In News

ตื่นแล้ว!รัฐฯสั่งระดมทุกภาคส่วนลงช่วย น้ำท่วม9จว.ภาคใต้'คลัง-เกษตร-บีโอไอ'



กรุงเทพฯ-รัฐบาลระดมทุกภาคส่วนเร่งช่วยเหลือเหตุน้ำท่วม 9 จว.ใต้ ด้านกรมปศุสัตว์ส่งหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน ช่วยอพยพสัตว์เลี้ยง เตรียมแผนฟื้นฟูอาชีพเกษตรหลังน้ำลด ขณะที่กระทรวงการคลังได้มีการตั้ง “ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือเครือข่ายวายุภักษ์” เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแก่ผู้ประสบอุทกภัยในภาคใต้ โดยบูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง โดยมอบหมายปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานบูรณาการการปฏิบัติงาน ส่วนรมช.อามินทร์ บริจาคไก่สดแช่แข็ง 1 ตัน สนับสนุนเสบียงผู้ประสบภัย เสริมทัพ 'ครัวประมงสงขลา' ลุยช่วยน้ำท่วมหาดใหญ่ นอกจากนี้ทางบีโอไอเผยมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในจังหวัดสงขลา หัวเมืองเศรษฐกิจใหญ่ของภาคใต้ ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยมุ่งบรรเทาความเดือดร้อนและสนับสนุนการฟื้นตัวของกิจการ ผ่านสิทธิประโยชน์ทางภาษี​​​​​​​ และรัฐบาลระดมทุกภาคส่วนเร่งช่วยเหลือเหตุน้ำท่วม 9 จว.ใต้ ด้านกรมปศุสัตว์ส่งหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน ช่วยอพยพสัตว์เลี้ยง เตรียมแผนฟื้นฟูอาชีพเกษตรหลังน้ำลด

นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากอุทกภัยภาคใต้ ส่งผลให้หลายพื้นที่ประสบอุทกภัย สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน และสัตว์เลี้ยงของเกษตรกร รัฐบาล โดยกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ปศุสัตว์ และสัตว์เลี้ยงที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ 9 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สตูล ปัตตานี สงขลา ตรัง และนราธิวาส ครอบคลุม 72 อำเภอ 388 ตำบล 2,305 หมู่บ้าน เกษตรกร 106,280 ราย มีสัตว์ในพื้นที่น้ำท่วม จำนวน 6,525,056 ตัว เป็นโค 193,652 ตัว กระบือ 2,909 ตัว สุกร 236,315 ตัว แพะ/แกะ 55,636 ตัว และสัตว์ปีก 6,036,544 ตัว แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ 7,213.40 ไร่

นางสาวอัยรินทร์ กล่าวว่า ในระยะเผชิญเหตุ กรมปศุสัตว์ได้เร่งดำเนินการแจกจ่ายเสบียงหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน จำนวน 156,740 กิโลกรัม อพยพสัตว์ จำนวน 27,512 ตัว สนับสนุนชุดส่งเสริมสุขภาพสัตว์ (แร่ธาตุ/ยาปฏิชีวนะ/วิตามิน) จำนวน 459 ชุด รวมถึงถุงยังชีพสัตว์ ลำเลียงผ่านเครื่องบินของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรไปยังจุดหมายปลายทาง จ.สงขลา พร้อมส่งหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่เข้าดูแลรักษาสัตว์ในพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง ส่วนความเสียหายที่สัตว์ตายและสูญหาย มีจำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง ตรัง นครศรีธรรมราช ปัตตานี และสตูล รวม 583 ตัว เป็นโค 23 ตัว แพะ 3 ตัว แกะ 1 ตัว และไก่พื้นเมือง 556 ตัว

สำหรับเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยสามารถติดต่อขอรับการสนับสนุนเสบียงอาหารสัตว์ได้ที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ในพื้นที่ หรือติดต่อกลุ่มโครงการพิเศษและป้องกันภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ กองส่งเสริมและพัฒนาปศุสัตว์ โทร. 0 2653 4444 ต่อ 3315 หรือขอรับความช่วยเหลือผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ภายหลังน้ำลด ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำชับให้ปศุสัตว์ในพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อจะได้รีบจ่ายเงินช่วยเหลือตามระเบียบราชการ พร้อมสั่งการให้เตรียมแผนฟื้นฟูอาชีพให้เกษตรกรภายหลังสถานการณ์ปกติ

'เอกนิติ'สั่งตั้งศูนย์อำนวยการเครือข่ายวายุภักษ์ช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ 

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สรุปนโยบายการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ว่า กระทรวงการคลังได้มีการตั้ง “ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือเครือข่ายวายุภักษ์” เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแก่ผู้ประสบอุทกภัยในภาคใต้ โดยบูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง โดยมอบหมายให้นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานในการบูรณาการการปฏิบัติงาน ให้ทุกหน่วยงานในสังกัดนำกรอบการช่วยเหลือผู้ประสบภัย 3 ระยะ คือ “ช่วยเหลือ” “เยียวยา” และ “ฟื้นฟู” เร่งออกมาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างเป็นระบบ ตามขอบเขตความรับผิดชอบอย่างเต็มกำลัง โดยมีศูนย์อำนวยการช่วยเหลือเครือข่ายวายุภักษ์เป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการและติดตามสถานการณ์จากส่วนกลางอย่างใกล้ชิด  

ระยะที่ 1 ช่วยเหลือ-ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน อาทิ
• ตั้งศูนย์รับบริจาคสิ่งของจำเป็น ณ อาคาร 150 ปีกระทรวงการคลัง เพื่อเป็นจุดรวมของบริจาคจากหน่วยงาน รัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ภายใต้กระทรวงการคลัง รวมทั้งรับบริจาคจากภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป โดยเน้นรับสิ่งของที่ผู้ประสบภัยต้องการจริง เช่น อาหารพร้อมรับประทาน น้ำ ยารักษาโรค เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ไฟฉายพร้อมถ่าน เพาเวอร์แบงค์  เป็นต้น
• กรมบัญชีกลางได้ออกแนวทางปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้างช่วงเกิดเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อให้ภาครัฐเร่งจัดการแก้ไขปัญหา และช่วยเหลือประชาชนได้ทันต่อสถานการณ์ด้วยแล้ว
• ให้กรมธนารักษ์ จัดหาพื้นที่ราชพัสดุ เพื่อใช้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยเร่งด่วน พร้อมทั้งบริหารจัดการดูแลผู้ประสบอุทกภัยที่เข้ามาใช้พื้นที่ศูนย์พักพิง

ระยะที่ 2 เยียวยา-ให้ผู้ประสบภัยกลับมาตั้งหลักได้อย่างรวดเร็ว โดยกระทรวงการคลังจะบูรณาการหน่วยงานในสังกัด ทั้งหมด ในการออกมาตรการเยียวยาทั้งประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบหลังน้ำท่วมลดระดับอย่างครอบคลุม อาทิ
• การพักชำระหนี้ 
• การลดดอกเบี้ย
• การออกสินเชื่อพิเศษ ดอกเบี้ยต่ำ สำหรับผู้ได้รับผลกระทบ เช่น ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ร้านค้า
• การมอบเงินเยียวยา
• การประสานให้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เข้ามามีบทบาทในการเร่งระยะเวลาและดูแลการเคลมประกันภัย
• การจัดตั้งศูนย์พักพิงสำหรับประชาชนที่ยังไม่สามารถอาศัยในที่พักของตนได้
• การขอความร่วมมือจากรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องผ่าน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อช่วยในการฟื้นฟูกิจการและซ่อมแซมที่อยู่อาศัยซึ่งจะเป็นการบูรณาการความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ

ระยะที่ 3 ฟื้นฟู - ให้การดำเนินชีวิตและธุรกิจกลับมาได้ กระทรวงการคลังจะออกมาตรการฟื้นฟูที่จำเป็นสำหรับผู้ได้รับผลกระทบในภาพรวม โดยเน้นมาตรการที่เป็นประโยชน์ สามารถช่วยสนับสนุนผู้ได้รับผลกระทบให้สามารถฟื้นฟูอาชีพ และชีวิตความเป็นอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ การออกสินเชื่อฟื้นฟู ซึ่งจะได้มีการพิจารณาออกมาตรการตามความเหมาะสม และนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

“การช่วยเหลือผู้ประสบภัยต้องทำอย่างเร่งด่วน ควบคู่ไปกับการทำงานอย่างเป็นระบบและบูรณาการทรัพยากรของกระทรวงและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังให้ไปถึงประชาชนและภาคธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ เป้าหมายสำคัญในตอนนี้คือทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความปลอดภัยในชีวิต ขณะเดียวกันหน่วยงานในสังกัด ทั้งภาคราชการ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และหน่วยงานในกำกับ จะดำเนินการเร่งออกมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูให้กับผู้ประสบภัยในครั้งนี้ โดยให้ความสำคัญกับการทำให้ชีวิตของประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ปลอดภัยและได้รับความช่วยเหลือในทุกมิติอย่างเร็วที่สุด และมีขวัญกำลังใจที่ดีตามมา” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในตอนท้าย

รมช.อามินทร์บริจาคไก่สดแช่แข็ง1ตัน

นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมบริจาคงบส่วนตัวสั่งซื้อไก่สดแช่แข็งกว่า 1,000 กิโลกรัม นำส่งครัวประมงสงขลา ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ณ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมลงพื้นที่ส่งเสบียงอาหารและน้ำแก่ประชาชน รวมถึงอพยพผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่น้ำท่วมสูงอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วน ได้แก่ รถสิบล้อจากกรมชลประทาน เฮลิคอปเตอร์จากกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เรือจากกรมประมง และกำลังแรงกายจากเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเป็นปกติ

ทั้งนี้ รมช.อามินทร์ ได้ลงพื้นที่แจกจ่ายเสบียงอาหารทั้งจากหน่วยงานราชการและภาคเอกชนที่ร่วมสมทบเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนตลอดทั้งวัน

บีโอไอช่วยผู้ประกอบการน้ำท่วมสงขลา

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่าจากเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ที่ก่อให้เกิดผลกระทบกับชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนอย่างรุนแรง บีโอไอขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการทุกท่าน และบีโอไอมีมาตรการที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจและช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและสนับสนุนการฟื้นฟูธุรกิจในส่วนที่บีโอไอสามารถดำเนินการได้ผ่าน มาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยซึ่งบีโอไอได้ประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2567 โดยให้สิทธิยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรทดแทนเครื่องจักรที่เสียหาย การตัดบัญชีเครื่องจักรและวัตถุดิบที่ได้รับความเสียหายโดยไม่มีภาระภาษี รวมถึงการอนุญาตให้เพิ่มกำลังการผลิตตามเครื่องจักรที่ซื้อเพิ่มหรือทดแทนเครื่องจักรเดิมที่เสียหาย 

ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดต่าง ๆ สามารถติดตามได้จากประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่ 15/2567 และประกาศสำนักงานที่ ป.7/2568 ซึ่งได้กำหนดแนวทางปฏิบัติในการขอรับการส่งเสริม เช่น การขอแก้ไขโครงการ และการขอรับสิทธิประโยชน์ การตัดบัญชีเครื่องจักรและวัตถุดิบ การนำเข้าเครื่องจักรทดแทน และหลักฐานแสดงความเสียหาย โดยกิจการที่ได้รับการส่งเสริมที่ได้รับความเสียหายสามารถติดต่อบีโอไอสำนักงานใหญ่เพื่อสอบถามรายละเอียดได้ผ่านทางโทรศัพท์หมายเลข 02-553-8111 ช่องทางอีเมล์ผ่าน head@boi.go.th และช่องทาง Line ผ่าน Line ID: @boinews เพื่อขอความช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป   

จังหวัดสงขลาเป็นฐานการผลิตสำคัญของภาคใต้ โดยมีโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจำนวนทั้งสิ้น 191 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 53,000 ล้านบาท ครอบคลุมอุตสาหกรรมหลากหลาย เช่น กิจการแปรรูปอาหาร กิจการการผลิตผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์จากผลผลิตทางการเกษตร กิจการผลิตอาหารสัตว์น้ำ กิจการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล กิจการแปรรูปยาง ซึ่งล้วนเป็นอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่

“สงขลาเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมสำคัญของภาคใต้ ผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายอย่างกว้างขวางและกระทบต่อภาคธุรกิจในพื้นที่อย่างมาก บีโอไอพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนที่ได้รับความเสียหาย ผ่านมาตรการภาษีอากร เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนและสนับสนุนให้ธุรกิจสามารถกลับมาดำเนินงานได้ตามปกติโดยเร็ว” นายนฤตม์ กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ประสงค์จะขอรับสิทธิตามมาตรการดังกล่าว ต้องมีสถานประกอบการตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับการประกาศเป็นเขตภัยพิบัติอุทกภัย และต้องยื่นคำขอพร้อมหลักฐานความเสียหายภายใน 6 เดือนนับจากวันที่สถานการณ์อุทกภัยสิ้นสุด โดย “วันที่สิ้นสุดสถานการณ์อุทกภัย” หมายถึงวันที่เหตุอุทกภัยยุติลงตามประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย หรือเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจากอุทกภัย