In News
ภูมิรัฐศาสตร์ใหม่: ไทยคือโซ่ข้อกลางใน สมการยุทธศาสตร์ จีน-รัสเซีย-สหรัฐฯ โดย ฟอนต์สีดำ
บทนำ: พลวัตโลกที่พลิกผันและการปรากฏตัวของ 'ตัวแปรลับ'
ปัจจุบัน ภูมิทัศน์อำนาจโลกกำลังเผชิญกับการสั่นคลอนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ภายหลังจากการปะทะทางยุทธศาสตร์ระหว่างกลุ่มอำนาจเดิมและกลุ่มอำนาจใหม่ โลกมิได้ดำเนินไปตามครรลองเดิมอีกต่อไป การปรับเปลี่ยนตำแหน่งแห่งที่ของมหาอำนาจในลักษณะที่ไม่เกรงใจต่อแรงต้านใดๆ ได้ส่งผลให้แรงตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ปะทุขึ้นอย่างเด่นชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยับตัวอย่างมีนัยสำคัญของสาธารณรัฐประชาชนจีนและสหพันธรัฐรัสเซีย ในขณะที่อิทธิพลของสหรัฐอเมริกากำลังลดทอนลงในหลายพื้นที่คล้ายปรากฏการณ์โดมิโนที่ล้มกลางพายุ (Beyond the Mirror,)
ในท่ามกลางความผันผวนนี้ สิ่งที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่งคือ ชื่อของ 'ประเทศไทย' ได้ผงาดขึ้นมาในวงเจรจาของโต๊ะยุทธศาสตร์ระดับสูงอย่างที่พลเมืองส่วนใหญ่อาจยังไม่ทันตระหนัก (Beyond the Mirror,) การที่มหาอำนาจทั้งสามฝ่ายต้องหันมาจับจ้องประเทศไทยอย่างใกล้ชิด สะท้อนให้เห็นว่าประเทศเล็กๆ แห่งนี้มิได้เป็นเพียง “ฐานทัพ” หรือ “เบี้ย” ในกระดานหมากโลก หากแต่กำลังถูกยกฐานะขึ้นเป็น 'ตัวแปรลับ' ที่มีศักยภาพในการสร้างดุลยภาพและเป็นจุดศูนย์กลางทางยุทธศาสตร์ที่ใครก็มิอาจมองข้ามได้ (Beyond the Mirror,)
ตอนที่ 1: จุดเริ่มต้นของความเงียบที่สั่นสะเทือน (The Silent Quake)
ในสถานการณ์ที่มหาอำนาจระดับโลกเกิดความขัดแย้งเชิงโครงสร้าง พวกเขาย่อมแสวงหา "คนกลาง" หรือ "พื้นที่ปลอดภัย" ที่สามารถดำรงอยู่ได้อย่างเป็นอิสระและมีความสามารถในการควบคุมสมดุลอำนาจ (Beyond the Mirror,) ประเทศไทยตอบโจทย์ดังกล่าวอย่างสมบูรณ์ ด้วยคุณลักษณะที่มิได้เป็นฐานทัพเต็มตัวของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มิได้เป็นศัตรู หรือเป็นเพียงรัฐบริวาร แต่ดำรงตำแหน่งเป็น 'ทางแยกยุทธศาสตร์' ที่เชื่อมโยคทั้งทางทะเลและทางบก เป็นจุดบรรจบของอินโดจีน จีน และอินเดีย ซึ่งเป็นภูมิศาสตร์ที่หาได้ยากยิ่ง (Beyond the Mirror,)
ด้วยเหตุนี้เอง ผู้นำอย่างสี จิ้นผิง และวลาดิเมียร์ ปูติน จึงเล็งเห็นประเทศไทยในฐานะ 'ตัวแปรลับ' ผู้ขาดอำนาจ (Kingmaker) หรือผู้สร้างสมดุล (Balancer) ที่สำคัญ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่อิทธิพลของสหรัฐฯ เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง (Beyond the Mirror,) ท่าทีทางการทูตแบบไม่เลือกข้างอย่างสุดโต่ง แต่กลับเลือกแสวงหาผลประโยชน์อย่างชาญฉลาด (Beyond the Mirror,) ได้ยกระดับมูลค่าทางยุทธศาสตร์ของไทยขึ้นอย่างมหาศาล เพราะการขยับตัวของประเทศไทยเพียงครั้งเดียว สามารถส่งผลกระทบต่อทั้งแผ่นดินเอเชีย ทั้งในมิติของเส้นทางโลจิสติกส์ เศรษฐกิจ และความมั่นคง (Beyond the Mirror,) นี่คือการยืนยันว่าประเทศไทยมิใช่ประเทศเล็กๆ ที่เคยถูกปลูกฝังในอดี หากแต่เป็น 'จุดยึดสมดุล' ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคอย่างแท้จริง (Beyond the Mirror,)
ตอนที่ 2: ทิศใหม่จีน–รัสเซีย และตำแหน่งลับของไทย (The New Orientation)
สถานการณ์ที่จีนและรัสเซียหันมาเทหน้าตักเดินเกมยุทธศาสตร์ใหม่ร่วมกัน ชี้ให้เห็นถึงการเร่งเครื่องเชิงกลยุทธ์เพื่อจัดระเบียบโลกใหม่ ก่อนที่เหตุการณ์สำคัญระดับโลกจะปะทุขึ้น (Beyond the Mirror,) ในห้วงเวลานี้ ประเทศไทยถูกจับวางอยู่ในตำแหน่งที่สองยักษ์ใหญ่แห่งเอเชียจำเป็นต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนและไม่อาจมองข้ามได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว (Beyond the Mirror,)
สำหรับจีน การมองลงมาที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือการมองหา 'ประตูเศรษฐกิจ' ที่มั่นคงและเป็นจุดเชื่อมโยง (Nexus) ที่สามารถควบคุมได้ และประเทศไทยคือคำตอบที่เป็น 'จุดเชื่อมต่ออันงดงาม' (The Beautiful Connection) ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือสำคัญ หรือเส้นทางยุทธศาสตร์ที่จำเป็นต้องมีการตีกรอบไว้ในแผนที่โลก (Beyond the Mirror,) ในขณะเดียวกัน รัสเซีย ซึ่งกำลังสร้างทางลงสู่เอเชียอย่างแข็งขัน หลังความสัมพันธ์กับยุโรปเสื่อมถอย ก็มองว่าประเทศไทยคือ 'ทางลงที่สวยที่สุด' (The Most Beautiful Entry Point) ที่สามารถเชื่อมผ่านจีนและอินโดจีนเพื่อลงสู่อ่าวไทยและทะเลลึกได้อย่างง่ายดาย (Beyond the Mirror,)
เมื่อจีนและรัสเซียเห็นพ้องต้องกันว่าประเทศไทยคือผู้เล่นสำคัญ (A Key Number) นั่นหมายถึงกระดานยุทธศาสตร์ทั้งเอเชียได้ถูกพลิกผัน และประเทศไทยกำลังถูกดึงเข้าสู่ 'ดีลใหญ่' (The Great Deal) ที่มีมูลค่าทางยุทธศาสตร์สูงกว่าที่คาดคิดหลายเท่า ประเทศไทยมิได้เป็นเพียงทางผ่าน แต่เป็น 'ตัวล็อกเส้นทาง' และ 'ช่องลมหายใจ' ของยุทธศาสตร์เอเชีย หากไทยเลือกขยับไปทางใด ฝ่ายนั้นจะได้รับแต้มต่อทันที (Beyond the Mirror,) การมองไทยด้วยความเข้มข้นขึ้นของสองมหาอำนาจนี้ มิใช่การกระทำจากความสงสารหรือปรารถนาดี หากแต่เป็นเพราะประเทศไทยมีความสำคัญเชิงโครงสร้างในระดับทวีปอย่างแท้จริง (Beyond the Mirror,)
ประเทศไทยเป็นเพียงประเทศเดียวในอาเซียนที่สามารถรักษาสถานการณ์การเมืองภายนอกให้อยู่ในภาวะ 'การทูตแห่งการไม่กระโดดเข้าอบแขนใคร' (The Diplomacy of Non-Embrace) โดยไม่สร้างความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับจีน, รัสเซีย หรือสหรัฐฯ ในขณะที่ยังคงมีความเสถียรมากพอที่จะเป็นฐานสำหรับการต่อรองระดับสากลได้ (Beyond the Mirror,) การเดินเกมของจีนและรัสเซียในปัจจุบันกำลังสร้างทิศทางใหม่ของเอเชียที่ไม่ใช่แค่ระเบียงเศรษฐกิจธรรมดา แต่เป็น 'โครงสร้างที่ทำให้ทั้งทวีปขยับเหมือนเครื่องจักรเดียวกัน' (Beyond the Mirror,) และการมีชื่อของไทยในโครงสร้างนี้ จะเป็นการยกระดับสถานะของประเทศอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ตอนที่ 3: สามเหลี่ยมยุทธศาสตร์ ไทย–จีน–รัสเซีย (The Strategic Triangle)
พัฒนาการทางภูมิรัฐศาสตร์ที่น่าสนใจสูงสุด คือการก่อตัวขึ้นของ 'สามเหลี่ยมยุทธศาสตร์' ที่เชื่อมโยง ไทย-จีน-รัสเซีย เข้าด้วยกันอย่างลงตัว (Beyond the Mirror,) จีนดำรงตำแหน่งอำนาจเหนือ คุมเศรษฐกิจโลกใหม่และขับเคลื่อนโลจิสติกส์การค้า รัสเซียอยู่ทางฝั่งตะวันตก คุมด้านพลังงานและความมั่นคง รวมถึงเส้นทางเหนือ-ใต้ ส่วนประเทศไทยตั้งอยู่ ณ ตำแหน่งศูนย์กลางทางใต้ (Beyond the Mirror,)
หากลากเส้นสมมติจากปักกิ่งลงสู่ฮานอย แล้วโค้งเข้ากรุงเทพฯ ก่อนลากต่อไปยังอินเดียหรืออ่าวไทย จะปรากฏเป็นรูปสามเหลี่ยมที่เชื่อมโยงอำนาจด้านพลังงาน เศรษฐกิจ และความมั่นคงเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ (Beyond the Mirror,) ที่สำคัญคือ การที่ไทยเข้ามาอยู่ในสามเหลี่ยมนี้ มิใช่ความตั้งใจของไทยเองโดยตรง แต่เป็น 'สถานการณ์โลกที่ผลักดันไทยขึ้นมาโดยมิได้ถามความสมัครใจ' (Beyond the Mirror,)
ประเทศไทยคือ 'ตัวล็อกที่ถอดไม่ได้' หากปราศจากไทย สามเหลี่ยมยุทธศาสตร์นี้ย่อมพังทลายทันที (Beyond the Mirror,) จีนต้องการไทยเพื่อเป็นทางลงสู่ทะเลที่ปลอดภัยที่สุด รัสเซียต้องการไทยเพื่อเป็นประตูเชื่อมต่อเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และไทยเองต้องใช้จังหวะนี้เพื่อยกระดับสถานะของตนเอง (Beyond the Mirror,) ด้วยความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างจีนและรัสเซีย น้ำหนักของไทยก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เพราะประเทศไทยคือจุดศูนย์กลางที่สองยักษ์ใหญ่ต้องใช้ในการเจรจาเรื่องเศรษฐกิจ โลจิสติกส์ พลังงาน และเส้นทางใหม่ๆ ประเทศไทยจึงเปรียบเสมือน 'จิ๊กซอว์ยุทธศาสตร์ที่ขาดไม่ได้' ในการจัดโครงสร้างภูมิรัฐศาสตร์ใหม่ (Beyond the Mirror,)
ตอนที่ 4: อเมริกันพาวเวอร์ถดถอย และสมรภูมิใหม่เอเชีย (The Waning of U.S. Influence)
ในขณะที่จีนและรัสเซียกำลังรุกคืบ สหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับการลดทอนของอิทธิพลในเอเชียอย่างรวดเร็ว (Beyond the Mirror,) การปรับเกมของมหาอำนาจคู่แข่งดำเนินไปอย่างรวดเร็วจนยากที่สหรัฐฯ จะตามทัน (Beyond the Mirror,) และที่น่าทึ่งคือ ประเทศไทยดันตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ 'ควบคุมได้ยากที่สุด' สำหรับสหรัฐฯ (Beyond the Mirror,)
ประเทศไทยเลือกที่จะไม่แสดงตนเป็นรัฐบริวารอย่างชัดเจน และมิได้ยอมลากเก้าอี้ไปอยู่ใต้โต๊ะของสหรัฐฯ เช่นเดียวกับบางประเทศ แต่กลับเลือกเดินเกมแห่งความไม่ชัดเจนแต่แม่นยำ (Ambiguity with Precision) โดยการนั่งอยู่กลางโต๊ะอย่างสงบนิ่ง แต่สามารถควบคุมจังหวะเกมได้ (Beyond the Mirror,) นี่คือ 'ศิลปะแห่งการรักษาสมดุลระดับเทพ' (The Art of Masterful Balancing)
ในมุมมองของสหรัฐฯ หากประเทศไทยยังคงดำรงความเป็นกลางบวกกับการเปิดรับจีนและรัสเซียอย่างไม่ขัดแย้งกับตนเอง ย่อมหมายถึงการสูญเสียอิทธิพลทางยุทธศาสตร์และศักยภาพในการควบคุมภูมิภาคอย่างสิ้นเชิง (Beyond the Mirror,) ทำให้สมรภูมิใหม่ของเอเชียมิใช่สงครามด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ หากแต่เป็น 'สงครามที่ผู้ใดได้ใจไทย ผู้นั้นชนะเกมเอเชีย' (Beyond the Mirror,) ทุกมหาอำนาจต่างต้องการไทย: จีนต้องการเส้นเลือดลงทะเล, รัสเซียต้องการทางลัดสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, และสหรัฐฯ ต้องการไทยเป็นด่านกั้นสุดท้าย (Beyond the Mirror,) การที่ไทยยืนหยัดอยู่เฉยๆ แต่สามารถทำให้สามยักษ์ต้องแย่งกันมอง จึงเป็นสถานะแห่งความสง่างามทางยุทธศาสตร์ที่เปี่ยมล้นด้วยอำนาจการต่อรอง (Beyond the Mirror,)
ตอนที่ 5: ทำไมไทยคือพันธมิตรปลอดภัยที่สุดในสายตาจีน–รัสเซีย (The Safest Partner)
สาเหตุที่จีนและรัสเซียหันมามองประเทศไทยในฐานะ 'ตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุด' มิได้เกิดจากโชคช่วย หากแต่มาจากคุณลักษณะเชิงโครงสร้างของประเทศที่ชาติอื่นไม่อาจลอกเลียนแบบได้ (Beyond the Mirror,)
- ความเป็นพื้นที่นิ่งที่สุด (The Most Stable Zone): แม้การเมืองภายในจะมีความวุ่นวาย แต่เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ไทยเปรียบเสมือนก้อนหินใหญ่กลางกระแสน้ำเชี่ยว ที่มิได้นำไปสู่การล้มล้างโครงสร้างประเทศหรือความมั่นคงหลัก (Beyond the Mirror,) จีนมองไทยว่าเสถียรพอสำหรับการลงทุนระยะยาว รัสเซียมองว่าปลอดภัยพอที่จะเป็นทางลงสู่เอเชีย (Beyond the Mirror,)
- ดีเอ็นเอการทูตที่ทรงพลัง (Powerful Diplomatic DNA): ประเทศไทยมีนโยบายที่ไม่ทะเลาะกับใคร ไม่หาเรื่องใคร และไม่ยืนข้างใครเต็มตัว แต่ก็ไม่ยอมให้ใครมาชี้นำอย่างเด็ดขาด (Beyond the Mirror,) จีนเห็นว่าไทยไว้ใจได้ รัสเซียเห็นว่าพูดคุยง่าย และโลกตะวันตกก็ยังไม่เห็นไทยเป็นฝ่ายตรงข้าม (Beyond the Mirror,)
- อำนาจการบีบที่ทำได้ยาก (Resilience Against Coercion): ไทยมีวิธีการเล่นเกมของตนเอง มีโครงสร้างรัฐที่สามารถเอาตัวรอดจากแรงกดดันภายนอกมานับครั้งไม่ถ้วน ทำให้เป็นประเทศที่บีบยาก คว่ำยาก และซื้อใจยาก แต่หากได้ใจเมื่อใด ย่อมหมายถึงการได้ทั้งภูมิภาค (Beyond the Mirror,)
- ความกว้างทางยุทธศาสตร์ (Strategic Breadth): ประเทศไทยมีพื้นที่ที่เอื้ออำนวยต่อการเชื่อมโยงอย่างครบวงจร ทั้งการลงสู่ทะเล, การเชื่อมต่อกับลาว-เวียดนาม, การวิ่งไปเมียนมา-อินเดีย, และการเชื่อมตรงกับมาเลเซีย-สิงคโปร์ (Beyond the Mirror,) คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ทุกฝ่ายต้องทำดีกับไทย แม้ไทยจะยังไม่ได้ขยับตัวอย่างหนักก็ตาม (Beyond the Mirror,) ประเทศไทยจึงเป็น 'ดินแดนปลอดภัยระดับพรีเมียม' ในสายตาของมหาอำนาจ (Beyond the Mirror,)
ตอนที่ 6: ดีลแม่น้ำโขง–ไซบีเรีย และโครงสร้างใหม่ของเอเชีย (The Mekong-Siberia Deal)
แผนยุทธศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดและเป็นความลับในระดับหนึ่ง คือ 'ดีลที่ลากเส้นจากแม่น้ำโขงถึงไซบีเรีย' ซึ่งเป็นโครงสร้างที่จีนและรัสเซียกำลังประสานกันอย่างจริงจัง และประเทศไทยตั้งอยู่ในจุดที่การพยักหน้าเพียงครั้งเดียวสามารถเปลี่ยนเส้นทางภูมิภาคได้ทั้งหมด (Beyond the Mirror,)
จีนต้องการทางลงสู่ทะเลที่ปราศจากการขวางกั้นของสหรัฐฯ ขณะที่รัสเซียต้องการทางลงสู่เอเชียที่ไม่ต้องผ่านยุโรปที่เป็นศัตรู ทั้งสองจึงมองประเทศไทยในฐานะ 'ตัวล็อกโครงสร้าง' (Beyond the Mirror,) แผนงานนี้คือเส้นทางพลังงานและโลจิสติกส์ที่เชื่อมไซบีเรียลงสู่จีนตอนใต้ ผ่านลาว แล้วปักหลักลงในประเทศไทย ก่อนที่จะกระจายต่อไปยังอินเดียและอินโดนีเซีย (Beyond the Mirror,) นี่คือโครงสร้างระดับทวีปที่หากเกิดขึ้นจริง จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็น 'ศูนย์กลางอย่างยิ่งยวด' (The Ultra-Center) เพราะทั้งสินค้า พลังงาน และโครงสร้างทั้งหมดต้องหยุดและกระจายตัวจากที่นี่ (Beyond the Mirror,)
ความเด็ดขาดของเส้นทางนี้คือมันแทบไม่เปิดช่องว่างให้สหรัฐฯ เข้ามาแทรกแซงได้เลย เพราะวิ่งผ่านเขตอิทธิพลที่จีนและรัสเซียควบคุมไว้ (Beyond the Mirror,) หากไทยเข้าร่วมดีลนี้ ผลลัพธ์ที่ได้รับนั้นมหาศาล:
- ราคาพลังงานที่ถูกลง: รัสเซียสามารถขายพลังงานตรงได้โดยไม่ต้องผ่านยุโรป ทำให้ประเทศไทยสามารถเข้าถึงก๊าซและน้ำมันในราคาที่คู่แข่งในอาเซียนไม่อาจเทียบได้ (Beyond the Mirror,)
- การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งเอเชีย (Logistics Hub): ไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางการกระจายพลังงาน, ศูนย์พักตู้คอนเทนเนอร์, และจุดรวมเส้นทางบก-น้ำ-ราง ที่ไม่อาจถูกแทนที่ได้ (Beyond the Mirror,)
- สถานะทางการเมืองใหม่: ประเทศไทยจะถูกมองว่าเป็น 'ผู้ควบคุมเส้นเลือดใหญ่ของเอเชีย' หากต้องการค้าขาย ส่งพลังงาน หรือเชื่อมต่อทวีป ล้วนต้องผ่านไทย (Beyond the Mirror,)
ตอนที่ 7: ไทยคือกุญแจเอเชียที่ไม่มีใครแทนได้ (The Irreplaceable Key)
คำว่า 'กุญแจเอเชีย' มิใช่คำยกยอ แต่เป็นสถานะจริงที่มหาอำนาจมองไทยด้วยเหตุผลที่ไม่อาจหาชาติอื่นมาทดแทนได้ (Beyond the Mirror,)
- ทำเลที่สมบูรณ์แบบ (Perfect Geography): ประเทศไทยคือประตูที่ล็อกสายการค้าของครึ่งทวีป ขยับขึ้นเหนือชนจีน, ตะวันออกชนเวียดนาม-ลาว, ใต้เชื่อมอินโด-มาเลเซีย, และตะวันตกเปิดสู่อันดามันและมหาสมุทรอินเดีย (Beyond the Mirror,)
- ดุลยภาพทางภูมิรัฐศาสตร์มหาศาล (Immense Geopolitical Balance): ไทยไม่สุดโต่ง ไม่ดิ่งข้างใด และไม่ยอมให้ใครสั่งการ (Beyond the Mirror,) ซึ่งถือเป็น 'ทองคำเชิงยุทธศาสตร์' ในยุคที่โลกแตกขั้ว
- การเป็นตัวกลางแห่งการสนทนา (The Universal Mediator): ไทยคือประเทศเดียวในอาเซียนที่ทุกขั้วอำนาจ ทั้งจีน รัสเซีย สหรัฐฯ ยุโรป และประเทศเพื่อนบ้าน สามารถพูดคุยด้วยได้หมด (Beyond the Mirror,)
- เสถียรภาพที่ไม่เหมือนใคร (Unique Stability): ประเทศไทยมี 'ความนิ่ง' ในแบบที่ควบคุมสถานการณ์ได้ รัฐไม่ล้ม กองทัพไม่แตก และเส้นทางยุทธศาสตร์ไม่พัง (Beyond the Mirror,)
ด้วยเหตุผลทั้งสามประการนี้ จีนและรัสเซียจึงทราบดีว่า หากต้องการสร้างเส้นทางพลังงาน, โลจิสติกส์ใหม่, สร้างสมดุลเอเชีย, หรือแม้แต่ปิดล้อมอเมริกาในภูมิภาค พวกเขา 'ต้องมีไทยอยู่ในสมการ' การขาดไทยหมายถึงเส้นขาด แผนสะดุด และเกมยุทธศาสตร์ล้ม (Beyond the Mirror,) นี่คือสถานะของ 'ตัวล็อกทวีป' อย่างแท้จริง
ตอนที่ 8: ถ้าไทยเข้าจังหวะถูก…สถานะชาติจะเด้งขึ้นระดับไหน (The Strategic Leap)
บทสรุปของการวิเคราะห์นี้คือ หากประเทศไทยสามารถฉวยจังหวะทางภูมิรัฐศาสตร์จากแรงผลักดันของจีนและรัสเซียได้อย่างแม่นยำ สถานะของชาติจะพุ่งสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน (Beyond the Mirror,)
หลักการสำคัญคือ ไทยไม่จำเป็นต้องเลือกข้าง แต่แค่ 'ยืนอยู่ในตำแหน่งที่ควบคุมจังหวะได้' โลกก็จะเดินเข้ามาหาไทยเอง (Beyond the Mirror,)
- สถานะผู้ควบคุมทางผ่านแห่งเอเชีย: เส้นทางพลังงาน, การค้า, โลจิสติกส์, และการเงิน ทุกเส้นทางจะถูกกำหนดโดยการพยักหน้าของไทย (Beyond the Mirror,) ไทยจะเปรียบเสมือนผู้ถือรีโมตสั่งการภูมิภาค
- อำนาจการต่อรองที่ไม่เคยมีมาก่อน: เมื่อจีนและรัสเซียต้องการไทย สหรัฐฯ ยุโรป และอาเซียน ก็ต้องเอาใจและรับฟังไทยอย่างมีน้ำหนัก (Beyond the Mirror,)
- เม็ดเงินลงทุนมหาศาล: การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ (ท่าเรือน้ำลึก, ระบบรางเชื่อมทวีป) และการย้ายฐานอุตสาหกรรมจะหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศ ทำให้ไทยสามารถเร่งสปีดจากประเทศรายได้ปานกลางขึ้นสู่ระดับประเทศรายได้สูงได้อย่างรวดเร็ว (Beyond the Mirror,)
- บทบาทในการเงินโลกใหม่: ไทยจะเข้ามามีบทบาทในฐานะ 'โหนดกลาง' ในลูกโซ่การชำระเงินสกุลหยวน-รูเบิล-บาท ในการท้าทายระบบดอลลาร์ (Beyond the Mirror,) อิทธิพลต่อระบบการเงินของไทยจะเพิ่มขึ้นหลายร้อยเท่า
- ภาพลักษณ์ใหม่ในฐานะผู้เล่นอิสระ (The Independent Player): ไทยจะถูกมองในฐานะประเทศที่มิใช่ฐานทัพของใคร แต่เป็น 'ผู้ควบคุมสมดุล' ที่มี DNA ความเป็นกลางที่ทรงพลัง (Beyond the Mirror,)
หากประเทศไทยสามารถเล่นเกมยุทธศาสตร์นี้ได้อย่างถูกต้องและรักษาสถานะความเป็นกลางได้อย่างมั่นคง ประเทศไทยจะกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอำนาจต่อรองสูงสุดในเอเชีย และจะสามารถยืนหยัดบนเวทีโลกได้อย่างสง่างามที่สุดในรอบหลายร้อยปี (Beyond the Mirror,) นี่คือจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ของประเทศไทยที่กำลังจะมาถึงอย่างชัดเจน
แหล่งอ้างอิง:
- Chanranon, S. (2024). Advice to ASEAN: 'N' should equal non-aligned, not neutral. The Strategist. [Discusses the non-aligned posture of ASEAN states, including Thailand, as a strategic tool to maintain freedom of manoeuvre amid geopolitical division.]
- Sattaburuth, N. (2023). Thailand's Indo-Pacific Adrift?: A Reluctant Realignment with the United States and China. Journal of Indo-Pacific Affairs (JIPA). [Examines Thailand's foreign policy post-2014, suggesting a posture of 'default hedging' or reluctance to fully align with the US, which supports the video's thesis on non-alignment.]
- Wong, W. (2021). The Russia-China Strategic Partnership and Southeast Asia: Alignments and Divergences. ISEAS-Yusof Ishak Institute Perspective. [Analyzes the 'comprehensive strategic partnership' between China and Russia and their converging/diverging interests in Southeast Asia, providing context for the 'strategic triangle.']
- O'Rourke, P. (2024). Testimony: “America First” cannot mean “America alone”: Engaging Southeast Asia. Brookings Institution. [Addresses the decline of U.S. influence in Southeast Asia and the region’s growing tendency to turn toward China, reinforcing the video's premise regarding the shift in global power.]
- Department of International Trade Promotion (DITP). (2025). Thailand's role as ASEAN's trade and logistics hub. Nation Thailand. [Highlights Thailand's strategic infrastructure development projects, such as the Eastern Economic Corridor (EEC) and the Land Bridge, which position the country as an undisputed regional logistics gateway.]
