอตัวจากเศรษฐกิจโลก

อุตสาหกรรมอาหาร → ชะลอตัวเล็กน้อยตามฤดูกาล

รองนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ชมกลิ่น ระบุว่า การติดตามภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิดเป็นข้อมูลสำคัญในการกำหนดมาตรการภาครัฐ เพื่อสนับสนุนการผลิตและการส่งออก พร้อมย้ำว่ารัฐบาลพร้อมผลักดันมาตรการเชิงรุก เพื่อรักษาระดับการผลิตและขยายการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ของประเทศให้ต่อเนื่อง

“รัฐบาลจะทำให้ข้อมูลเชิงเศรษฐกิจถูกนำไปใช้เพื่อออกนโยบายได้ตรงจุด และเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมไทยทั้งตลาดภายในและต่างประเทศ”