In Global
'ฉันทมติโลกใต้' ขับเคลื่อนในการปฏิรูป ธรรมาภิบาลโลก
การประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ชาติ หรือ จี 20ครั้งที่ 20 ซึ่งจัดขึ้นที่แอฟริกาเป็นครั้งแรก ส่งสัญญาณที่ชัดเจน นั่นคือ ประเทศกำลังพัฒนากำลังก้าวไปข้างหน้าในฐานะพลังร่วม เพื่อพัฒนาธรรมาภิบาลโลกและขับเคลื่อนการพัฒนา
จีดีพี (GDP) ของกลุ่มจี 20 คิดเป็นประมาณร้อยละ 85 ของจีดีพีทั่วโลกและประชากรเป็น 2 ใน 3 ของประชากรโลก จึงเป็นเวทีหลักในการกำกับดูแลโลก ปฏิญญาผู้นำในการประชุมสุดยอดจี 20 แอฟริกาใต้ในปีนี้เน้นย้ำความร่วมมือพหุภาคี มีความสำคัญยิ่งต่อการแก้ไขความท้าทายระดับโลก และเรียกร้องให้มีการสนับสนุนที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับประเทศกำลังพัฒนา เพื่อส่งเสริมการเติบโตที่ครอบคลุมและการพัฒนาที่ยั่งยืน
เสียงเรียกร้องดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่นโยบายเอกภาคี ลัทธิกีดกันทางการค้าของบางประเทศ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์กำลังทวีความรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงเปราะบาง และช่องว่างการพัฒนายังคงขยายตัวมากขึ้น แรงกดดันเหล่านี้เผยให้เห็นถึงปัญหาความไม่สมดุลในการบริหารโลกที่รุนแรงขึ้น ซึ่งประเทศกำลังพัฒนาในโลกใต้ไม่อยากเห็นสภาพเช่นนี้อีกต่อไป
ในขณะเดียวกัน การเติบโตของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) และประเทศกำลังพัฒนาได้ทำให้ประเทศในโลกใต้ตระหนักมากขึ้นว่า ระบบการกำกับดูแลโลกที่มีอยู่นั้นไม่ได้สะท้อนถึงผลประโยชน์และเสียงเรียกร้องของพวกเขาอย่างเต็มที่และเพียงพอ
ภายใต้ภูมิหลังเช่นนี้ การประชุมสุดยอดกลุ่มจี 20 ครั้งที่ 20ภายใต้หัวข้อ "ความสามัคคี ความเท่าเทียม และความยั่งยืน" จึงมีความสำคัญยิ่ง ประเทศโลกใต้ได้แสดงความคาดหวังอย่างชัดเจนว่า ทุกฝ่ายควรยึดมั่นในระบบพหุภาคี ลดช่องว่างการพัฒนาระหว่างโลกเหนือและโลกใต้ และมุ่งทำงานเพื่อกรอบการพัฒนาของโลกที่ครอบคลุม และเท่าเทียมกันมากขึ้น ซึ่งเป็นกรอบที่สามารถสร้างเสถียรภาพได้มากขึ้นท่ามกลางสถานการณ์โลกที่ไม่แน่นอน
จีนในฐานะสมาชิกสำคัญของกลุ่มจี 20 และเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เสนอข้อริเริ่มธรรมาภิบาลโลก (Global Governance Initiative) ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งตั้งอยู่บนหลักการสำคัญ 5 ประการ ได้แก่ การธำรงไว้ซึ่งความเท่าเทียมทางอธิปไตย การยึดมั่นในหลักนิติธรรมระหว่างประเทศ การปฏิบัติตามหลักพหุภาคี การสนับสนุนแนวทางที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และการให้ความสำคัญกับการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม ข้อริเริ่มนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยหลายฝ่ายได้เน้นย้ำถึงบทบาทเชิงสร้างสรรค์ของจีนในการจัดหาผลประโยชน์สาธารณะระดับโลก และการพัฒนาธรรมาภิบาลโลกให้มีความเป็นธรรมมากขึ้น
การเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างจีน-แอฟริกาซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงด้านการพัฒนาของประเทศต่างๆ ในแอฟริกา ได้ส่งเสริมความพยายามของประเทศโลกใต้ในการพัฒนาศักยภาพ และกระตุ้นให้ประชาคมโลกพุ่งความสนใจไปที่วาระการพัฒนาของแอฟริกาที่ถูกละเลยมานาน นอกจากนี้ ยังช่วยขยายบทบาทร่วมกันของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในการปฏิรูปธรรมาภิบาลโลกอีกด้วย
ในขณะเดียวกัน จีนและแอฟริกาได้ทำงานร่วมกัน เพื่อผลักดันการสร้างระเบียบระหว่างประเทศที่มีความเท่าเทียมกันมากขึ้น และแสดงความต้องการของประเทศโลกใต้บนเวทีโลก ทำให้กลุ่มประเทศโลกใต้สามารถมีบทบาทสำคัญเพิ่มมากขึ้นในการปฏิรูประบบบริหารโลกที่กำลังดำเนินอยู่
ปัจจุบัน การปฏิรูประบบการบริหารโลกกำลังมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งประวัติศาสตร์ ความร่วมมือพหุภาคี และการพัฒนาร่วมกันมีความสำคัญยิ่งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในฐานะพลังขับเคลื่อนสำคัญของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา จีน แอฟริกา และประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ควรร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง ยึดมั่นในความเป็นธรรมและความถูกต้อง และส่งเสริมความร่วมมือในทางปฏิบัติ เพื่อช่วยนำพาธรรมาภิบาลโลกไปสู่ระบบที่มีความเป็นธรรมและความเท่าเทียมกันมากยิ่งขึ้น


