In News
เอกนิติถกทูตสหรัฐฯ'ปัญหาภาษี-กัมพูชา' ชมกต.ไทยชี้แจ้งชัด/ลดภาษีมะกันใกล้จบ
กรุงเทพฯ-รองนายกฯ เอกนิติ หารือเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เน้นย้ำความร่วมมือรอบด้าน พร้อมขับเคลื่อนการเจรจามาตรการภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ต่อเนื่อง
วันนี้ (วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน 2568) เวลา 13.00 น. ณ ห้องงาช้าง กระทรวงการคลัง นายรอเบิร์ต เอฟ. โกเด็ก (H.E. Mr. Robert F. Godec) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดยสรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
รองนายกรัฐมนตรีขอบคุณเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ สำหรับการปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ไทย–สหรัฐฯ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การลงทุน ความมั่นคง และนวัตกรรม โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนความร่วมมือตามกรอบหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในระยะยาว
ด้านเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ กล่าวแสดงความเสียใจต่อสถานการณ์อุทกภัยในภาคใต้ โดยสหรัฐฯ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและยินดีให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ พร้อมย้ำว่าหากไทยต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สหรัฐฯ พร้อมประสานงานในทุกด้านทันที นอกจากนี้ สหรัฐฯ แสดงความพร้อมในการกระชับความสัมพันธ์กับไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการยกระดับความเป็นหุ้นส่วนระหว่างสองประเทศ และพร้อมสนับสนุนการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับผู้นำ
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นสำคัญ ดังนี้
ด้านสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความจำเป็นในการแสวงหาทางออกเพื่อสันติภาพ โดยรองนายกรัฐมนตรีได้ย้ำถึงการรักษาผลประโยชน์ของประเทศ รวมถึงความคาดหวังของประชาชนไทย โดยเอกอัครราชทูตฯ แสดงความเข้าใจต่อบริบทของสถานการณ์ พร้อมชื่นชมกระทรวงการต่างประเทศของไทยที่ชี้แจงสถานการณ์ต่อสาธารณะอย่างชัดเจน มีส่วนสำคัญต่อการรักษาความเข้าใจของสังคมทั้งในและต่างประเทศ
ด้านเศรษฐกิจและการลงทุน รองนายกรัฐมนตรีระบุว่า รัฐบาลมีแผนประกาศให้ปีหน้าเป็น “ปีแห่งการลงทุน” โดยมุ่งวางรากฐานสำคัญเพื่อพาประเทศกลับสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว พร้อมเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นด้านการตลาด และเร่งดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชนอย่างเต็มที่ โดยคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้เตรียมแผนรองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ เช่น พลังงานหมุนเวียน และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งล้วนมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยในอนาคต ทั้งในด้านการลงทุนใหม่ การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการยกระดับทักษะแรงงานไทย
ด้านมาตรการภาษีศุลกากรสหรัฐฯ รองนายกรัฐมนตรียืนยันว่าความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย - สหรัฐฯ ยังคงแน่นแฟ้น โดยสหรัฐฯ เป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทยมาโดยตลอด ซึ่งการหารือล่าสุดสะท้อนความคืบหน้าทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการมีแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยกรอบความตกลงการค้าต่างตอบแทนระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา (Joint Statement on Framework for United States–Thailand Agreement on Reciprocal Trade) ซึ่งกำหนดทิศทางความร่วมมือด้านภาษีและการค้าระหว่างสองประเทศ ช่วยเปิดโอกาสใหม่ด้านการลงทุนระหว่างสองฝ่าย ทั้งนี้ ฝ่ายสหรัฐฯ ชื่นชมความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการเดินหน้าการเจรจาภาษีศุลกากรสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง โดยไทยยังคงหารือเชิงเทคนิคเพื่อให้ทุกข้อเจรจามีความพร้อม และสหรัฐฯ เชื่อว่าทั้งสองประเทศจะสามารถหาข้อสรุปได้โดยเร็ว
ในช่วงท้ายรองนายกรัฐมนตรียืนยันว่า รัฐบาลพร้อมประสานความร่วมมือกับสหรัฐฯ เพื่อขับเคลื่อนประเด็นต่าง ๆ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความสำคัญของการเสริมสร้างความร่วมมือเชิงสร้างสรรค์ในทุกมิติ ซึ่งจะช่วยยกระดับความสัมพันธ์ไทย - สหรัฐฯ ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น และตอบสนองต่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศอย่างยั่งยืน

