In Thailand

ปลัดแรงงานลงหาดใหญ่ร่วมรัฐ-เอกชน ขับเคลื่อน'ซ่อม-สร้าง-สุข-ปั้นคนให้งาน'



สงขลา-ปลัดกระทรวงแรงงาน ยืนหยัดเคียงข้างประชาชนทุกวิกฤต ลงพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผนึกกำลังรัฐ–เอกชน ขับเคลื่อน “ซ่อม สร้าง สุข สร้างคนให้งาน” ฟื้นชีวิตแรงงานสงขลาหลังน้ำลด

วันที่ 17 ธันวาคม 2568 พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นำคณะผู้บริหารสังกัดกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา ตรวจเยี่ยมกิจกรรม “ซ่อม สร้าง สุข สร้างคนให้งาน” ของสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 12 สงขลา พร้อมให้กำลังใจผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ ณ วัดโคกสมานคุณ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยมี นายชูชีพ ธรรมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายเอกชัย แก้วรัตนะ นายอำเภอหาดใหญ่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้กล่าวขอบคุณกระทรวงแรงงานที่สนับสนุนการดำเนินโครงการ “ซ่อมสร้างสุข สร้างคนให้งาน” โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 12 สงขลา บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ทีมช่างจิตอาสา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้บริการตรวจเช็ก ซ่อมแซมอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องยนต์เล็กเพื่อการเกษตร และรถจักรยานยนต์ รวมถึงฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและคืนเครื่องมือทำกินแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดสงขลา

พร้อมระบุว่า แม้จังหวัดสงขลาจะได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างกว้างขวาง แต่ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน การฟื้นฟูและเยียวยาได้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนพื้นที่ส่วนใหญ่กลับสู่ภาวะปกติ การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมในครั้งนี้จึงเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่ประชาชนอย่างยิ่ง และสะท้อนพลังความร่วมมือในการนำความสุขและโอกาสกลับคืนสู่พี่น้องชาวสงขลาอย่างเป็นรูปธรรม

พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กิจกรรม “ซ่อม สร้างสุข สร้างคนให้งาน” มีจุดเริ่มต้นจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งได้สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อพี่น้องประชาชนเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะแรงงานอิสระที่ต้องเผชิญกับการสูญเสียเครื่องมือประกอบอาชีพและรายได้ในทันที กระทรวงแรงงานตระหนักถึงความเดือดร้อนดังกล่าว และยึดมั่นในหลักการว่า จะไม่ทอดทิ้งคนไทยในทุกสถานการณ์ จึงได้มอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานจัดตั้ง “โรงครัวกระทรวงแรงงาน” เพื่อเร่งส่งต่อข้าวกล่องและอาหารปรุงสุกแก่ผู้ประสบภัยในช่วงเวลาวิกฤตอย่างทันท่วงที เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย กระทรวงแรงงานได้มีมาตรการฟื้นฟู โดยได้ระดมช่างอาสากว่า 100 คน เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และพันธมิตร ลงพื้นที่ดูแลบรรเทาความเดือดร้อนของแรงงานอย่างต่อเนื่อง ผ่านมาตรการฟื้นฟูเร่งด่วนภายใต้ศูนย์ “ซ่อม สร้าง สุข” ทั้ง 9 จังหวัดภาคใต้ ด้วยการซ่อมแซมเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบอาชีพ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และเข้าสู่กิจกรรม “ซ่อม สร้าง สุข สร้างคนให้งาน” โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 12 สงขลา เพื่อเปิดโอกาสให้พี่น้องแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานอิสระ เข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรอาชีพต่าง ๆ ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อเสริมสร้างทักษะ เพิ่มพูนความรู้ และต่อยอดสู่อาชีพที่มั่นคง อันจะนำไปสู่การ “สร้างงาน” ให้แรงงานสามารถกลับมาทำงานได้อย่างรวดเร็ว มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว และยืนหยัดพึ่งพาตนเองได้อย่างเข้มแข็งอีกครั้ง ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ “สุข” ที่เกิดขึ้นกับแรงงานและครอบครัว ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสูงสุดของกระทรวงแรงงาน ความตั้งใจทั้งหมดนี้สะท้อนถึงภารกิจของกระทรวงแรงงานในการยืนหยัดอยู่เคียงข้างประชาชนในทุกช่วงเวลา และจะไม่หยุดทำงานจนกว่าพี่น้องแรงงานทุกคนจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ มั่นคง และภาคภูมิใจในศักดิ์ศรีของตนเองอีกครั้ง

นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า  การเร่งฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ให้กลับสู่ภาวะปกติ เป็นภารกิจเร่งด่วนที่ภาครัฐต้องเข้ามาดำเนินการช่วยเหลือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ในฐานะหน่วยงานหลักด้านการพัฒนาศักยภาพแรงงาน ซึ่งมีบุคลากรและเครือข่ายช่างฝีมือทั่วประเทศ จึงได้ร่วมกับบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) จัดทำโครงการ “ซ่อมสร้างสุข สร้างคนให้งาน” กิจกรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11–17 ธันวาคม 2568 โดยมี 4 กิจกรรมสำคัญ ได้แก่ 1. การซ่อมแซมรถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์ขนาดเล็ก และเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมกว่า 2,000 ชิ้น ซึ่งดำเนินการโดยช่างอาสา และช่างทุกคนที่ร่วมภารกิจจะได้รับค่าจ้างวันละ 600 บาท ถือเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ไปพร้อมกับการช่วยเหลือประชาชน 2. การฝึกอบรมยกระดับฝีมือให้แก่แรงงานอิสระ ในหลักสูตรช่างจักรยานยนต์มืออาชีพ ช่างซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน และการประกอบอาหารสตรีทฟู้ด การฝึกอบรมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ พร้อมได้รับเบี้ยเลี้ยงคนละ 760 บาทตลอดหลักสูตร  3. แรงงานอิสระที่ผ่านการฝึกอบรมจะได้รับวุฒิบัตรจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และได้รับเครื่องมือทำมาหากินมูลค่า 2,000 บาท เพื่อเป็นทุนตั้งต้นให้สามารถนำทักษะที่ได้ไปต่อยอดอาชีพ สร้างรายได้ และกลับมายืนหยัดได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง  4. มอบข้าวสารให้แก่ผู้มาใช้บริการ จำนวน 600 กิโลกรัม

สำหรับกิจกรรมในวันนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ในโอกาสนี้ ขอขอบคุณบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ที่ให้การสนับสนุนและร่วมเป็นพลังสำคัญกับภาครัฐ รวมถึงสถานบำบัดพิเศษสงขลาและเรือนจำกลางสงขลา ที่เปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังซึ่งมีทักษะด้านช่างได้เข้ามามีส่วนร่วมทำประโยชน์เพื่อสังคม อันสะท้อนถึงพลังความร่วมมือในการช่วยเหลือประชาชนให้สามารถกลับมาดำรงชีวิตและประกอบอาชีพได้ตามปกติโดยเร็ว

ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา