In News

นายกฯถกคนท่องเที่ยวเร่งหาตลาดใหม่ เสนอ2มาตรการกระตุ้น-ฟื้นความเชื่อมั่น



กรุงเทพฯ-นายกฯ หารือผู้ประกอบการท่องเที่ยว เร่งฟื้นความเชื่อมั่น ขยายตลาดใหม่ ยืนยันแนวโน้มการท่องเที่ยวลดลงไม่ได้เกิดจากปัจจัยด้านคุณภาพหรือความพร้อมของภาคการท่องเที่ยวไทยพร้อมเดินหน้ามาตรการเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก ด้านรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เสนอ 2 มาตรการเร่งด่วน “Restoring Trust & Quick Win” ยกระดับมาตรฐาน-เสริมแกร่งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

เมื่อ18 พ.ย. 68ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล คณะผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เข้าเยี่ยมคารวะนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อหารือแนวทางการส่งเสริมและยกระดับการท่องเที่ยวของประเทศไทย

โดยมีนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) และนายกสมาคมสายการบินประเทศไทย ร่วมด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลตระหนักดีว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้ประเทศ โดยในช่วงปีที่ผ่านมา แม้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยม แต่ตัวเลขนักท่องเที่ยวจากบางประเทศมีการชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยืนยันว่าแนวโน้มดังกล่าวไม่ได้เกิดจากปัจจัยด้านคุณภาพหรือความพร้อมของภาคการท่องเที่ยวไทย แต่เป็นผลจากนโยบายภายในของแต่ละประเทศ ซึ่งส่งผลต่อการเดินทางออกนอกประเทศของประชาชนในช่วงที่ผ่านมา

ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในปี พ.ศ. 2568 เผชิญหลายปัจจัยท้าทาย ทั้งจากสถานการณ์ภายในประเทศและแนวโน้มการแข่งขันระดับภูมิภาค แม้ว่าตลาดท่องเที่ยวในประเทศและตลาดระยะไกลยังคงมีการเติบโตเชิงบวก แต่ตลาดระยะใกล้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและอาเซียนกลับมีการชะลอตัว สวนทางกับความเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของไทยที่ยังติดอันดับต้น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย อย่างไรก็ตาม ภาพลักษณ์ด้านความคุ้มค่า (Value for Money) ความหลากหลายของประสบการณ์ท่องเที่ยว (Variety) และความเป็นมิตร (Friendly) ที่เป็นจุดแข็งสำคัญของประเทศไทย เริ่มถูกกระทบจากต้นทุนการท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงความท้าทายต่างๆ ขณะเดียวกัน คู่แข่งด้านการท่องเที่ยวรายใหม่ในภูมิภาคต่างเร่งพัฒนานวัตกรรมและยกระดับความพร้อมในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ผู้แทนจากภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวจึงได้เสนอแนวทางเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะกลาง–ยาว เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่น เสริมความสามารถในการแข่งขัน และพัฒนาภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศอย่างยั่งยืน

“รัฐบาลยังคงเดินหน้าปรับมาตรการ ส่งเสริม และขยายตลาดใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาเสถียรภาพของภาคการท่องเที่ยว และสร้างความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยยังพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน” นายกรัฐมนตรี ระบุ

เสนอ 2 มาตรการเร่งด่วน “Restoring Trust & Quick Win”

ด้านนายอรรถกร เปิดเผยภายหลังการหารือว่า การนำภาคเอกชนเข้าพบนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ เป็นการแสดงเจตจำนงค์ของกระทรวงฯ ในการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อมุ่งพัฒนาประเทศไทยให้เป็น “จุดหมายปลายทางคุณภาพ” ที่มอบทั้ง “มูลค่าที่คุ้มค่า” (Value for Money) และสร้างภาพลักษณ์ “ความเป็นมิตร” (Friendly) ซึ่งเป็นไปตามวิสัยทัศน์ที่กระทรวงฯ กำลังขับเคลื่อนอย่างจริงจัง โดยได้นำเสนอ 2 มาตรการหลัก ที่เป็นหัวใจสำคัญในการแก้ไขปัญหาและกระตุ้นตลาดในช่วงเวลานี้ เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการเป็น “จุดหมายปลายทางหลัก” ในภูมิภาค

สรุป 2 มาตรการหลักที่ได้รับการผลักดันเชิงนโยบาย
1. มาตรการด้านความปลอดภัยและการฟื้นฟูความเชื่อมั่น (Restoring Trust)
    •    เน้นหนัก: การจัดตั้งกลไกความร่วมมือด้านความปลอดภัยอย่างเป็นระบบ และการทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานความมั่นคง เพื่อจัดการข่าวสารที่ไม่ถูกต้องและลดข่าวปลอม
    •    หัวใจสำคัญ: ผลักดันให้มีการจัดทำ “Travel Advisory Note” ที่มีมาตรฐานเดียวและมีความชัดเจน เพื่อเป็นข้อมูลเชิงรุกและสร้างความเชื่อมั่นสูงสุดแก่นักท่องเที่ยว
    •    การกำกับดูแล: เข้มงวดในการกวดขันและปราบปรามผู้ประกอบการและมัคคุเทศก์ที่ผิดกฎหมายอย่างจริงจัง

2. มาตรการกระตุ้นตลาดและลดต้นทุนผู้ประกอบการ (Reviving Market Momentum / Quick Win)
    •    การตลาด: เร่งจัดทำแผนงานและแคมเปญ “Quick Win” ทั้งตลาดต่างประเทศและตลาดในประเทศ พร้อมจัดทำแพ็กเกจส่งเสริมการขายร่วมกับเอกชน เพื่อกระตุ้นยอดเดินทาง
    •    การสนับสนุน: ขอรับการสนับสนุนมาตรการด้านการเงิน อาทิ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำและมาตรการภาษีที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการทุกภาคส่วนสามารถลดต้นทุนและฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน

นายกรัฐมนตรีได้ให้การตอบรับและแสดงความพร้อมของรัฐบาลในการสนับสนุนการทำงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยเห็นชอบในหลักการที่ต้องเร่งยกระดับมาตรฐานสินค้า บริการ และมาตรการความปลอดภัยให้ทัดเทียมสากล ซึ่งเป็นภารกิจที่รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุด เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของโลกได้อย่างยั่งยืน