In News
ทบ.ประณามเขมรยิงBM-21ถล่มพลเรือน ที่กันทรลักษณ์เจ็บ4/มีอะไรบนเนิน677
กรุงเทพฯ-ทบ. ประณามกัมพูชา ยิงจรวด BM-21 ตกพื้นที่พลเรือน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ 4 รายผู้ว่าฯศรีสะเกษ กำชับห้ามประชาชนกลับเข้าบ้านในพื้นที่ชายแดนเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัย พร้อมได้สรุปสถานการณ์การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา วันที่ 13 ธันวาคม 2568 เวลา 11.00 น.
เช้าวันนี้ (13 ธ.ค.68) กองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ว่าฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธจรวด BM-21 ยิงตกเข้ามาในพื้นที่พลเรือน บริเวณด้านหน้าบังเกอร์หลบภัย หมู่ที่ 1 ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ประชาชนซึ่งได้ยินเสียงแจ้งเตือนและกำลังวิ่งเข้าหลบภัยในบังเกอร์หลบภัย ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด มีอาการสาหัส 2 ราย ได้แก่
1. นายแก้ว กินนรา แขนขวาหัก
2. นายรำไพ สุวรรณศิลป์ ได้รับแรงกระแทกที่ศีรษะและมีเลือดออกในสมอง

ซึ่งกองทัพบกได้บูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครองและสาธารณสุขในพื้นที่ เร่งนำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเบญจลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย คือ นาย คมสัน ศรีอ้วน โดนสะเก็ดระเบิดบริเวณหลังคอ และ นายเสรี ปัถอินทรี มีอาการบวมที่ศรีษะเนื่องจากโดนสะเก็ดระเบิด ได้เร่งนำส่ง รพ.ศรีรัตนะ
กองทัพบกขอประณามการกระทำของกำลังทหารกัมพูชาอย่างรุนแรง ต่อเวทีประชาคมระหว่างประเทศ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นหลักฐานชัดเจนถึงการใช้อาวุธโจมตีใส่พื้นที่พลเรือนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการทางทหารของกัมพูชา ละเมิดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์
ผู้ว่าฯศรีสะเกษ กำชับห้ามประชาชนกลับเข้าบ้านในพื้นที่ชายแดนเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัย

จากกรณีเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 09.00 น. ทหารกัมพูชาได้ระดมยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้ามาในพื้นที่บ้านเรือนของประชาชน ในเขตตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้ประชาชนพลเรือนได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย ในจำนวนนี้อาการสาหัส 1 ราย ขณะเดินทางกลับจากศูนย์อพยพเพื่อมาดูแลและให้อาหารสัตว์เลี้ยงที่บ้านพักของตนเอง เจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือและเร่งนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลโดยทันที
ขณะเดียวกัน สะเก็ดระเบิดจากการโจมตีดังกล่าวได้ก่อให้เกิดเพลิงลุกไหม้บ้านเรือนประชาชนเสียหายจำนวน 2 หลัง โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์การบริหารส่วนตำบลบึงมะลู ได้นำรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์จนสามารถระงับเหตุไว้ได้แล้ว
ล่าสุดในวันเดียวกัน นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวถึงสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า ขณะนี้ประชาชนคงได้รับทราบข้อมูลจากสื่อต่าง ๆ แล้ว อย่างไรก็ตาม ขอให้ติดตามข่าวสารจากสื่อหลัก โดยเฉพาะสื่อของกองทัพบกและหน่วยงานราชการเป็นหลัก เนื่องจากเป็นแหล่งข้อมูลที่มีความถูกต้อง ชัดเจน และแม่นยำ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนยังคงดำเนินอยู่ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้อยู่ภายในศูนย์พักพิงชั่วคราว และงดเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเวลานี้ เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางรัฐบาลเป็นหลัก
ด้านเจ้าของบ้านที่ถูกจรวด BM-21 ตกใส่จนได้รับความเสียหายและเกิดเพลิงไหม้ อยู่ในอาการเสียใจอย่างมาก โดยเปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงคล้ายบั้งไฟ จึงรีบพากันหลบเข้าไปในหลุมหลบภัย ก่อนจะได้ยินเสียงยิงต่อเนื่องเป็นชุด ๆ บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่สมัยเด็ก โชคดีที่ไม่มีผู้ใดในครอบครัวได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้สมาชิกในครอบครัวได้อพยพออกจากพื้นที่ทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงตนเองและบิดาที่ยังอยู่เพื่อเฝ้าทรัพย์สิน
เจ้าของบ้านรายดังกล่าวยังกล่าวอีกว่า การปฏิบัติการทางทหารและการสู้รบในครั้งนี้มีความรุนแรงอย่างมาก โดยเฉพาะในวันนี้ที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นกว่าวันที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด จากการระดมยิงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับเหตุปะทะในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สถานการณ์ในเดือนธันวาคมนี้ถือว่าหนักหน่วงกว่ามาก หลังจากนี้ยังไม่ทราบแนวทางการดำเนินชีวิตต่อไป คงต้องไปอาศัยบ้านอีกหลังหนึ่งเป็นการชั่วคราว
ขณะที่ชาวบ้านอีกรายซึ่งอาศัยอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นและเกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง รู้สึกเหมือนแรงกระแทกเข้ามาถึงร่างกาย ในช่วงเวลานั้นกำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่บริเวณหลังบ้าน แม้จะตกใจ แต่ด้วยความเคยชินต่อเหตุการณ์ที่ผ่านมา จึงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวมากนัก อีกทั้งไม่ต้องการอพยพออกจากพื้นที่เนื่องจากเป็นห่วงสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงไว้ ทั้งปลา ไก่ และสุนัขจำนวน 4 ตัว
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในช่วงเช้าวันเกิดเหตุรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากจนขาสั่น เดินแทบไม่ไหว แต่เมื่อเสียงปะทะสงบลง สภาพจิตใจก็กลับสู่ภาวะปกติ โดยในพื้นที่ดังกล่าวชาวบ้านส่วนใหญ่ได้อพยพออกไปแล้ว แต่ตนยังยืนยันจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ต่อไป สำหรับความรู้สึกต่อการโจมตีจากฝ่ายกัมพูชา ในฐานะประชาชนไม่อาจยอมรับหรือให้อภัยได้ เนื่องจากเป็นการอยากจะบุกรุกเข้ามาในดินแดนของประเทศไทย.
สรุปการเข้ายึดเนิน677พื้นที่ช่องอ่านม้าได้อะไรบ้าง
และได้สรุปสถานการณ์การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา วันที่ 13 ธันวาคม 2568 เวลา 11.00 น. ดังนี้.-
1. เข้ายึดที่หมายซำแต, เนิน 677 พื้นที่ช่องอานม้าได้เรียบร้อย แต่ยังอยู่ในระหว่างการปฏิบัติการทางทหาร
2. พื้นที่คนา เข้ายึดได้แล้ว 3 ที่หมาย อยู่ระหว่างปฏิบัติการในส่วนที่เหลือ
3. พื้นที่ตาควาย ยังมีการรบปะทะอย่างหนัก ผลการปฏิบัติจะรายงานให้ทราบต่อไป
4. สำหรับพื้นที่สำคัญอื่นๆ ตลอดแนวชายแดน ยังคงมีการสู้รบประปราย สถานการณ์อยู่ในระดับควบคุมได้และการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากฝ่ายกัมพูชามีความพยายามในการใช้อาวุธปืนใหญ่ และจรวดหลายลำกล้อง (BM-21) ยิงเข้ามายังฐานปฏิบัติการของฝ่ายเรา
ยึดเนิน677 มีอะไรตกค้างจากทหารเขมร
รายการยุทโธปกรณ์และสิ่งอุปกรณ์ที่สำคัญจากการเข้ายึดที่หมายฐานปฏิบัติการของทหารกัมพูชาพื้นที่ซำแต และ เนิน677 ดังนี้
1. โทรศัพท์ 8 เครื่อง 2. สมุดบันทึกการปฏิบัติงานของทหารกัมพูชา 1 เล่ม 3. ลูกระเบิด m203 7 ลูก 4. จรวด RPG พร้อมอุปกรณ์ 50 ชุด 5. กระสุนปืน 11,765 นัดและ 6. วิทยุสื่อสาร 15 เครื่อง
จากการตรวจสอบในสมุดบันทึกการปฏิบัติงานของทหารกัมพูชา พบข้อมูลแผนผังการวางทุ่นระเบิดและกับระเบิดแสวงเครื่องในวันที่ 12 ส.ค. 68 จำนวน 11 จุด 30 ลูก และ กับระเบิดแสวงเครื่องประกอบ TNT จำนวน 2 จุด 6 ลูก นอกจากนั้นยังพบแผนการเตรียมวางทุ่นระเบิดในวันที่ 21 ส.ค.68 จำนวน 6 จุด แต่ยังไม่ระบุจำนวนทุ่นระเบิดเอาไว้ สำหรับโทรศัพท์ทั้ง 8 เครื่องและสมุดบันทึก 1 เล่ม ได้นำส่งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบและขยายผล
สำหรับพื้นที่ต้องสงสัยว่าจะมีการวางทุ่นระเบิด/กับระเบิด ปัจจุบันหน่วยได้ทำการควบคุมพื้นที่ดังกล่าวเพื่อเตรียมการให้กับหน่วยที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจพิสูจน์ และจะรายงานให้ทราบต่อไป
กองทัพภาคที่ 2 ขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่า จะดำเนินการ ทุกมาตรการอย่างเต็มขีดความสามารถ เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประชาชน และปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และศักดิ์ศรีของประเทศชาติ อย่างเด็ดขาดและถึงที่สุด
