In News

นายกฯและกต.ตามเสด็จในหลวงเยือนจีน ยืนยันไทยพร้อมเต็มร้อยปกป้องอธิปไตย



กรุงเทพฯ-นายกฯ เผย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนอย่างเป็นทางการ เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ไทย ย้ำสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี และโปรดเกล้าฯ นายกฯ ตามเสด็จฯ ในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ ยันติดตามสถานการณ์ไทย - กัมพูชา 24 ชั่วโมง ชี้แม้หวังความสงบแต่เตรียมพร้อมตลอด กองทัพมียุทธวิธีและแผนปฏิบัติการชัดเจน

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 เวลา 07.45 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินเยือน สาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13 - 17 พฤศจิกายน 2568 ว่า ทุกครั้งที่องค์พระประมุขของชาติเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ รัฐบาลจะต้องมีรัฐมนตรีเกียรติยศตามเสด็จพระราชดำเนิน ซึ่งในครั้งนี้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ตนและนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ตามเสด็จในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ ยืนยันว่าไม่มีภารกิจเพิ่มเติม แต่เป็นเพียงองค์ประกอบของขบวนเสด็จเท่านั้น การเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนในครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทยเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ อันเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่ความทรงจำ และเป็นการเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน โดยแท้จริงแล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศได้ดำเนินมาอย่างยาวนานหลายร้อยปี

นายกฯ กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์บริเวณชายแดน ขณะนี้ได้มีการเปิดช่องทางการสื่อสารกับผู้ที่เกี่ยวข้องตลอด 24 ชั่วโมง ยืนยันว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างดีที่สุด โดยไม่มีความประสงค์ที่จะรุกรานหรือสร้างความขัดแย้งกับประเทศใด แต่ในขณะเดียวกันก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมาคุกคามอธิปไตยของชาติ รวมถึงจะไม่ยอมให้พี่น้องประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ทหารต้องประสบภัยอันตราย ทั้งนี้ กองทัพมียุทธวิธีและแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน ขณะที่รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งด้านการปฏิบัติการและการเยียวยาประชาชน โดยได้เตรียมความพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว

“แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อม เป็นคำสอนจากบรรพบุรุษที่ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย ยืนยันว่าตั้งแต่วันที่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้มอบอำนาจการตัดสินใจทางยุทธวิธีให้กับกองทัพอย่างเต็มที่ โดยมีการสั่งการผ่านสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งจะประชุมเพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์ การเตรียมความพร้อม และพิจารณาการสนับสนุนตามที่กองทัพร้องขอ รวมถึงการปรับแผนปฏิบัติการให้เหมาะสมตามสถานการณ์ ขอยืนยันว่ากองทัพมีความพร้อมเต็มที่ในการรับมือกับทุกสถานการณ์ เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินและอธิปไตยของชาติ รวมทั้งดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลัง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายอนุทิน กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยมีนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ประสานงานระหว่างฝ่ายรัฐบาลและรัฐสภา ซึ่งขณะนี้รัฐสภาได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประชุมวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่สองและวาระที่สามให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขในบันทึกความเข้าใจ (MOA) ระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชน ซึ่งถือเป็นข้อผูกพันที่ทั้งสองพรรคต้องดำเนินการให้เป็นไปตามข้อตกลงดังกล่าว โดยยืนยันว่าไม่มีสิ่งใดต้องกังวล ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมขอให้สอบถามนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี